ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 154

เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว ปิดคลาสที่ถ้ำบัวตองวันที่ 25 มกราคม 2020 ความเหน็ดเหนื่อยจากการตื่นนอน ตี 3 – 4 ทุกวัน แต่ยังไม่ได้เวลาพัก ทุกคนแยกย้ายกันกลับตั้งแต่วันที่ 25 เย็นแล้ว  วันที่ 26  เราต้องไปลำพูน ดูที่ ที่เขายกให้ฟรีๆ 2 ไร่ พร้อมโฉนด อยู่เชิงเขา ภูเขาล้อมรอบ  ยกให้โดยไม่มีข้อแม้ ทุกเวลาเช้าตรู่จะมีนกยูงเป็นฝูงบินลงมาจากเขา

หากจะบอกว่า  เราตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอฟรีๆ นี้ เพราะอายุมากแล้วไม่อยากเป็นภาระ อีกทั้งล่าสุดพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่มั่นได้มาบอกอะไรเราไว้อย่างหนึ่งเป็นการเตือนสติเรา ทำให้เราปล่อยวางทุกอย่างได้หมด โดยท่านบอกว่า บ้านบุญรักษาของเจ้า คือสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างดีอยู่แล้ว ให้เก็บกำลังเรี่ยวแรงเอาไว้ใช้เทศน์สอนคน อย่าเอาไปลงกับที่อื่นให้เหนื่อยเปล่า เท่านั้นเราตาสว่างเลย ตอนบ่ายพาคุณอนงค์ เปิ้ล เป้ กับหน่อยไปเที่ยว เวียงกุมกาม ดูเมืองเก่านั่งรถม้าชมรอบเมืองกัน วันที่ 27 – 28 ไปเชียงรายกับคุณอนงค์อเนก ไปดูฮวงจุ้ยให้ที่ดินของเขาที่นั่น กว่าจะได้พัก คือวันที่ 29   เรากับนิชาวัลย์แทบสลบ คลานกันอยู่แถวบ้านบุญรักษา แต่เรามีเวลาพักกันหนึ่งเดือนในเดือนกุมภาพันธ์เต็มๆ จึงชวนกันไปโปรดพระธุดงค์ ที่ดอยนก สะเมิง แล้วเตรียมตัวไปเปิดคลาสที่หาดใหญ่กัน ขณะเดียวกันเราไม่ให้เสียเวลา โพสต์ลงหน้าเฟส หาผู้ร่วมบุญสมทบทุนกันไปทอดผ้าป่าที่วัดต้นเลียบ ของหลวงปู่ทวด เพื่อต่อยอดที่แบ่งมาจากวัดถ้ำบัวตอง 16,000 บาท เผื่อได้ยอดสูงกว่านั้น ยังมีเวลาอีกเกือบเดือน เพราะเรามาโพสต์ เอากลางเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้ว ปรากฏว่าเพียงชั่วเวลา ไม่ถึง 2 อาทิตย์ มีผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันต่อยอดหลวงปู่ทวด ทั้งจากออสเตรเลีย อเมริกา เมืองไทยกันอย่างล้นหลาม รวมยอดเฉพาะจากทางเรา ได้สูงถึง 70,000 กว่าบาท จากทุนเพียง 16,000 รวมกับทางของคุณอเนกชาวใต้เอง รวมทั้งหมด วัดต้นเลียบของหลวงปู่ทวดได้ยอดผ้าป่าครั้งนั้น 700,000 กว่าบาท เจ็ดแสนกว่า งานนี้ เราให้สามเณรจากอดีตชาติของหลวงปู่ทวด เป็นตัวแทนเราไปกับศิษย์คนสนิทเราอีก 3 – 4 คน

การเปิดคลาสที่หาดใหญ่ มีประสบการณ์ ใหม่ๆ ที่ต้องนำมาเล่าให้ฟังเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคลาสใหญ่ๆ ที่เน้นปริมาณ หลอกเอาปัจจัยชาวบ้านเอาครูบาอาจานมาหาเงิน แต่ไม่เอาคำสอนท่านมาด้วย ที่ท่านบอกให้ปิดตำรา ปิดตำรา มาเอาผลของการปฏิบัติให้ได้กันก่อน คลาสที่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมทะนุบำรุงพระศาสนา แต่เป็นคลาสที่ใฝ่หาคนที่มีฐานะ แต่ไร้ด้วยมันสมอง   กับพวกที่หลอกได้ง่ายๆ คลาสพวกนี้จะไม่เน้นคุณภาพ จะไม่เน้นภาคปฏิบัติ จะเน้นแต่วิชาการ หรือภาคปริยัติ ( เพื่อหวังปัจจัยโดยการขายตำราแผ่นซีดี ) เมื่อเป็นดังนี้ อาการปฏิเวธทางจิต ซึ่งจะได้มาจากการปฏิบัติ ก็จะไม่เกิดขึ้น  เพราะในคลาสที่หาดใหญ่นี้ เราวางแผนไว้ในสมอง เงียบๆ คนเดียวแล้วว่าเราจะลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำกับคลาสไหนเลย นำมาใช้ที่นี่ ครูสอนสมาธิ คนไหนสนใจจะนำไปใช้กันดูไม่หวงแหน อาจจะถูกกับจริตในการสอน แล้วอาจจะยกระดับตนเองขึ้นมาเป็นครูสอนสมาธิได้อย่างสง่างามให้พระตถาคตได้ภูมิใจ เปลี่ยนภพภูมิของตนเอง  รวมถึงภูมิจิตภูมิธรรมของตนจะได้สูงยิ่งๆ ขึ้นด้วย

เนื่องจากจิตมันบอกได้ว่า คลาสที่หาดใหญ่ จะมีคนเกือบ 50 คน ซึ่งเป็นคนงานของคุณอเนก เขามีจิตเมตตา จะให้คนงานมาสวดมนต์กันก่อนเข้าทำงานอยู่แล้วทุกวัน คนงานของเขาทุกคนพื้นฐานจิตใจดี เป็นบริวารเก่าของเขาจากอดีตชาติทั้งสิ้น เพราะบารมีของคุณอเนก กับคุณอนงค์ไม่ธรรมดา ทำดีๆ ชาตินี้มีสิทธิ์เป็นชาติสุดท้ายของเขาทั้งสอง  ทั้งคู่ เป็นพระโสดาบันมาเกิดเพื่อต่อยอด กับยังมีบารมีมากพอที่จะลากเอาบริวารอีกจำนวนมากไปด้วย เขาขาดแต่ผู้ที่จะมาแสดงธรรมให้ได้ ถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคุณอนงค์ได้โอกาสมาเข้าคลาสเราเพียงวันเดียว เธอไปลากสามีตามมาวันที่สอง แล้วคนทั้งคู่ก็สรุปได้เลยว่าคนที่ตามหาอยู่ หลุดหลเข้ามาในชีวิตพวกเขาแล้ว

เราจะข้ามคลาสที่หาดใหญ่ไปก่อน จะนำมาพูดถึงปาฏิหาริย์ของคลาสที่หาดใหญ่ทีหลัง เรามาพูดถึงเรื่องธรรมมะ ที่จัดสรรให้เราคลาดแคล้วจากวิกฤติ ของโลกอย่างเหลือเชื่อกันก่อน  เมื่อปิดคลาสที่หาดใหญ่ เรา เปิ้ล เป้ หน่อย ปุ้ม เดินทางกลับกรุงเทพฯ เชียงใหม่ กันอย่างเหนื่อยอ่อน  จากวันที่ 7 มีนาคม เรากับเปิ้ลจึงสลบกันอยู่ที่บ้านบุญรักษา ได้อาทิตย์กว่า วันที่ 16 – 20 มีนาคม เรายืนยันกับคุณกบ จุฬนี แล้วว่าจะไปเปิดคลาสให้เธอที่บ้านเธอที่สมุทรปราการ มีนักเรียน คน สองคน ก็จะสอนให้เพื่อรักษาคำพูด แต่จะสอนให้อย่างดีที่สุด จึงหวังว่าคงมีนักเรียนไม่ถึง 5 คน  เพราะพื้นที่ในบ้านคุณกบ คงจุคนได้ไม่ถึง 20 คน

กลับจากหาดใหญ่ วันที่ 7 มีนาคม มีเวลาพักอยู่ที่บ้านบุญรักษาประมาณ 10   วัน เราเดินทางจากเชียงใหม่ไป กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 มีนาคม โดยใช้รถของเลขา ตอนนั้นโควิดเริ่มมาแรงแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศ เคอร์ฟิว  เราตั้งใจกันว่าพอปิดคลาสวันที่ 20 มีนาคม เราจะบินกลับเชียงใหม่ก่อนเลย โดยให้เลขาไปส่งที่สุวรรณภูมิ แล้วให้เลขาพักอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ จนใกล้สิ้นเดือนมีนาคม ให้เลขาบินกลับเชียงใหม่ พอวันที่ 1  เมษายน  เราสองคนขึ้นเครื่องอีวาจากเชียงใหม่ บินไปไทเป ต่อเข้าอเมริกาเลย  เป็นแผนที่เราตั้งใจไว้  แต่กลับไม่ใช่แผนของเรา เป็นของธรรมจัดสรร อย่างแท้จริง  เพราะพอเริ่มเปิดคลาสที่สมุทรปราการ วันแรก ได้ข่าวว่าเกิดไฟไหม้ป่าบริเวณพระธาตุดอยคำ ที่เชียงใหม่ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ จากนั้นไหม้ดอยสุเทพ ด้วยฝีมือเดริฉานมนุษย์ ที่เผามันทุกปี รัฐบาลน่าจะออกโทษประหารชีวิต เพื่อตัดปัญหานี้อย่างเด็ดขาด แต่เพราะปัญหาเผาป่ามันลึกลับทับซ้อน สาวไปสาวมาจะพากันฉิบหายหมด เลยต่างคนต่างเงียบดีกว่า  บวกกับค่าละอองฝุ่นในเชียงใหม่แซงหน้าโควิด หนักกว่าทุกปี เราหวังว่า พอปิดคลาส วันที่ 20 – 21 จะซาลงบ้าง กลายเป็นว่า ไปไหม้ต่อที่อื่นไหม้กันอย่างสนุกสนาน พอปิดคลาสวันที่ 20  พอดีทางการประกาศเคอร์ฟิว 21 – 22 ห้ามเดินทาง ห้ามออกข้ามเขตจังหวัด สายการบินต่างประเทศเริ่มยกเลิกไปทีละสาย  เราต้องทำใจในการที่ต้องเสียแผนครั้งแรกในชีวิต แต่มาคิดได้ว่าอะไรมันจะเข้าล็อคลงตัวหมดอย่างเฉียดฉิวอย่างนี้  เราจึงตัดสินใจพักผ่อนอยู่ที่บ้านคุณกบ จุฬนี ที่สมุทรปราการ ที่ธรรมจัดสรรมาให้ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ ของหมู่บ้านชัยพฤกษ์ ในเครือแลนด์ แอนเฮ้าส์ ตั้งแต่ซื้อมา 3 ปีกว่าคุณกบ ไม่เคยมานอน คนแรก ที่เธอขอเชิญเข้ามานอน คือเรา จนทุกวันนี้ครอบครัวคุณกบ ยังไม่เคยมาหลับนอนกันในบ้านหลังนี้ กับเธอสำทับมาว่า เข้ากรุงเทพฯทุกครั้งอาจารย์มาพักที่นี่ เนื่องจากเราขายบ้านที่กรุงเทพฯไปแล้วเพราะดูแลไม่ไหว บ้านคุณกบ หมู่บ้านอยู่กลางทุ่งนา หลังบ้านติดทุ่งนาเก่าที่หญ้าขึ้นรกชัฏไปหมด จึงกลายเป็นทุ่งหญ้าคาสลับป่า จะมีลมแรงพักโกรกมาจากห้องด้านหลังของบ้าน 2 ห้องตลอดเวลา เบื้องหน้าประมาณ100 เมตร เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ภายในหมู่บ้านซึ่งมีเกือบ 100 หลังตาเรือน เขาจัดสวนสนุก สนามหญ้า ทางเดินเล่น สระน้ำ ม้านั่งข้างสระน้ำ หน้าหมู่บ้านมีระบบรักษาความปลอดภัย รถคันไหนเข้าออก ยามจะตามจี้มาถึงบ้าน ก่อนเข้าหมู่บ้านมีตรวจวัดอุณหภูมิ กับแลกบัตร  หน้าหมู่บ้าน มี โลตัส 7 – 11 ร้านอาหารตามสั่ง  ตลาดชาวบ้าน มันเป็นชุมชนเล็กๆ ที่ห่างจากโควิด หมอกควันที่อากาศบริสุทธิ์ปลอดโปร่ง แล้วยังอุดมสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างข้อสำคัญ เราสามารถเดินจากตัวบ้านออกไปหาซื้อของหน้าปากทางเข้าได้สบายๆ  เหงื่อไม่ทันออก เพราะบ้านอยู่ ซอย ที่ 1 เลย เดินออกไปร้านค้า ใกล้มาก บ้านมีเครื่องใช้ที่จำเป็นที่คุณกบ หามาเตรียมไว้ให้ ตู้เย็นตัวเล็กๆ ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า แอร์ในห้องนอนหนึ่งตัวพร้อมเตียง ตู้เสื้อผ้า ค่าน้ำ ค่าไฟ คุณกบ จะจัดการให้หมด เธอขอให้อยู่ ต่อไปนานๆ จะนานเท่าไหร่ได้หมด เมื่อเป็นดังนี้ กลายเป็นว่า ช่วงวันที่ 21  มีนาคม – กลางเดือนเมษายนเลย ธรรมได้จัดสรรให้เรากระดิกตัวไปไหนไม่ได้ เหมือนจะกักกันเราไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยสะดวกสบาย กับมัดมือชกให้เราเหมือนได้พักร้อนกัน ตอนเย็นๆ เราจึงพากันออกเดินเล่นในหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านอยู่กลางทุ่งนา จึงได้รับลมเย็นไปทุกสารทิศ  แล้วเดินเลยออกไปหน้าหมู่บ้าน ซื้ออาหารตามสั่งที่ปลอดเนื้อสัตว์มาตุนกันไว้ วันๆ ได้แต่นั่งสมาธิ เดินจงกรม บางวัน 7 – 8 ชั่วโมง ส่วนคลาสที่เปิดที่บ้านนี้ มีประสบการณ์ของหลายๆ คน เราจะนำมาพูดในบทความเรื่องคลาสที่สมุทรปราการในภายหลัง

แม้ว่า บ้านคุณกบ จะเย็นสบาย น่าอยู่ สะอาด ใหม่ เพื่อนบ้านต่างคนต่างอยู่ ก็ตาม วันแรกที่มาถึง ต้องมีการทักทายจากเจ้าที่กันก่อนเป็นธรรมดา ทั้งๆ ที่เจ้าที่รู้มานานแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกเลย ที่เราได้ มานอนที่บ้านนี้แล้วก็ตาม ครั้งแรกนั้นเจ้าเปิ้ลมาด้วย เจ้าที่เลยไม่กล้าจัดหนัก แต่ครั้งที่ 2 คืนแรกที่มาถึง คือวันที่ 15 มีนาคม เลขาแวะส่งเราที่บ้านคุณกบ แล้วเราให้เลขากลับไปนอนบ้านอยู่กับครอบครัวเลย ดังนั้นคืนวันที่ 15 เราจึงเล่นกันตัวต่อตัวกับเจ้าที่ มีโอกาส คืนเดียว เพราะพรุ่งนี้เช้า เป็นวันแรกที่เปิดคลาส เจ้ารัตน์ กับเจ้าผึ้ง ( รัตน์ มาจากชุมพร ผึ้งมาจากเพชรบุรี ) ซึ่งมาเข้าคลาสด้วย สองคนนี้เด็กใหม่ทั้งคู่ คนชื่อรัตน์ ถูกเราตะเพิดไล่ออกไปแล้ว แต่เธออ้อนวอนขอโอกาสที่สอง เพราะตามคลาสเราหน้าเฟสมานานแล้วเธอรู้ว่าอันไหนของจริงของปลอม คลาสใหญ่ๆ ที่ออกสื่อของจิตตานุภาพที่เขาไปกัน ไม่อยู่ในสายตาเธอเลย  2 คนนี้จะมานอนค้างกับเราที่บ้านคุณกบ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น แบบยุโรป ชั้นบน 3 ห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ คลาสจะมีชั้นล่าง  วันที่ 15 เรากับเลขา เปลี่ยนกันขับรถจากเชียงใหม่เข้าสมุทรปราการ ซึ่งเราขับประมาณ 5 ชั่วโมง โดยเปลี่ยนกันไปมา พอเข้ากรุงเทพฯ ให้นิชาขับ คืนนั้นเราจึงเพลียจากการขับรถ ได้เลือกห้องเล็กที่ไม่มีแอร์ จะให้เด็กมันนอนกันห้องแอร์  เมื่ออาบน้ำสวดมนต์เสร็จ พอเริ่มนั่งสมาธิ เสียงประตูห้องที่อยู่ด้านหลังเราเปิดเองแล้วกระแทกปิดดังปัง แน่นอน เราปิดไฟมืดหมด ส่วนประตูนั้นเราปิดเองกับมือ แม้ว่าลมจะแรงเพียงใด ก็ไม่มีทางเปิดประตูนั้นออกได้ สติที่ไวมาก กับลางสังหรณ์ ที่ล่วงรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า เจ้าที่ทักทายแน่ เพื่อดูว่าแน่จริงอย่างคำล่ำลือหรือเปล่า  ข้อสำคัญเขามีสิทธิ์ของความเป็นเจ้าที่ เพราะเตรียมพร้อมอยู่แล้ว จึงทำไม่สนใจ ยังคงนั่งสมาธิเฉยต่อไป คิดดูถูกเขาในใจว่า “ มีแค่นี้เหรอ ” เมื่อนั่งสมาธิพอสมควร จึงล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่เสียงพวกเจ้าที่จัดใหญ่ให้คือเหมือนมีใครวิ่งอยู่บนเพดาน เสียงประตูเขย่า เสียงเหมือนนกบ้าง หนูบ้างวิ่งอยู่บนเพดานตลอดคืน เราคิดในใจว่า เอ็งมีสิทธิ์จะทดสอบข้า อยากเล่นอะไรเล่นกันไป ตูไม่เล่นด้วย ตูจะนอนละ สิ่งที่พวกนี้ไม่กล้าทำคือ เข้ามาอำเรา มาให้เห็นตัว เปิดมุ้งดึงแขนดึงขา เขาไม่สามารถทำได้ เพราะก้าวข้ามเส้นมากเกินไป หลวงปู่หลวงตาไม่ยอม  ที่เรารำคาญคือจิ้งจก จะมาร้องอยู่ตรงหัวนอน วันต่อมาเราจึงไล่ล่าพวกจิ้งจกออกนอกห้องนอน มันวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน เพราะบ้านไม่มีคนอยู่ พวกนกหนู จิ้งจกจะยึดบ้าน เช้าวันที่ 16 เจ้ารัตน์ มานั่งรออยู่หน้าบ้านแต่เช้า ตามด้วยเจ้าผึ้ง สามีของผึ้งขับรถมาจากเพชรบุรีมาส่ง บ้านจึงเริ่มครึกครื้นขึ้นมา คืนวันต่อๆ มา ปรากฏการดังกล่าวเงียบหายไป นัยว่า ไม่สามารถทำอะไรเราได้ไม่ว่าด้วยทางกายหรือทางใจ

ติดตามตอนต่อไป

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ