ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 105

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งจัดเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกรูปหนึ่งนี้เกิดขึ้นที่หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2019 เมื่อเรากับลูกศิษย์อีก 4 คนพากันไปเปิดคลาสที่หาดใหญ่ ตามคำเชิญของญาติโยม โดยเขาออกตั๋วไป – กลับ พร้อมจองโรงแรมให้อีก 7 วัน ทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น จนกระทั่งในคืนวันที่ 6 เมื่อเราเล็งเห็นว่า จากการสอนที่ผ่านมาได้ 5 วัน ทุกวันที่เราสอน ท้ายชั่วโมงเราจะให้เด็กทุกคนเข้าสมาธิตามวิธีที่เราสอนมาทุกคืน ขณะเดียวกันเราจะสกรีนดูสภาวะจิตของเด็กทุกคน จนมั่นใจว่า เด็กทุกคนพร้อมที่จะสัมผัสกับพลังจิตของหลวงปู่หลวงตาผู้อยู่ต่างภพต่างภูมิกันได้แล้ว หมายถึงสภาวะจิตของเด็กต้องละเอียดประณีต หรือสงบปราศจากนิวรณ์ 5 ข้อใดๆ มารบกวนแล้ว เราจึงจะกระทำในขั้นต่อไปนี้ได้ คือ เราได้น้อมจิตอัญเชิญ พลังของหลวงปู่หลวงตาแต่ละพระองค์ในต่างภพต่างภูมิ ให้ส่งพลังหรือกระแสของเมตตา เจโตวิมุติมาให้ศิษย์เราแต่ละคน กับช่วยตัดวิบากให้ศิษย์เราคนนั้นๆด้วย ซึ่งแต่ละพระองค์ทรงความเมตตา กับยินดีมาร่วมบุญกันด้วยทุกครั้ง เท่ากับพระคุณเจ้าเหล่านั้นมีส่วนร่วมกับการเปิดคลาสทุกครั้งด้วย เราทำมาทุกคลาสแต่จะไม่ทำในวันแรก จะทำในวันที่ 6 หรือ 7 คือเมื่อเด็กแต่ละคนพร้อมกันแล้วจริงๆ เท่านั้น ในคลาสที่ผ่านๆ มาเรามักจะอัญเชิญ หลวงปู่ทวด ปู่กวนอู พระศิวะ หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงตามหาบัว พ่อหลวงรัชกาลที่ 5  พระโพธิสัตว์กวนอิม บางทีได้อัญเชิญพระเยซู ท่านก็ส่งพลังมาให้เด็กเราสัมผัสกันได้ทุกครั้ง แถมพระเยซูท่านมาช่วยรักษาให้ด้วยในแต่ละครั้งที่ท่านเสด็จมา ซึ่งการกระทำแบบนี้เรากล้ารับประกันได้ว่า จะหาครูผู้ที่เปิดคลาสสอนสมาธิ มาทำให้เด็กได้สัมผัสกันได้นั้น …. หาได้ยากมาก เพราะผู้ที่จะสื่อกับเบื้องบนได้ทุกพระองค์นั้นต้องมีจิตใจที่ขาวสะอาด พร้อมทั้งถูกเบื้องบนทุกพระองค์เห็นพ้องต้องกันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วว่า …. มันใช่เลย  กับทุกครั้งที่เราเปิดคลาส ทุกพระองค์จะมาฟังกันอย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมอนุโมทนาบุญกับเรา อะไรที่พระคุณเจ้าทั้งหลายช่วยได้ ทำให้ได้ ท่านยินดี ดังนั้นสำหรับเราแล้วการเอ่ยปาก อัญเชิญแต่ละพระองค์ให้ส่งพลังลงมาช่วยเด็ก จึงถือเป็นเรื่องง่ายๆ เป็นไปได้และเป็นไปแล้วหลายคลาส เพื่อให้เด็กได้สัมผัสถึงพลังที่แปลกใหม่ ซึ่งต่างจากการนั่งสมาธิกับเราเองทุกวัน แล้วจิตสงบเบื้องหน้าเราทุกคืน จู่ๆมีพลังที่แปลกใหม่มาปะทะเด็กจะรับได้ทันที กับสอนให้เด็กรู้ว่าคุณสมบัติของจิตที่ชะล้างแล้วนั้น มันมหาศาลประมาณมิได้ขนาดไหน ให้รับรู้กันว่าหน้าที่ที่แท้จริงของจิตอีกอย่างคือ เป็นได้ทั้งเครื่องรับ – กับเครื่องส่งดีๆ นั่นเอง ในภายภาคหน้าจะได้ใช้กันให้เป็น

จิตที่สงบและปราศจากอารมณ์ใดๆ มารบกวน มีเพียงลมหายใจที่แผ่วๆ ละเอียดจนแทบไม่รู้สึกว่าตนหายใจอยู่ เกาะเกี่ยวเอาลมหายใจเป็นอารมณ์  ไม่มีอาการง่วงเหงา ไม่มีนิวรณ์ 5 จิตยิ่งประณีตละเอียดขนาดไหน สติจะยิ่งตื่นตัว พร้อมทั้งจิตจะสว่างโพลงเพียงนั้น ดังนั้นในชั่วเวลาขณะนี้ ถ้ามีพลังอะไรที่แปลกใหม่มาปะทะกับดวงจิต จิตจะไหวตัวรับรู้ถึงพลังนั้นๆ ที่มากระทบจิตทันที …. เช่นถ้าเชิญปู่กวนอู ท่านจะลงหนัก จะโถมลงกลางดวงจิตให้เรารับได้ แล้วพลังของปู่จะค่อยๆ กระจายแผ่ซ่านความเย็นเป็นเบาสบาย ขนจะลุกวูบวาบ  แล้วปู่จะค่อยๆ ตัดวิบากต่างๆ ที่ค้างคาอยู่ในจิตของคนๆ นั้นตามวิธีของปู่ ถ้าเชิญองค์พระศิวะ ปู่ศิวะ จะลงมาเป็นแสงสีน้ำเงินครามเป็นเส้น ลงมาทางศีรษะของคนๆ นั้น พลังของปู่ศิวะยิ่งใหญ่มาก จะเย็นสบายอย่างไม่เคยสัมผัสมาก่อน จนบางครั้งทำให้เกิดอาการเหมือนตนเองจะลอยขึ้นมาในอากาศ มันอเมซิ่งมาก เหนือคำบรรยาย บางทีเราจะถามเด็กในคลาสก่อนว่านับถือพระคุณเจ้าองค์ไหน อย่างเช่นคลาสที่รังสิต เมื่อถามเด็กในคลาสคนหนึ่ง เธอเป็นชาวอีสาน มาเป็นแม่บ้านอยู่ในกรุงเทพฯ คลาสนั้นเราเปิดที่รังสิต เราถามเธอว่า นับถือพระองค์ไหน เธอตอบว่า หลวงตามหาบัว  เราจึงน้อมจิตเชิญพระหลวงตามหาบัว ท่านส่งพลังเต็มๆ ให้เด็กคนนั้น เธอมีอาการขนลุกซู่ชูชันน้ำตาแห่งความปีติไหลออกมาเอง เธอมารับภายหลังว่าเธอดีใจมากนึกไม่ถึงว่าจะได้สัมผัสกับพลังของหลวงตา ตลอดเวลาที่นั่งสมาธิมาแรมปีไม่เคยสัมผัสกับอะไรเช่นนี้ จัดเป็นมงคลแห่งชีวิตของเธอที่ครั้งหนึ่งในชีวิต หลวงตามหาบัว ส่งพลังมาโปรดเธอ เธอจึงมอบความศรัทธาให้แก่เราอย่างมิต้องสงสัย

มากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หาดใหญ่ เด็กในคลาสทุกคนมีพื้นฐานของจิตที่ดีมาก ซึ่งเรามั่นใจว่าเด็กทุกคนที่ได้มาเข้าคลาสนี้หลวงปู่หลวงตาได้คัดแล้ว สกรีนกันแล้ว กับส่งมาเข้าคลาสเราอย่างจงใจกันแล้วทุกคน เพราะการที่ใครจะมาเข้าคลาสเราได้นั้น ต้องมีสัญญาเก่าต่อกันมาเช่นเคย เป็นสาวกเรา บริวารเก่าเรา มิตรสหายเรา เท่านั้น จึงจะเข้าคลาสเราได้ บางรายเจ้ากรรมนายเวรของเด็กจะอาฆาตเด็กมากถึงขนาดทำให้เด็กเดินไม่ได้ ตั้งแต่วันแรกที่เราเปิดคลาสเลยจนเด็กต้องเข้าโรงพยาบาล พอวันสุดท้ายเราปิดคลาส เด็กก็หายเป็นปกติออกจากโรงพยาบาลได้ โดยหมอหาสาเหตุแห่งการเจ็บไข้ไม่เจอ ถือเป็นเรื่องปกติเกิดมาแล้วกับเด็กนักเรียนของเรา

ในคลาสที่หาดใหญ่คืนนั้น เป็นคืนวันที่ 6 เราได้ เชิญพลังของหลวงปู่หลวงตา ครูบาอาจารย์ ผ่านเด็กแต่ละคน แม้กระทั่งเจ้าตุ๊กตา อายุ 56 ปี เธอสติแตก จากปัญหาชีวิตที่กัดกินเธอมากว่า 40 ปี สุขภาพไม่สู้ดี แถมถูกทำของ เราเอาไปรักษาที่เชียงใหม่อยู่ 3 เดือน จนมีอาการดีขึ้น กับเธอใช้ความเพียรพยายามมาเข้าคลาสทุกวัน เราไม่แน่ใจว่าตุ๊กตาจะรับพลังอะไรได้ เพราะสภาวะจิตของเธอยังไม่ละเอียด หรือสงบพอ แต่เราได้ให้โอกาสนั้นกับเธอ โดยอัญเชิญพลังแห่งความเมตตาของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ส่งผ่านให้ตุ๊กตา หลวงปู่เมตตา มาทันที 5 นาทีผ่านไป เราถามตุ๊กตาว่า  เครื่องรับของเอ็งรับพลังหลวงปู่ได้ไหม “ ได้พี่ ตุ๊กตากำลังเหน็บกิน หายเลย กับเย็นสบายทั้งตัว หลวงปู่มารักษาให้ตุ๊กตา ขอบคุณพี่มากๆ ” สำหรับคุณตุ๊กตาเธอเทิดทูนเราไม่ผิดกับพระเจ้าเลยทีเดียว เพราะสามารถถอนของที่ถูกเขาทำมาแรมปีให้เธอได้อย่างง่ายๆ ด้วยพระพุทธคุณ จากนั้นเรามองไปเบื้องหน้าเรา เจ้ามี่ อายุเธอ 36 ปี นั่งอยู่เบื้องหน้าเราเลย เจ้ามี่แอบบอกเราก่อนเข้าคลาสวันนี้แล้วว่า “ อาจารย์ อย่า เรียกหนูนะ หนูไม่มั่นใจในตัวเอง หนูว่าหนูทำไม่ได้ ” เรารับปากว่าจะไม่เรียก แต่ ณ.บัดนี้ เราจับจิตของมี่ ซึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าเราได้ ว่ากล้าๆ กลัวๆ เราจึงเรียกชื่อเธอขึ้นมาเป็นรายต่อไป ว่า  “มี่ เราขออัญเชิญพลังของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ลงตัดวิบากให้เธอนะ ” มี่ตกกระไดพลอยโจน รับปาก “ ค่ะ ” แล้วเธอสัมผัสทันที เราตามดูจิตเธอมันตกใจผวาแล้วสั่นระรัว แล้วสงบนิ่ง แต่เปลือกตาเธอเต้นยิบๆ อยู่ 2 – 3 นาที เธอค่อยๆ บอกเราว่า “ อาจารย์ หนูลืมตาไม่ได้ ” ตัวเธอเริ่มเย็นวาบเบาสบาย และตัวไหวน้อยๆ พร้อมน้ำตาไหล เปลือกตายังเต้นยิบๆ เราต้องค่อยๆ คลานเข้าไปหาเธอกอดเธอปลอบใจเธอว่า “ ไม่เป็นไรๆ เราอยู่นี่ ” พลางลูบไล้ใบหน้าเธอ กอดเธอปลอบใจเธอ จนเธออยู่ในอาการปกติแล้วลืมตาได้ เธอร้องไห้ออกมา พร่ำแต่คำว่า “ หนูทำได้ หนูทำได้ หนูไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้ ” เวลาเราอัญเชิญเด็กคนอื่นๆ จะเข้าสมาธิกันนิ่งๆ และสงบเพราะลำพังพลังจิตของเราเองสามารถควบคุมจิตของเด็กทุกคนในห้องให้สงบอยู่เป็นปกติแล้ว

เมื่อหนูมี่กลับมาเป็นปกติ เราได้ เอ่ยขอขมากับหลวงปู่ฝั้น  อาจาโร   ในคลาสเลย ว่า “ หลวงปู่ลูกลืมไป ลูกขอขมาหลวงปู่ด้วย โปรดงดโทษลูกด้วย ลูกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่า หลวงปู่จัดเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นผู้เป็นเลิศ ทางด้านพลังจิต นี่ขนาดหลวงปู่ส่งพลังลงมาแค่นิดเดียวเพราะหลวงปู่รู้ เด็กของลูกยังเป็นขนาดนี้ ถ้าหลวงปู่จัดใหญ่ส่งมาให้ทั้งหมด เด็กของลูกตายแน่ ” แต่เพราะหลวงปู่รู้ดี ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเจ้ามี่จิตมันอ่อนกว่าทุกคน ถ้าเชิญหลวงปู่ลงเจ้าหงส์หรือเจ้าโอ๊ต คงไม่มีเรื่องเช่นนี้ เพราะสองคนนั่นเค้าฐานจิตดีเพียงพอ แต่เจ้ามี่ ชีอ่อนไหวมาก แต่ลูกมาคิดอีกทีก็ดีนะหลวงปู่ เจ้ามี่กับทุกคนในคลาสจะได้รับรู้ กับยอมรับกันว่าพลังจากหลวงปู่หลวงตาที่ส่งลงมานั้นมีอยู่จริง เออ สรุปแล้วร้ายกลายเป็นดี ถ้าใครได้ไปอ่านพระประวัติของหลวงปู่ฝั้น จะรู้ได้ว่าพลังจิตท่านขนาดไหน กับนี่เป็นครั้งแรกที่เราเชิญหลวงปู่ฝั้น ซึ่งท่านก็เมตตามาโปรด เรื่องพลังจากครูบาอาจารย์ ยังมีอะไรดีๆให้เราได้ตามศึกษาอีกมากมาย วันหลังจะลองเชิญของหลวงปู่สุข กับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำดูบ้างแล้ว

พลิกตำนาน… ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ ได้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย หากท่านใดสนใจ