ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 56
- สิงหาคม 21, 2018
- ตอน พระเทวทัต... ตอนจบ

เมื่อพระเจ้าสุปปพุทธะ ได้กำชับทหารต้นห้องเฝ้าทางขึ้นทั้ง 7 ชั้นเป็นมั่นเหมาะ แถมด้วยคำศักดิ์สิทธิ์ ว่าใครไม่ทำตาม ปล่อยให้พระองค์ผ่านลงไปชั้น 1 ได้ก่อนกำหนด มีโทษประหารอย่างเดียว ทหารได้นำเครื่องอุปโภค บริโภคบำรุงบำเรอความสุข พร้อมเหล่านางรำ ขึ้นไปถวายอย่างพร้อมเพรียง ท่านทรงเกษมสำราญอยู่ได้ จนถึงวันสุดท้าย ม้าทรงศึกตัวโปรด ซึ่งคอกม้าอยู่ใกล้กับประสาท ได้เกิดสำแดงเดชขึ้นมาว่า อันที่จริงเป็นรายการ “กรรมจัดสรร ” จะเหมาะกว่า ม้าเกิดพยศ ร้องขึ้นมาสุดเสียง พร้อมยกเท้าทั้งถีบเตะกำแพง ผนังคอก แบบสุดกำลัง ซึ่งทุกคนต่างรู้ว่า เป็นม้าตัวโปรด เป็นม้าคู่บุญ เมื่อเวลาม้าพยศ มีแต่พะเจ้าสุปปพุทธะ เพียงผู้เดียวที่จะสยบม้านี้ได้ ม้าแก้วม้าขวัญ แน่นอนรักมาก ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกับเสียงร้องของม้า นี่ไงผัสสะ เข้ามากระทบทางทวารหู
อารมณ์ สะเทือนปรุงแต่ง ว่า …ไปเรื่อย ต้องไปดูกับตาว่า ใครทำอะไรม้าข้า
กว่าใครจะเรียกสติกลับมาได้ พระเจ้าสุปปพุทธะ ได้พุ่งลงมายังประตูประสาทชั้นที่ 1 เร็วยิ่งกว่าติดจรวด ทันทีที่เท้าสัมผัสกับแม่พระธรณี ยังไม่ทันจะพุ่งตัวต่อไปยังคอกม้าที่ตนรัก แผ่นดินตรงหน้าประตูประสาทชั้นที 1 ได้แยกออกอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย กลืนร่างพระองค์หายไปแล้วเคลื่อนปิดกลับอย่างแผ่วเบา ยิ่งกว่าระบบออโต้ ทหารยามซึ่งยืนอยู่ได้เห็นเหตุการณ์ ยังตัวชาแข็งทำอะไรไม่ถูกอยูเป็นนาน ได้ไปอยู่กับพระเทวทัต ผู้เป็นลูก อย่างน้อยก็ไม่เหงา
กลับมาตรงที่ ทำไมมีแค่ 5 คน พระเจ้าอชาติศัตรู ทำอนันตริยกรรม ด้วยทำไมไม่โดน ไปศึกษาประวัติท่านให้ละเอียด จะเห็นว่าช่วงแรกที่ทรงพระเยาว์ ถูกพระเทวทัต ยุให้ถือมีด ซ่อนให้เข้าไปฆ่าถึงห้องบรรทม ครั้งนั้นมีเจตนา แต่ก็ไม่ได้ฆ่า พระองค์จับได้ ครั้งต่อไป ถูกพระเทวทัต ยุอีก ให้หาทางฆ่า แต่ก็ไม่ฆ่า แค่จับไปขังคุกไว้เฉยๆ แล้วทรมานพ่อตนเองในคุก กับในวันสุดท้ายสำนึกได้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว พระเจ้าพิมพิสารทรงทนทุกข์เวทนาไม่ไหว จึงสิ้นใจไปก่อน หลังจากนั้นพระเจ้าอชาติศัตรู สำนึกได้ พยายามทำคุณใช้โทษ ด้วยการช่วยทำสังคายนาประไตรปิฎก ช่วยสร้าง และทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา แต่กรรมจากการทำอนันตริยกรรม แม้ไม่เจตนาจึงส่งให้ไปอเวจีนรก แต่ก็ไม่ได้ถูกธรณีสูบ พระแม่ธรณีท่านต้องทรงเล็งเห็นแล้วว่า ใครสมควร ใครไม่สมควร อีกราย คือพระยาพาน อันเป็นตำนาน ของจังหวัด นครปฐม องค์พระปฐมเจดีย์ พระยาพานฆ่าพ่อตนเอง ก็เพราะไม่รู้ใครเป็นใคร จึงไม่อยู่ในข่ายเจตนาฆ่าพ่อ หากรู้ว่าพระยากง เป็นพ่อ คงมือไม้อ่อนฆ่าไม่ได้ เมื่อสั่งให้จับยายหอม มาฆ่า ยายหอมก็ไม่ได้เป็นแม่ จิตใจพระยาพานที่แท้จริงก็ไม่ได้ชั่วช้าลามก เมื่อฆ่าพะยากงเสร็จ ได้ยกทหารเข้าเมืองตีทหารของพระยากง จนแตกพ่าย มุ่งหน้าเข้าวังใน เพื่อจะไปเสพเมถุนกับมเหสีของพระยาพาน ซึ่งก็เป็นแม่ของตน แต่เทวดาทนดูความบัดสี จะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ จึงดลใจให้แมวแม่ลูก 2 ตัว ที่นอนกันอยู่ให้ห้องบรรทมพูดขึ้นมาได้ ทำให้พระยาพานได้สติจึงอธิฐานขึ้นมา ว่าถ้าใช่แม่ของตนขอให้มีน้ำนมไหลออกมาจาก เต้านมของพระมเหสี เกิดปรากฏขึ้นว่ามีจริงๆ พระยาพานจึงรอดมาได้ ไม่ต้องทำผิดซ้ำสอง พื้นฐานจิตใจของพระยาพาน นั้นยังดีกว่าพระเทวทัตมาก
พระเทวทัต มีแต่ความมุ่งมาดอาฆาต ชนิดกัดไม่ปล่อยกับพระตถาคตอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่าไปแล้วบุญบารมีของพระเทวทัตที่สั่งสมมานั้น จัดว่าสูสี ชนิดค่อนข้างสูงกว่าพระตถาคตด้วยซ้ำ แต่เพราะเหตุการณ์เล็กๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆที่ทำให้ ทั้งสองพระองค์นี้ ตามกันมาด้วยแรงกรรม แรงอาฆาต พยาบาท
จนมาถึงฉากสุดท้าย ที่พระเทวทัตถูกพระแม่ธรณีสูบ จึงเลิกราเลิกเล่นยอมรับ เอ่ยปากยอมรับสรรพคุณความดีอันถึงที่สุดมิได้ ของพระตถาคต พร้อมถวายลมหายใจกับลูกคางให้ พระตถาคต… สำนึกเอาฉากสุดท้าย
เริ่มแรกที่ทั้งสองพระองค์ได้มาพบกันในชาติหนึ่ง ที่พระเทวทัตได้ เปิดฉากประกาศเป็นศัตรูกับพระตถาคต คือ ชาติที่ทั้งสองพระองค์ ได้ไปเกิดเป็นพ่อค้าเร่ ไปตามเมืองต่างๆ พระเทวทัตไปเจอหญิงชราที่เคยมีอันจะกินที่กลายเป็นยาจก ต้องเอาถาดทองคำของเก่าประจำตระกูลออกมา ตัดใจขายเพื่อนำมาประทังชีวิต พระเทวทัต หลอกว่าไม่ใช่ทองแท้ แต่หญิงชราไม่ยอมขายให้ พระเทวทัตก็จะยื้อเวลาให้หญิงชราทนหิวไม่ได้ จะต้องซมซานเอาถาดทองคำมาขายให้ตนในราคาถูกๆ จะเป็นด้วยเวรหรือกรรมก็ตาม จัดฉากไว้ให้ พระตถาคตซึ่งเป็นพ่อค้าเร่คนที่ 2 ได้เข้ามาพบหญิงชรา ด้วยพื้นฐานจิตใจที่บริสุทธิ์จากการสั่งสมมาหลายกัปกัลป์ของพระองค์ ได้ให้ราคาที่แท้จริงของทองคำ แก่หญิงชราผู้นั้น ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับพระเทวทัต ได้กำทรายขึ้นมาหนึ่งกำมือโรยทรายออกไป แล้วกล่าวคำอาฆาตพระตถาคตว่า จะตามล้างตามเช็ดไปทุกเม็ดทราย หนึ่งเม็ดหนึ่งชาติ บางชาติ พระเทวทัตเกิดมาเป็นนายพราน พระตถาคต เกิดเป็นสัตว์ที่ถูกนายพรานฆ่า จากประวัติของพระพุทธองค์ กับพระเทวทัตตามกันมาตลอด ซึ่งพระตถาคตจะเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ข้างเดียว
จวบจนทรายกำมือนั้นของพระเทวทัตหมดไป ชาติสุดท้ายที่พระตถาคต ไปเกิดเป็นพระเวสสันดร เพื่อสร้างทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ พระเทวทัต ก็ไปเกิดเป็นพราหมณ์ ชื่อชูชก จบชาตินั้น พระองค์ได้ไปเกิดเป็น เจ้าชายสิทธัทถะ พระเทวทัต ก็มาเกิดเป็นพระเทวทัต แล้วปิดฉากสุดท้ายกันในชาตินี้
พระตถาคต เสด็จขึ้นสู่แดนพระนิพพาน พระเทวทัต ถูกพระแม่ธรณี สูบลง มหาอเวจีนรก
เรื่องนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า กรรม จัดสรรนั้นมีจริง กรรมนั้นเมือสุกงอมเต็มที่แล้ว ต่อให้พระตถาคตมายืนขวาง ก็หามแรงกรรมนั้นไม่ได้ แรงกรรมนั้นน่ากลัวนัก จะหนีไปอยู่ในถ้ำ หนีไปกบดานใต้บาดาล หนีไปชาติภพภูมิไหน
เขาหาเจอ ซึ่งบางทีเจ้ากรรมนายเวรมีมากกว่าสองราย จะเข้ากระหน่ำซ้ำเติมพร้อมๆกันเหมือนนัดกันไว้ ทุกวันนี้ หากใครลบหลู่ ดูหมิ่น พลิกแพลง ดัดแปลง แก้ไข คำสอนของพระตถาคตอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปบุญคุณโทษ ไม่ต้องห่วง ใกล้ถึงเวลาที่เขาจะจัดการคัดคน ล้างบางพวกหนักแผ่นดินกันแล้ว โปรดอดใจรอ …จึงจบ บทพระเทวทัตลงด้วยประการฉะนี้