ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 175

อ.วารุณี

เมื่อจิตจับได้ว่า เจ้ากรรมนายเวรรายนี้อาฆาตสูงต้องการให้ชายผู้นี้ หรือสามีเจ๊นาโกนหัวบวชกันเลยทีเดียว เราไม่ค่อยจะแน่ใจกับสิ่งที่จิตเพิ่งจะจับได้ จึงโทรหาเพ็ญเลย เพ็ญบอกว่า เพ็ญได้พิจารณาดูรูปนายเปี๊ยกอยู่พักหนึ่งแล้ว ตอบมาว่า “ ใช่หนูเห็นบวช แล้วบวชนานด้วย ” แต่จิตเราขัดทันทีว่า จะบวชไม่นาน แบบนี้ต้องเรียกเข้ามาคุยกันก่อน เจ๊นาต่อโทรศัพท์มือถือหาสามีทันที เขาโทรกลับแล้วคุยกับเรา “ จะให้ผมไปหาเมื่อไหร่ครับ ” “ เอาที่สะดวก ไปจัดการเรื่องการงานบนดอยให้เรียบร้อย เสาร์หน้าก็ได้ ตอนนี้ขอให้เจ้ากรรมนายเวรของเธอหย่อนการปวดหลังลงก่อน อย่าเอาถึงกับนอนติดพื้น ปล่อยให้เขาไปทำมาหากินก่อน เขามีลูก มีเมีย มีหนี้สินที่ต้องดูแล ภาระเขาเยอะ ” เราพูดให้เจ้ากรรมนายเวรเขาได้ยินทันที จึงเป็นไปตามนั้น “ จานรู้ไหม ปกติพี่เปี๊ยกจะไม่ยอมคุยกับใคร โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้แต่พี่เปี๊ยกเชื่ออาจารย์ ” อาจเป็นเพราะว่า หลายเดือนมาแล้วเจ๊นารับเราไปเที่ยวที่บ้าน บ้านเจ๊นาน่าอยู่มาก ชีเป็นเพียงชาวเขาเผ่ามูเซอ อดีตที่จนมากอาศัยอยู่บนดอยเล่าว่า มีมาม่า เพียงหนึ่งห่อ เอามาต้มกินกันพี่น้อง 5 คน ปัจจุบันมีบ้านชั้นเดียวในเนื้อที่ ไร่กว่ากว่า ปลูกผัก มีโรงรถ เพราะได้สามีดี ขยันขันแข็งในการทำงาน มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ ต้นข้าว พี่เปี๊ยกทำงานในโครงการหลวง เก็บเงินผ่อนบ้าน มีรถปิคอัพหนึ่งคันใช้ขับขึ้นลงดอยไปทำงาน มีรถเก๋งเก่าๆ อีกหนึ่งคันให้เจ๊นาขับไปกลับขายอาหารเจ  โดยเช่าคูหาเป็นห้องเล็กๆ ให้เจ๊นาขายอาหาร ที่น่าแปลก เจ๊นาขายอาหารตรงที่นี้มา 20 กว่าปี โดยไม่มีใครมารังแกได้ เจ้าของที่มีเมตตากับเจ๊นาเป็นพิเศษ แถวๆนี้ มีร้านเจ เรียงติดๆ กัน 3 – 4 ร้าน รวมร้านเจ๊นา จนขึ้นชื่อว่า ข้างวัดสวนดอกตรงข้ามโรงพยาบาลสวนดอก เป็นแหล่งอาหารเจ ของเจ ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ วันนั้นเจ๊นาพาเรากับนิชาไปดูบ้านเธอ เราได้ทักฮวงจุ้ยของบ้านจนเธอสะดุ้ง ในบ้านมี เธอกับต้นข้าว ลูกสาว แม่สามี อยู่กัน 3 คน ห้องนอนคนละห้องสบายๆ ไม่แออัด บ้านตึกชั้นเดียว กว้างขวางยิ่งกว่าบ้านจัดสรร เพราะสามีเธอสั่งปลูกเอง วันถัดมา เธอรีบมาบอกว่า หนูรีบจัดการแก้ไขฮวงจุ้ยใหม่หมดที่จานทักมา แม่สามียังตกใจว่ารู้ได้อย่างไร

รู้สิ ฮวงจุ้ยที่ผิดมันส่งผล ทำให้พวกเองสุขภาพแย่ลงๆ กันทุกวัน พอสามีลงจากดอยมา จึงกุลีกุจอรีบช่วยกันแก้ฮวงจุ้ย จัดข้าวของในบ้านใหม่หมดตามที่เราบอก แม้ตอนนนั้นเราก็ไม่เคย พบกับเจ้าเปี๊ยกผู้สามี สาเหตุที่เราเอ็นดูเจ๊นามาก ( วันนั้นที่ไปตรวจฮวงจุ้ยให้ ก็ไม่ได้พูดเรื่องเงินเรื่องทอง ทำให้ฟรีหมด ) เพราะเธอเป็นชาวเขาที่มีจิตใจดี มีธรรมมะสูงกว่าชาวพุทธแท้ๆ เธอหัวเดียวกระเทียมโทน เมื่อมาเปิดร้านเจตรงนี้ ถูกคนไทย พุทธแท้ๆ ในรูปของนักปฏิบัติธรรม แม่ขาวบ้า งพระบ้าง พากันมาเป็นเปรต เป็นปลิง กินฟรีในร้านเธอ หลอกใช้เธอให้ไปเปิดบูธที่นั่น ที่นี่ ไม่เคยได้ธรรมมะจากคนเหล่านั้นเลย เพราะเธอเป็นชาวเขาอ่านภาษาไทยได้งูๆ ปลาๆ เขียนไทยยิ่งลำบาก เธอโหยหาคนที่จะสอนธรรมมะให้เธอได้ก้าวหน้าในธรรมมะ เป็นเวลาถึง 20 ปี ขณะเดียวกันมีปัญหาด้านคนช่วยในร้าน บางทีเธอทำงานคนเดียววิ่งจากหน้าร้าน หลังร้านตั้งแต่เปิดร้าน จัดร้าน ทำอาหาร ขายของ เสริฟอาหาร เก็บโต๊ะล้างจาน ปิดร้าน ทำคนเดียวหมด บางทีเป็นระยะยาวนานเป็นเดือน ยังไม่พอถูกร้านข้างๆ อิจฉา ทำของใส่ ทำคุณไสยใส่ วุ่นวายไปหมด ตอนนั้นรายได้ร้านตกเหลือเดือนละ 400 บาท คนงานไม่มี เธอแทบจะปิดร้านเลิกขาย แต่เพราะหัวใจอันแข็งแกร่ง กับเด็ดขาดรวมถึงปฏิปทาที่เด็ดเดี่ยวของเธอว่า ถ้าปิดร้านคนจะไม่มีอาหารเจทาน เพราะลูกค้าประจำเธอมีเยอะมาก แม้ช่วงโควิดจะขาดรายได้ไปเยอะเธอก็ไม่ถอย เราไปล้างร้าน ถอนคุณไสยจากร้านเธอ จนสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น พร้อมทั้งร้านข้างๆ ที่ทำคุณไสยใส่เธอ ต้องปิดร้านไปเพราะแพ้ภัยตนเอง

เราจะเรียนรู้กันจากละครจากชีวิตจริงของเจ๊นาว่าคนที่จะเปิดร้านเจ ขายอาหารเจ ได้ต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้ ต้องไม่กินเนื้อสัตว์เลยในร้าน หรือนอกร้าน ปลอดเนื้อสัตว์อย่างบริสุทธิ์ รักษาศีลเป็นคนดี กับข้อสุดท้ายสำคัญมาก คนนั้นจะต้องปฏิบัติธรรม เพราะคนที่เปิดร้านเจ จะมีพระโพธิ์สัตว์กวนอิมอยู่เบื้องหลังทุกคน ท่านจะจับตาดู แล้วช่วยสุดความสามารถ เราจับได้ว่า ท่านอยู่กับเจ๊นา สงสารวิบากกรรมของเจ๊นา มองเห็นความอึดความอดทน บางทีเจ๊นาก็ร้องเรียกให้ท่านช่วยเวลาวิ่งขายของอยู่คนเดียวหน้าร้านหลังร้าน เธอจะร้องว่า แม่ช่วยหนูด้วย ให้พลังหนูหน่อย  แน่นอน เมื่อวาระเวลามันมาถึง ท่านจึงส่งจานวาเข้ามาในชีวิตของเจ๊นา ท้ายที่สุดร้านข้างๆ ต้องปิดตัวไป เพราะคนขายอาหารเจในร้านนั้น ยังทานเนื้อสัตว์กันอยู่ แล้วยังเล่นของ ทำของใส่ร้านเจ๊นา จึงเหลือเพียงร้านเจ๊นา กับร้านอีกร้านข้างขวา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิดกับเจ๊นา ขาดเหลืออะไรวิ่งช่วยเหลือกัน ไม่นาน ร้านนี้ต้องปิดตัวไปอีก เพราะทนค่าเช่ากับวิกฤติโควิดไม่ไหว สรุป เหลือเพียงร้านเจ๊นาร้านเดียวที่อยู่ข้างวัดสวนดอก ตั้งแต่เราเข้าไปในชีวิตเจ๊นา เธอทิ้งกลุ่มแม่ขาว พระ ชีพราหม์ที่มาเกาะเธอกินอยู่กว่า 10 ปี ทิ้ง แบบไม่กลับไปอีกเลย แล้วมีโอกาสได้มาเข้าคลาสรับธรรมะ กับเราหนึ่งคลาสที่บ้านบุญรักษา ทำให้เธอทวีความศรัทธาในตัวเรามากยิ่งขึ้นทวีคูณ กับศรัทธาในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น แน่ใจว่าพบครูบาอาจารย์ที่ถูกกับจริต ที่ตามหามานานแล้ว เหมือนกับเธอได้โหยหาธรรมมะ นั้นมาหลายชาติ หลายภพแล้ว  หลวงปู่ทวด พระศิวะ จี้กง แม่กวนอิม หลวงปู่มั่น ล้วนอยู่กับเจ๊นาทุกพระองค์  จิตเราสกรีนเจ๊นาได้หมด รวมทั้งได้รับคำสั่งจากพระโพธิ์สัตว์กวนอิม ให้ช่วยเด็กคนนี้ เราจึงทิ้งไม่ได้ เสาร์ถัดมาเวลาเย็นตามนัด เจ๊นา พาสามี คุณเปี๊ยกมาที่บ้านบุญรักษาตามนัด  เพ็ญ อยู่กับเราที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เจ๊นา ได้นำพานดอกไม้ธูปเทียนมาขอทำการขอขมาเจ้ากรรมนายเวรของตนเองด้วยเช่นกัน สิ่งที่ตามมาคือ มีวิญญาณ ของผู้ใส่ชุดขาวทั้งหญิงชายมากกว่า 10 ท่านปรากฏนั่งรายล้อมเราอยู่ทุกท่านพนมมือเตรียมจะฟังธรรม วิญญาณ เหล่านี้ เป็นเจ้ากรรมนายเวรของ คุณเปี๊ยก ทั้งหมด แสดงว่าจากอดีตชาติใดชาติหนึ่ง คุณเปี๊ยกได้ไปก่อกรรมหมู่กับคนพวกนี้ซึ่งเป็นนักปฏิบัติ มีทั้งหญิงชาย เขาพร้อมที่จะอโหสิกรรมให้ โดย รอคำขอขมาจากปากของคุณเปี๊ยกอยู่ เพ็ญ หันมาบอกเราว่า ที่ปวดหลังเพราะโดนพวกเขารุมกระทืบ  เขาขอให้บวชพระให้เขาเลย 9 วันหมายถึงโกนหัวบวช ซึ่ง คุณ เปี๊ยกเขารับราชการ จะต้องจัดการ เคลียงาน กับยื่นขอลากิจ กว่าจะได้บวชจริงๆต้องเป็นช่วงปีหน้า  หลังกุมภาพันธ์ ไปแล้ว  เป็นที่ตกลงยอมความกันได้ ส่วนตัวที่แค้นที่สุดยังเกาะอยู่กับร่างคุณ เปี๊ยก ยื่น หน้ามาบอกเพ็ญว่า ให้ยกพานขึ้นเอ่ยปากขอขมา เขาได้แล้ว เราจึงจัดให้แล้วให้คุณ เปี๊ยกกับเจ๊นา ว่า ตาม จากนั้นก็สมาทานศีล 5 ให้เขาไป แบบเลิกลาเลิกแล้วต่อกันไป แต่ตามปกติแล้ว เขาจะยังไม่ไป เขาจะยังเกาะอยู่ที่ร่างกับทำให้ปวดหลังอยู่ แต่ไม่ให้ปวดมาก ปวดพอเป็นเครื่องเตือน กันว่า อย่าลืมไปบวชให้ข้า ก่อน บวชแล้วข้าจึงจะไป เพราะทุกวันนี้ คุณ เปี๊ยกก็ยังปวดหลังอยู่ แบบ ปวดพอทำงานไหว

คลาสต่อมาในวันที่ 20 – 24 กันยายน ก็เกิดเหตุการณ์ ประหลาดขึ้นมาอีกเพราะเด็กคนหนึ่งที่หลุดหายไปนาน ย้อนกลับมาเข้าคลาส ในอาการสบักสบอมถูกเจ้ากรรมนายเวรทำให้เกิดอาการทุกข์เวทนาจนหน้านิ่วคิ้วขมวด ขณะนั่งสมาธิในคลาส พอวันสุดท้าย เจ้ากรรมนายเวรรอไม่ไหว เร่งให้เราทำพิธีแซนตี้ เขาจะได้ รีบสมาทานศีล 5 แล้วไปกัน พอสมาทานศีลให้เสร็จ เด็กหายปวดเป็นปลิดทิ้ง แต่ก่อนเจ้ากรรมนายเวรไป มีอาการเหมือนลมจะตีขึ้น 3 รอบ แล้วเด็กโล่งตัวเบาเลย ประสบการณ์ทั้งหมดหากไม่นั่งอยู่ในคลาสด้วย จะไม่มีใครเชื่อ แต่จะไม่มีใครเชื่อ หรือใครชอบ เราก็ไม่แคร์ เพราะอริยทรัพย์ที่ได้นั้นแบ่งกันไม่ได้ ได้อยู่คนเดียว ปิดคลาสนี้ได้ขออธิษฐานจิต กับกราบเรียนขออนุญาตกับหลวงปู่มั่นทางจิตว่า ขออนุญาตขอพระอัฐิธาตุของหลวงปู่ ไปให้หลวงพ่อบัวเกศ แห่งวัดปางกึ๊ด ที่แม่แตงหนึ่งองค์ รับปากกับท่านไว้นานแล้ว ต่อตอนหน้า

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ