ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 11
- พฤศจิกายน 12, 2016
- ตอน แม่นาง นิศามหาเทวี

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จานวา แต่งขึ้นเอง เพียงเพราะว่า เป็นนักเขียนที่ไร้เทียมทาน ต้นฉบับลงที่ไหน มันสว่างไสวไปที่นั่น
ด้วยแสงแห่งปัญญา เช่นเดียวกับแก้วนาคา ที่ได้ไปจากจานวา เป็นที่เล่าลือกันว่าเป็นแก้วที่มีตัวตน มีชีวิตชีวา บางคนเห็นของจริงตัวจริงของนาคมาแสดงให้เห็นจากทั้งตาใน และตาเนื้อ ทั้งในและนอกประเทศ เข้าไปอ่านใน FB จานวา เขาลงกันโครมๆ
คืนนั้น ตรงกับคืนวันที่ 14 ตุลาคม อันตรงกับวันเกิดเรา คณะเราพากันเดินจากโรงแรมมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดกลางคืนริมฝั่งโขง ขณะที่ทุกคนอ่อนระโหยโรยแรงเพราะเดินกันมาไกลกว่าหนึ่งกิโล ผ่านร้านรวง ไฟแดง ข้ามถนน ผู้คนจอแจ จนมาถึงถนนสายหนึ่งค่อนข้างจะมืด เปลี่ยว ที่ริมฟุตบาท เรามองเห็นหญิงแก่ขอทานคนหนึ่งคลานอยู่ จากข้างหนึ่งของเต็นท์ ที่เธอใช้พลาสติกกับผ้าเก่าๆ มุงพอกันแดดกันฝน ที่ ที่เธอเรียกว่าบ้าน ภาพของเธอทำให้ฝีเท้าเราชะงัก ขณะที่ทุกคนไม่เห็นเมื่อเห็นเราหยุดเดินทุกคนมองตาม ภาพนั้นทำทุกคนเข่าอ่อน เมื่อเราตรงเข้าไปควักเงินลาวที่มีอยู่ออกมาทำบุญกับเธอ บอกตนเองว่า นี่เองที่ทำให้เราเดินเท้ามาแทนที่จะนั่งรถตุ๊กออกมา เพื่อทำบุญกับหญิงขอทานคนนี้ในวันเกิด หญิงชรา ชะงัก มองดูกลุ่มเรา มองเงินในมือเราด้วยสายตาที่ริบหรี่ ด้วยความลำบากเพราะชราภาพ พอเธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ท่าทางเธอดีใจ เมื่อเราบอกว่า “ยาย เราให้เงินยายนะ วันนี้วันเกิดเรา ให้พรเราด้วย” พรที่ยายให้ทำน้ำตาเราซึม เธอให้พรเป็นภาษาลาวที่พอฟังเข้าใจ เธอพยายามพูดไทย เพราะฟังสำเนียงเรารู้ว่าเราไม่ใช่ลาว เธอให้พรยาวเหยียด กับไพเราะมาก ตา กับดอน ซึ่งดอนเป็นฝรั่ง ต่างควักเงินเข้ามาทำบุญกับเธอจากนั้น เจ้าเป้ กับเด็กทุกคนต่างทำบุญกับเธอ
ทุกคนเกิดอาการอิ่มบุญ อิ่มอก อิ่มใจ พากันเดินไปจนถึงริมฝั่งโขง ดูแสงไฟระยิบระยับ กับร้านรวงต่างๆ ของชาวบ้านเอาผักเอาปลามาวางขาย ทั้งขนม ของกินมากมาย เมื่อพวกเราชมตลาดชมลำน้ำโขงกันเสร็จจึงพากันเรียกรถตุ๊กอัดกัน 9 คน กลับที่พัก เวรกรรม รถไปตายก่อนถึงที่พัก ประมาณ 300 เมตร เราจึงพากันแยกย้าย เดินกันกลับห้อง และ 20.00 น หรือ 8.00 ทุ่มของคืนวันที่ 14 วันเกิดเรานั้น ลูกศิษย์ลูกหา เกือบ 15 คน ยังขอเข้ามาอัดในห้องโรงแรมที่เราพัก โดยเราพักคนเดียวในห้อง ศิษย์คนอื่นจับคู่กันทุกคน

15 คน ศิษย์ต้องช่วยกันขยับเตียง ทุกคนนั่งอัดกันแล้วฟังธรรมะนั่งสมาธิกับเราจนเกือบ 22.00 น. หมายความว่า เราได้บุญใหญ่อีกในการแสดงธรรมในคืนวันเกิดให้ญาติโยมได้ซาบซึ้ง ในรสธรรมกัน
วันที่ 15 ทั้งวันเราตระเวนเที่ยววัดวา ตลาดในลาวกันจนเย็น ยังค้างคืนที่เดิม โรงแรมในลาว ซึ่งอยู่ติดริมฝั่งโขง เวลา 05.00 เช้า เราตื่นมานั่งสมาธิ มองดูพระอาทิตย์ ที่ค่อยๆ โผล่พ้นน้ำขึ้นริมฝั่งโขง จิตมันนิ่งสงบมีความสุขมาก เมื่อคืน คุณอารีย์ ซึ่งมานั่งสมาธิในห้อง จบคลาส เธอมาก้มกราบแทบเท้าเรา บอก หนูนั่งที่ไหนที่ไหน ไม่เคยได้เหมือนนั่งกับอาจาน เพราะมันเกิดอาการประหลาด คือจิตหนูนิ่งสงบ แต่ตัวหนูร้อน แล้วแข็งไม่มีอาการเหน็บชา เหมือนถูกบล็อก ขยับเขยื้อน ไม่ได้ แต่หนูรู้ตัวมีสติอยู่ตลอดเวลา หนูรู้เลยว่าหนูได้พบครูบาอาจารย์แล้ว เธอได้ก้มกราบแทบเท้าเราอย่างไม่เกรงกลัวต่อสายตาศิษย์คนไหน

เด็กอีกคน ชื่อหนูเมย์ ซึ่งเป็นเด็กใหม่มาจากทาง FB บอกอาการของเธอว่า หนูรอวันที่จะพบอาจารย์ตัวจริง ชนิดนับวันนับคืนรออาจารย์เลย พออาจารย์เดินลงจากเครื่องเข้ามาที่ ที่พักผู้โดยสาร ทันทีที่ปรากฏ ร่างอาจารย์ ขนหนูลุกซู่ ซ่า ตัวร้อนวูบวาบ อย่างอธิบายไม่ได้ กับหนูนั่งกับใคร ฟังธรรมที่ไหน ก็ไม่ได้อย่างที่ได้ฟังธรรมจากอาจารย์ หนูขอฝากตัวเป็นศิษย์ หนูได้พบครูบาอาจารย์แล้ว กับหนูเพิ่งท้อง หลังจากรู้ข่าวว่าจะไปดูบั้งไฟกับอาจารย์ เด็กที่มาเกิดเป็นผู้ชาย เขามาเข้าท้องตรงกับตอนที่หนูจะได้พบอาจารย์ แล้วได้ฟังธรรมจากอาจารย์ด้วย เพราะหนูได้อธิษฐานให้ลูกของหนูได้บวชไม่ศึก เขามาเข้าท้องหนู ทันที่จะได้ฟังธรรมกับอาจานถึง สามสี่คืน หนูโชคดีจริงๆ เราจึงอธิษฐานจิตให้ลูกเจ้าเมย์ เมื่อเติบใหญ่ได้บวชเรียนเพื่อเป็นกำลังของพุทธศาสนา สืบต่อไป เอาชนิดบวชไม่สึก เด็กเมย์ได้เล่าประสบการณ์ ก่อนพบเราอีกว่า เมย์เป็นเพื่อนพี่รตี รตีเป็นศิษย์เรา หนูตามจานทางหน้าเฟสมากว่าปี หนูปักใจเลยว่า คนๆ นี้ ( จานวา ) นี่แหละหนูจะขอเป็นครูบาอาจารย์แล้วจะขอเกาะอาจารย์ไม่ปล่อยอีกคน พอจิตหนูเปิดรับอาจารย์เท่านั้น เกิดเรื่องเลย ประมาณหนึ่งอาทิตย์ผ่านมาหลังจากที่หนูอธิษฐานจิตของหนูเองคนเดียวขอรับจานเป็นครูบาอาจารย์ วันนั้นหนูนั่งสมาธิ ขันธ์มารกำลังลงเล่นหนู หนูได้ยินเสียงคนมาบอกหนูว่า ให้ดูเวทนาว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตามกฎของพระไตรลักษณ์
เจ็บตรงไหนให้ดูตรงนั้น ตามกฎของพระไตรลักษณ์ ตอนนั้นหนูยังไม่รู้ว่าเสียงใคร จนกระทั่ง จานได้เปิดคลาส ถ่ายทอดสด จาก Adelaid ออสเตรเลีย เป็นคลาส Askimo คืออาจานหนาวนั่งคลุมผ้าห่มสอน หนูตามดูรายการสดจากการสอนของอาจารย์ เสียงอาจารย์บอกให้เด็กทุกคนดูเวทนา ตามกฎพระไตรลักษณ์ อย่างที่หนูได้ยินตอนหนูนั่งหนูขนลุกซู่เลยรู้ว่าเป็นอาจารย์ โห!!! พลังจิตจานสุดยอดเลย” ตัวอยู่ที่ ยังไปสอนอีกที่กับร่วงรู้วาระจิตของศิษย์ด้วย
คืนวันที่ 15 เรานอนกันริมฝั่งโขงของฝั่งลาว อีกหนึ่งคืน
วันที่ 16 เราจะกลับหนองคาย ไปมุดถ้ำดินเพียง แล้วคืนนั้น เราจะไปชมบั้งไฟกันที่ โพนพิสัย ซึ่งผู้นำทัวร์ทำการจองที่ไว้ริมโขงเรียบร้อยแล้ว เด็กทุกคนตื่นเต้นกันรอไม่ไหว เพราะเขานับวันนับคืนจะไปชมบั้งไฟกับมุดถ้ำนาคากันมาถึง 2 เดือน บางคนถึงกับยอมอดอาหารเพราะกลัวมุดถ้ำไม่ได้ ยังตรงกับวันออกพรรษา วันที่ 16 จึงเป็นวันที่จิตใจของทุกคน จดจ่อ รวมถึงเราด้วยเพราะหมายกำหนดการณ์จะถึงวัดหินหมากเป้งตอนบ่ายๆ วันนั้น เราจะได้ทำการปลดปล่อยวิญญาณ ของแม่นางนิศามหาเทวี เธอรอคอยอยู่ แต่ก่อนอื่น คณะเราต้องไปมุดถ้ำนาคากันก่อน ถ้ำดินเพียง บางสิ่งบางอย่างรอเราอยู่ที่นั่น ปู่ภุชงค์บอกใบ้มาแล้ว แล้วเราก็ได้เจอจริงๆ เจออะไรที่ถ้ำดินเพียง ตามตอนต่อไป