ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 2

มันเป็นความโง่อย่างไม่น่าเชื่อ ของเรา ที่เรามี พระธาตุ ของพระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่กับเรามานานถึง 12 ปี แต่ไม่เคยรู้เลยว่า นี่แหละ พระธาตุของพระองค์ จำได้ว่าเมื่อปี 2004 เดินสายไปแมรี่แลนด์ บัลติมอร์ ทริปครั้งนั้น เพื่อจะหาเงินสดมาไถ่ถอน บ้านที่ถูกพี่สาวนำไปจองอยู่กับธนาคาร ออกมาคืนให้แม่ เพราะพี่สาวสิ้นบุญไปเสียก่อนแล้ว แม่ตรอมใจมาก เสียทั้งพี่สาว และบ้านที่แม่รักมากกำลังจะถูกแบงค์ยึด บ้านหลังนี้กว่าแม่จะได้ แม่ต้องเก็บหอมรอมริบเงินจากการทำขนมขายส่งตามโรงเรียนมาเกือบ 20 ปี ลงกับบ้านหลังนี้ ขณะนั้นเราอยู่ ฮิวตันกับแม่และน้องชาย

พวกเราไม่ใช่คนมีฐานะ แต่มีงานทำกันทุกคนพออยู่รอด เรามีเงินสดติดอยู่ในบัญชีแบงค์ออฟ ตอนนั้นแค่ 2000$ จึงอธิษฐานจิตกับพระโพธิสัตว์กวนอิมว่าจะเดินสายไปหาเงินมาไถ่บ้านให้แม่นะ ขอพระองค์ทรงประทานพรให้ด้วย ขอให้ช่วยแม่ได้ เรามีหมายกำหนดไปถึงแมรี่แลนด์ เพราะลูกศิษย์ลูกหาทางนั้นเชิญแต่ลงที่แอลเอก่อน แค่แอลเอเมืองเดียวก็กวาดไป เกือบ หมื่นห้า ดอลล์ แล้วช่วงนั้นเราไม่มีประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับพระธาตุเลย ความรู้ หรือเคยพบเห็นอะไรที่เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ อรหันต์ ธาตุ อะไรทั้งนั้น ไม่มี พี่เพลินจิตที่แมรี่แลนด์เธอพาไปบ้านไปกราบพระ และ ให้ดู พระอรหันต์ธาตุ เธอบอกว่า “น้องเป็นคนดีมาก มีความกตัญญูรู้คุณ มาหาเงินไถ่ถอนบ้านให้แม่ พี่จะให้พระธาตุน้ององค์นึงนะ อันนี้เป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านเสด็จมาเพิ่มในผอบ พี่ให้น้อง อัญเชิญไปบูชาดีๆนะ” ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุองค์นี้ ภายหลังแปรสภาพ รูปพรรณสัณฐานให้เห็นเป็นอัศจรรย์ กับยังอยู่กับเรา ณ ปัจจุบัน วันนั้นเราจำได้ด้วยว่า เธอได้ให้เราชมพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางยืนบนมังกร องค์สีขาว และที่ฐานมีพระธาตุของพระองค์ตกลงมามายมาก พี่เพลินจิต ตักแบ่งออกมาให้เราบูชา จำนวนไม่น้อย

เพราะความงี่เง่า จำได้แต่พระบรมสารีริกธาตุ เพราะพระองค์แสดงปาฏิหาริย์ให้ชม สติแตก ลืมทุกอย่างหมด ลืมว่าของพระนางเมี่ยวซัน ก็ได้มา พอกลับมาฮิวตัน ก็ใส่ผอบเอาไว้ ไม่ได้เขียนชื่อว่าเป็นของพระนางเมี่ยวซัน ตราบจนเวลาผ่านมา 10 ปี เมื่อกลับมาเมืองไทย นำไปถามผู้รู้ดู เขาบอกเป็น ของพระนิลพัตร อะไรจำไม่ได้ พอปี 2015 คือเมื่อเขียนต้นฉบับนี้ มีโอกาสรู้จัก น้องกวาง คุณเอ๋ คุณว. คุณอ. คุณแหม่ม เพียงนำไปให้พี่ว.ดู พี่แกบอกเลยว่า “ของพระโพธิสัตว์กวนอิมปางขี่มังกร” เท่านั้นละวงแตก เพราะน้องกวาง คุณแหม่ม ใครๆก็ตื่นเต้นอยากได้ไปบูชา  เราบอกว่ามีน้อยมากเดี๋ยวจะอธิษฐานจิตขอให้เสด็จมาเพิ่มนะ มิน่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาอธิษฐานขอเท่าไหร่ก็ไม่มา ก็เพราะความโง่เขลา เบาปัญญาของตนเองนั่นเอง

การนั่งสมาธินั้น เทพไท้เทวา ท่านมาฟังการสอนด้วยว่าสอนเด็กท่านอย่างไร?  เด็กทุกคน มีความตั้งใจ มีปฏิปทา มีความศรัทธา ในพระนางเมี่ยวซันและปู่กวนอู ทุกคนมีฐาน แต่ไม่มีทิศ จะต้องปลูกฝังให้เด็ก เห็นความสำคัญ ของ ทางสายเอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นทางเดียวที่จะพ้นทุกข์ได้  ทางกวนอู ทางกวนอิม ทางปู่ศิวะ หรือทางเยซู นั้นไม่ใช่ แต่ทุกพระองค์ท่านทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะจานวา จะรับใช้ทุกพระองค์ ที่ส่งใครก็ตาม ที่หลงทางเข้ามาให้เกิดแสงแสงปัญญากันทุกคน

เราต้องเน้นย้ำ ว่า ธรรมะของพระตถาคตเท่านั้นที่เราช่วยให้เราพ้นทุกข์ เราจะพ้นทุกข์ได้ ก็ด้วยความเพียร เราจึงเป็นที่รักของทุกพระองค์

อันทางสายเอก ของพระพุทธองค์บอกไว้ชัดเจนแล้ว 5 ข้อว่า

  1. เป็นทางที่พระพุทธองค์ค้นพบแต่ลำพังเพียงผู้เดียว ซึ่งหัวใจของพุทธศาสนาอยู่ที่ พระอริยสัจ4, ทางสายกลางที่มรรคมีองค์ 8
  2. เป็นทางที่มีแต่ในพุทธศาสนา ศาสนาเดียว
  3. เป็นทางที่ไปได้แต่เพียงลำพังผู้เดียว
  4. เป็นทางที่เป็นสายตรง ไม่มีแตกแยกเป็น 2-3 ง่าม
  5. เมื่อใครได้อยู่บนเส้นทางนี้แล้ว ไปจนสุดเส้นทาง ไม่มีการกลับมา

จากนั้นเราจะพูดถึงพื้นฐานว่าก่อนการจะทำซักฟอกชำระล้างจิตใจของเราให้สะอาดได้นั้น กายจะต้องสะอาดก่อน ด้วยการรักษาศีล  ใครที่สามารถ เข้าสมาธิ แล้วทำจิตให้ว่างได้ ในขั้นต้น หรือเข้าญาณ แล้วก็ตาม โดยไม่รักษาศีลให้บริสุทธิ หรือไม่รักษาศีลแม้เพียงแต่ข้อเดียว จะพบว่า ความปราณีต ละเอียดอ่อนของจิต นั้นจะแตกต่างจากผู้ทรงศีลบริสุทธิ์อย่างมาก แล้วเขาเหล่านั้นมักจบลงด้วยได้โลกียธรรมกันเป็นแถว คือ เพียงเอากายให้รอด จิตก็ยังคงมืดมัวไปด้วยตัวกิเลสอยู่

เมื่อเด็กทั้ง 3 มานั่งได้ 3 วัน เป็นเช่นนี้

หนุ่มโอ๊ก สารภาพว่า ผมอยากนั่ง มานานแล้ว แต่ผมไม่เคยได้ได้เลย  แต่พอผมมานั่งที่บ้านอาจาน ตั้งแต่วันแรกเลยผมนั่งได้ และเข้าใจที่อาจารย์พูด โอ๊กทำเราตกใจมาก เพราะเราคิดว่าเขานั่งได้มานานแล้ว

ส่วนน้องกวาง  เมื่อฟังเราเล่าประสบการณ์ของเราให้เธอฟังเกี่ยวกับ “ธรรมะของพระตถาคต ใครอยากจะได้ ต้องแลกกันด้วยชีวิต” น้องกวางใจถึงใจเด็ด จะเอาตามได้ท้าให้เจ้ากรรมนายเวรมาเลย เธอยอมตาย ขณะนั่ง ปรากฏว่า ขันธ์มาร  ได้ระดมเข้าจู่โจมเธอทั้งร่าง จนเราตกใจบอกเอ็งอย่าบ้าอย่าทำอย่างนี้อีก ปากพล่อยๆ ไปท้าเขา เขาเอาจริงนะ พระนางเมี่ยวซัน รักเจ้ากวางมาก ได้ ทดสอบอารมณ์ โทษะของหนูกวางทุกวัน ซึ่งเราก็จับทางได้ ถูกว่าต้อง ให้กวางกำจัดกิเลสชนิดหยาบที่เรียกว่า “ตัวโทสะ” นี้ลงให้ได้ก่อน    3 วันน้องกวางก็จับทางได้ จากคำสั่งสอนของเรา

ที่ห่วงที่สุด คือเจ้าเอ๋ เธอเป็นสาวราศีธาตุน้ำ เมื่อนั่งกัน 3 คน จับได้ ว่า จิตเจ้าเอ๋ พุ่งเข้าสู่ตัว ปีติ-สุข ก่อนอื่นแล้วแสดงอาการ ของวิปัสสนูกิเลสออกมาก่อนเพื่อน กับประกาศในอาการชัดเจนว่า “กูจะติดสุขของกูอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ใครจะไปไหนก็ไปกูไม่สน” เราต้องเอาตุ๊กตา ขว้างไปที่ตัวเอ๋ เต็มแรง ขณะเธอหลับเธอตกใจสะดุ้งสุดตัว ให้เธอออกจากอาการปีติ เป็นที่ชอบอกชอบใจของเจ้าโอ๊กกับน้องกวางมากถึงกับวันถัดมา เขาเอาตุ๊กตา มาวางไว้ใกล้ๆ มือเรา แค่วันแรกเราก็รู้แล้ว แค่วันแรก โอ๊ต ผู้นั่งไม่เคยได้ ก็สามารถเอาจิตจับตัว เวทนาที่เกิดที่เข่า ของเขาอันเกิดจากขันธ์มารได้ สำเร็จ ในวันแรก วันที่ 2 เราหากลอุบายเอาเจ้าเอ๋ ออกจากอาการปีติที่เขาติดมาหลายปีออกสำเร็จ วันที่ 3 เอ๋นั่ง โดยมีตัวสติตื่นอยู่เต็มร้อย

สิ่งที่เรากลัวและหวั่นใจที่สุดคือ เมื่อผลงานในการปั้น ไอ้ 3 ลิงนี้ออกมาสำเร็จเป็นที่พอใจพระนางเมี่ยวซัน ปู่กวนอู และพระตถาคต พวกเขาวางแผนจะส่งอะไร เข้ามาให้เราปราบเซียนอีก ก็ต้องจดจ้องคอยดูชนิดไม่ต้องหายใจกันทีเดียว

นี่เป็นการสอนคลาสแรกที่บ้านบุญรักษา จากจำนวนนักเรียน 3-4 คน กลายเป็นปัจจุบัน นักเรียนเกือบสามสิบคน กับเดินทางไปเปิดคลาส ทั้งอเมริกาออสเตรเลีย ด้วยผลงานของจานวา ที่ ไม่มีใครทำได้ จนท้ายสุด ปลดวิญญาณ เจ้ากรรมนายเวรของนักเรียนทุกคนได้