ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 63
- กันยายน 24, 2018
- ตอน ปราสาทมืด 2

เวลาขณะนั้นมันบ่ายแก่ๆ เข้าไปแล้ว ยังไม่ทันจะขึ้นตัวตึก รู้สึกว่าฉี่แห่งความหวาดกลัวมันจะแตกออกมาจากทำนบน้อยๆให้ได้ ไม่ควรรับงานนี้เลย หาเหามาใส่หัวแท้ ๆ เรารับกระเป๋าเป้มาจากพี่ชายของคุณ ท. แล้วเขาเดินนำไปทางด้านหน้าตึกที่อยู่ทางซ้ายมือ อันเป็นที่อยู่ของครอบครัวของคุณ ท. จิตมันบอกว่า งานนี้โดนลองของแน่ งานเข้าแล้วเอ็งคืนนี้ มันจะเป็นคืนสยองขวัญของโรงแรมผีอย่างไม่ต้องสงสัย เอาชนิดแทงกันหมดตัวหมดตูด เอ็งโดนแน่ เสียงเจ้าจิตรู้มันเย้ยหยัน ทันทีที่ไปหยุดหน้าตัวตึก เราต้องตะลึงเพราะห้องแรกที่เราจะต้องเดินเข้าไป รกเกะกะไปด้วยสิ่งของเครื่องใช้จิปาถะ มีเพียงช่องแคบๆให้เดินผ่านเข้าไปได้ มันเหมือนสถานที่รับซื้อของเก่า ที่หามุมใดซอกใดเจริญหูเจริญตาไม่ได้เลย ภาพหญิงชราแม่ของคุณ ท. นั่งอยู่บนรถเข็น ตัวคุณ ท. ยืนอยู่เบื้องหลัง เมื่อทักทายกันตามสมควรแล้ว คุณ ท.ได้ชี้แจงว่า พวกเขา 3 คนนอนกันชั้นล่างนี้ เพราะแม่ขึ้นบันไดไม่ได้ เลยนอนกองกันห้องข้างล่างกันหมด “ ห้องพักจานอยู่ข้างบนตามหนูมา หนูจะพาขึ้นไป ” เธอเดินผ่านชั้นสองขึ้นไป จนถึงตึกชั้นสาม ผ่านห้องแรกทางขวามือที่เป็นประตูไม้ขนาดหนาด้านนอกมีกุญแจดอกใหญ่ ห้อยอยู่หน้าประตู ตรงกลางทางเดินเป็นพื้นไม้ขัดมัน มีห้องอยู่ทั้งฝั่งซ้ายมือและขวามือ ด้านละ 2 ห้อง ปลายผนังทางเดินเป็นตู้ไม้ขนาดย่อม บนหลังตู้ มีภาพของคนโบราณ ซึ่งอาจเป็นบรรพบุรุษของครอบครัวนี้ เหมือนจะจับตามองทุกฝีก้าวของเราอยู่ “ ถ้าอาจารย์จะอาบน้ำลงไปอาบห้องชั้นล่างนะคะ เพราะชั้น 3 นี้ไม่มีน้ำมานานหลายปีแล้ว เพราะไม่มีใครอยู่ กับเดี๋ยวหนูจะหาไฟฉายมาให้ เพราะถ้าอาจารย์เดินลงชั้นล่างตอนกลางคืน ชั้นสองไม่มีไฟ ” “ ไม่เป็นไร เราเอาไฟฉายมา ” “ ส่วนเวลาอาจารย์จะใช้ห้องน้ำกลางดึก เดี๋ยวหนูจะทำส้วมฉุกเฉินให้อาจารย์ ” เธอเดินมาหยุดหน้าประตูห้องหนึ่งแล้วเปิดเข้าไป เราต้องผงะ นี่มันอะไรกัน เรานึกในใจ สภาพมันไม่ต่างจากห้องเก็บศพ เพราะกลิ่นไอของอะไรที่คุ้นๆลอยมากระแทกหน้า ห้องออกจะสลัวๆ เพราะเงาไม้ที่ข้างฝาปิดแสงสว่างเอาไว้หมด นี่ขนาดกลางวันนะ ยังหลอนขนาดนี้ เพราะฝาห้องด้านนั้นเป็นกระจกไปตลอดด้าน มีต้นไม้ใหญ่ครึ้มโยกตัวไหวกิ่งก้านตามแรงลม เบื้องนอกมันคือห้องที่เราเห็นจากที่จอดรถ ซวยอะไรอย่างนี้เราคิดในใจ เรารีบเอ่ยขึ้นทันที “ มีห้องอื่นให้เลือกไหม ” “มี …. มีอีกห้องหนึ่งตามหนูมา …. จานเลือกได้ ระหว่าง 2 ห้องนี้ ” ว่าแล้วเธอพาเดินออกจากห้อง เดินข้ามกระดาน พื้นไม้ไปยังประตูฝั่งตรงข้าม เปิดประตูเข้าไป เราผงะ ภาพแรกที่ปรากฏต่อสายตาในห้องแคบๆนั้น มีเตียงโบราณลักษณะแปลกๆ สภาพเป็นไม้ มีเสาไม้เรียวรีทั้ง 4 มุม บนเตียงมีเจ้าถิ่นนั่งกันเต็ม …. ท้ายห้องข้างฝาเป็นหิ้งวางของ กับเก้าอี้ไม้เก่าๆอีกหนึ่งตัว ฝุ่นจับเขรอะทุกตารางนิ้ว แต่ที่น่ากลัวกับติดตาไม่ลืมทั้งยามหลับยามตื่น คือทุกสายตาที่ออกันอยู่บนเตียงจากอีกภพอีกภูมิหนึ่งพากันจ้องมาที่เราด้วยสายตาที่เอาเรื่อง ส่งสัญญามาว่า “ ห้องนี้ของข้าโว้ย ” เราไม่พูดอะไรรีบหมุนตัวกลับไปห้องแรกทันที ไม่ต้องการจะต่อกรใดๆด้วยทั้งสิ้น คุณ ท. ได้คำตอบรีบปิดประตูห้องนั้นไว้ดังเดิม เหมือนรู้ หมดทางเลือกเรากลับเข้ามาห้องแรกอีกครั้ง บนตั่งไม้กว้างพอที่จะเป็นเตียงขนาดเล็กๆได้ ซึ่งตั้งติดกับประตูทางเข้า มีมุ้มกางเตรียมไว้ให้เรานอน มุ้งสีฟ้าเก่าๆ ภายในมุ้งมีเบาะนอนแคบๆพอเหมาะขนาดตัวเรา มีหิ้งไม้เก่าๆวางของ อยู่ตำแหน่งหัวนอนของเราพอดี ของที่อยู่บนหิ้งนั้นเป็นอะไรบอกไม่ได้เพราะแต่ละชิ้นแต่ละห่อ มีถุงพลาสติกหุ้มห่อไว้อย่างดี เราลองใช้ปลายนิ้วสะกิดถุงใบหนึ่งที่ห่อของอยู่ นิ้วมือทะลุถุงเข้าไปข้างใน จากความเก่าแก่ที่ถูกทิ้งเอาไว้นาน เราตรงกลับมาที่มุ้งลองเอามือจิ้มที่ตาข่ายมุ้งโดยออกแรงนิดหนึ่งดู มันลุ่ยร่วงลงมาอย่างง่ายดายไม่ต่างจากถุง …. “ เอออย่างน้อยก็รู้สภาพ ” หันกลับไปมองฝาหน้าต่างที่อยู่ห่างจากเตียงแค่ 2 ฟุต กว่าๆ เสียวสันหลังวูบขึ้นมา ยามนี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่รอให้พลบค่ำซะก่อนค่อยว่ากันใหม่ ว่าแต่ว่า ตอนนี้ …. ขอลงไปชั้นล่างก่อนเพื่อใช้ส้วมเพราะปวดฉี่เต็มประดา กับจะใช้ห้องน้ำข้างล่างอาบน้ำด้วยเลย เพราะชั้น 2-3 ไม่มีน้ำ คุณ ท.ยังนั่งคุยกับพี่ชายและคุณแม่ของเขาอยู่ ตรงที่เดิม ที่เราพบ “ จานหนูจะไปตลาดแต่เช้าเพื่อซื้อของเตรียมเซ่นไหว้ จานจะจัดสำรับตรงไหน ” “ ตรงระเบียงชั้น 2 นะเห็นมีที่ว่างอยู่ ตรงนั้นเหมาะที่สุด ” “ หนูต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องใส่ชุดขาวไหม ” “ ใส่ แล้วนั่งในพิธีกับเรา จากนั้นเราจะเดินสำรวจทุกตารางนิ้วในพื้นที่ ที่บ้านของเธอ วิญญาณ เยอะมากนะ มากกว่าทุกแห่งที่เราเคยพบมา ” “ จานนอนได้ไหมคนเดียว ” “ ไม่ต้องห่วง เราเคยผ่านมาแรงกว่านี้ ” ปากพูดไปอย่างนั้น …. แต่ใจสิมันสั่นหวิวๆชอบกล ออกจากห้องน้ำมา เงามืดของยามสนธยาย่างกรายเข้ามาแล้ว จำได้ว่า เธอกำชับมาว่าชั้น 2 ไม่มีไฟ กับเธอจัดการทำส้วมแบบฉุกเฉินไว้ให้แล้ว ในกรณีที่เราต้องการจะเบาในยามค่ำคืน แล้วไม่ต้องการผ่านชั้น 2 ที่มืดลงมา โดยระหว่างที่เราเข้าอาบน้ำนั้น จิตบอกเราว่าเฉพาะในตัวตึกนี้ วิญญาณยั้วเยี้ย กับทุกดวงวิญญาณต่างรอไม่ไหวที่จะดูท่าทีของเราว่า แน่แค่ไหน จากแสงออราที่ออกมาจากเรา ไม่ได้หมายความว่า คนๆนี้ จะไม่ตาขาว กลัวจนตัวสั่นกันไม่เป็น แสงสว่างที่ออกมาจากตัวอาจเฉพาะจากการที่เขาเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น นิสัยใจจริงอาจยังกลัวผีกันลนลานอยู่ อันเป็นนิสัยเก่าที่ติดอยู่ในกมลสันดาน
จากห้องอาบน้ำ เดินกลับเพื่อจะเข้าห้อง ผ่านห้องเล็กๆอีกห้องหนึ่งลักษณะเหมือนห้องเก็บของ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนของเรา แต่เยื้องไปปลายสุดติดทางลงบันไดไปชั้น 2 ห้องนี้ไม่มีประตู แม้อากาศจะมืดลงบ้างแล้ว เหลือเพียงลำแสงสุดท้าย สายตาเรามองเข้าไปในห้องเพื่อดูส้วมฉุกเฉิน ที่คุณ ท. บอกทำไว้ให้ ก็ต้องสะดุ้ง แต่แล้วก็ยิ้มออกมาแทน ประมาณว่า เอาไงก็เอากัน เรื่องบ่น นั้นไม่มี มันเป็นขาตั้ง 3 ขาที่เขาวางคร่อมลงบนโถส้วม ให้คนสูงอายุนั่ง แต่ภายใต้ 3 ขานั้นแทนที่จะเป็นโถส้วม กลับเป็นถังพลาสติกขนาดเล็กใบหนึ่ง แล้วมีถุงขยะพลาสติกอีกทีอยู่ในถังนั้น เราคิดในใจว่า “ ไม่มีปัญหา ” ปัญหาเดียวคือ เราจะสามารถปล่อยฉี่ลงตรงกระป๋องนั้นหรือไม่? หากมันออกนอกกระป๋องเลอะเปรอะเปื้อน เราคงรับไม่ได้ ก็ภาวนาขอไม่ให้มันปวดเบาในคืนนี้ก็แล้วกัน ด้านหลังส้วมจำเป็นนี้ ติดฝาไปตลอดแนวจนถึงฝาผนังมุมหลังห้อง มีกองหนังสือพิมพ์เก่าๆกองซ้อนกันไว้สูงท่วมเอวอย่างมีระเบียบ แต่สภาพหนังสือพิมพ์เก่าเหล่านั้น เก่าจนออกสีน้ำตาลไหม้ นี่ถ้าหยิบขึ้นมาสักเล่มหนึ่งคงจะขาดยุ่ย เหมือนมุ้งกับถุงพลาสติก ดูๆไปแล้วบ้านนี้เต็มไปด้วยของเก่า ตึกเก่าๆ เตียง ตู้ โต๊ะเก่าๆ ข้าวของเก่าๆ ที่พวกเขาเก็บสะสมเอาไว้ รวมทั้งวิญญาณ เก่าๆ ที่ต่างยึดเอาที่นี่เป็นที่อยู่ ไม่ยอมไปไหน …อะไรกันนักหนา
ต่อตอน 3