ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 72

ประสบการณ์ของการปลดปล่อยวิญญาณในคลาสสมาธินี้ เกิดขึ้นโดยบังเอิญตั้งแต่เปิดคลาสที่สตูดิโอสอนสมาธิของนักเรียนคนหนึ่งที่เขาเชิญไป จากการแสดงธรรมครั้งนั้น เด็กคนหนึ่งที่เป็นมะเร็งมานานหลายปี จะตายก็ไม่ตาย จะหายขาดจากโรคร้ายก็ไม่หาย ประมาณว่ากรรมเลี้ยง เมื่อมาเข้าคลาสของเราฟังเราเทศน์ เจ้ากรรมนายเวรของเธอคนนี้ ได้กรี๊ดร้องออกมา จากตรงจุดนี้เราได้เอาเทปที่อัดการสอนไว้มาเปิดฟังอยู่หลายเที่ยว จึงจับได้ว่าเจ้ากรรมนายเวร ร้องออกมาจากร่างของเธอขณะที่เราแสดงธรรมข้ออภัยทาน ผลของอภัยทานซึ่งเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่กว่าการให้ใดๆ

ในคลาสนั้นมีนักเรียนประมาณ 25 คน เหตุการณ์ที่เกิดจึงสร้างความขนลุกขนชันให้กับทุกคนในคลาส จนกลายเป็น  Talk of the town จากนั้นมาเวลาเปิดคลาสจะมีนักเรียนเข้ามามากมาย จองที่กันแทบไม่ทัน จนกระทั่งเราต้องย้ายมาเปิดคลาสที่บ้านบุญรักษา ที่เต็มไปด้วยพุทธคุณของความศักดิ์สิทธ์ หลวงปู่หลวงตา เทพไท้เทวา นาคาเต็มบ้านไปหมดจนต้องทะลุฝาห้อง ทำให้เป็นห้องขนาดใหญ่ บรรจุคนได้เต็มที่ 30 คน ซึ่งผลสุดท้ายหลวงปู่หลวงตาเลยให้ใช้บ้านบุญรักษานี่แหละ ทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ไม่ต้องไปสร้างที่ไหนอีกให้เหนื่อย เมื่อเปิดคลาสที่บ้านบุรักษา ปรากฏว่าวิญญาณ เจ้ากรรมนายเวร ของนักเรียนในห้อง ต่างกรูกันเข้ามา ตะกายจะเข้ามาในคลาส แถมวิญญาณพเนจร ที่อยู่ข้างนอก ก็แห่กันมารุมล้อมรอบตัวบ้าน  เราต้องอธิฐานจิตปิดบ้าน พวกเขาจึงล้อมกันอยู่ภายนอกรั้วบ้าน เมื่ออนุญาตให้เข้ามา เขาก็จะกรูกันเข้ามา เพราะอยากให้ปลดปล่อย พอได้เปิดคลาสที่ 2 ความวุ่นวายมากขึ้น ถึงกับพระยายมบาล ยมราช ปู่เวสสุวรรณโณ  ต้องสื่อคุยกับเราว่า การปลดปล่อยวิญญาณ นี้ต้องมีกฎกติกา เพราะมีวิญญาณบาป จำนวนไม่น้อยที่แห่แหนกันเข้ามาปะปนมากับวิญญาณอื่นๆ พลอยฟ้าพลอยฝนได้ปลดปล่อยขึ้นไปด้วย ขณะเดียวกันพระยายมบาล ยังบอกด้วยว่ามีวิญญาณชั่วร้ายบางดวงที่พวกยมทูตตามหากันอยู่ให้ควัก ถูกจับกุมตัวได้ จากการปะปนกับวิญญาณอื่นๆ สรุปแล้วมีทั้งส่วนดีและไม่ดี แต่ไม่ควรทำ ถ้าจะทำต้องมีกฎกติกาที่รัดกุมยิ่งกว่านี้ เราจึงวางกฎกติกาใหม่  จากปรากฏการสองคลาสที่บ้านบุญรักษา ที่ปลดวิญญาณใน 2 วันสุดท้าย ของคลาสเกิดความวุ่นวายสุดๆคือ วิญญาณเข้ามาพร้อมๆกัน 2 -3 ทาง คือเด็กนักเรียนในคลาส สามารถเป็นร่างผ่านได้ เราต้องวิ่งซ้าย วิ่งขวา เพื่อไกล่เกลี่ยวิญญาณแต่ละดวงที่มาด้วยแรงอาฆาต บ้างกะเอากันถึงตาย กว่าจะพูดให้พวกเขาสงบลงได้ เอ่ยคำอโหสิกรรม แล้วสมาทานศีล 5 จากเราได้ แต่ละรายหืดขึ้นคอ เหนื่อยมาก พอปิดคลาสแทบหามเข้าห้องฉุกเฉิน แต่จนแล้วจนรอดเราก็รอดมาได้ทุกที

ที่ชวนฉงนฉงายอย่างมาก คือวิญญาณบางคู่ มาหากันเจอในคลาสเรา ที่เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน เมื่อมาพบกันในคลาสกะเอากันถึงตาย ต่างฟ้องร้องขอความเป็นธรรมจากเรา เล่าให้เราฟังว่า เขาไม่ผิดไปใส่ร้ายว่าเขาผิด แล้วแทงเขาตายมา 7 ชาติแล้ว เขาจึงทำให้มีอาการพิกลพิการต้องนั่งรถเข็น  บางวิญญาณก็ฟ้องว่า รักกันอยู่ดีๆ มึงทิ้งกูไปอยู่กับคนใหม่ ซึ่งก็นั่งอยู่ในคลาสของเรา ทั้งโจทก์และจำเลย เราต้องคอยไกล่เกลี่ยเพราะมองกันตาเขียวปัด กะจะเอากันให้ถึงตาย แต่จากบารมีของเราทำให้พวกเขาไม่กล้า เพราะวิญญาณทุกดวงที่เข้ามาให้ปลดนี้ ต่างก็อยากไปกันทั้งสิ้น เพียงแต่เขาต้องการความเป็นธรรม คือ จะทำคุณอะไรถ่ายโทษที่ทำไว้กับเขาได้บ้าง คือเขามาทวงคืน บ้างก็ขอให้บวชให้ 9 วัน ถือศีล 8 บ้างก็บวชพระ บ้างก็ทำสังฆทาน เมื่อเป็นที่พอใจแล้วเขาถึงจะยอมรับศีล 5 ไปพร้อมกับอานิสงส์ของอภัยทาน เป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกดวงวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรยอมไปหมด แม้บางรายจะอาฆาตกัน ตามหากัน หรือตามกันมาหลายชาติภพยอมไปหมด แต่เหนื่อยมาก บ้างก็ตรงเข้าทุบตี  เราก็จะเอาร่างเราเข้าไปขวางให้เขาทุบตีเราแทน เขาก็จะหยุดทันที ที่เป็นสัตว์ เช่น งูจงอาง สุนัข จะตรงเข้ากัดที่ขาให้หายแค้นก่อน เขาจึงจะยอมเอ่ย คำว่าอโหสิกรรม ที่เป็นสัตว์มาฟ้อง สังเกตอีกว่าเขาจะพูดคำว่าอโหสิกรรมได้อย่างยากเย็น เพราะเกิดเป็นเดริฉานสัตว์มาหลายชาติ พูดภาษาคนได้ลำบาก

ที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อพวกเขาไปกันแล้ว อาการเจ็บไข้ได้ป่วย เช่น ปวดแข้ง ขา ไหล่ ศีรษะ ขมับ จะหายไปเป็นปลิดทิ้ง บ้างก็ยังไม่หายจนกว่าจะบวชให้เขา จะถวายพระให้เขา ทำสังฆทานให้เขา เสร็จสิ้นเสียก่อนเขาจึงจะไป นอกจากนั้นยังทำให้หน้าที่การงาน การทำมาหากินของเด็กนักเรียนทุกคน จะค่อยๆดีขึ้นๆๆตามกาลเวลา ซึ่งส่วนมากแล้วนักเรียนของเราเมื่อโดนประสบการณ์ เช่นนี้มักจะสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิกันอย่างต่อเนื่องกันทุกคน เพราะเชื่ออย่างสนิทใจเนื่องจากโดนมาด้วยตนเอง จนท้ายสุดเราจะรู้เท่าทันกุศโลบายของเจ้ากรรมนายเวรแต่ละตนที่เล่นกับเราจนหมดมุขจะเล่น วิญญาณทุกดวงจะยอมจำนนโดยดี เช่นถ้าเข้ามายึกยักโยกโย้ ไม่ยอมไป ท่ามาก เราจะ เรียกวิญญาณดวงอื่นเข้ามาเลย ว่า “ เอ็งมากเรื่องนัก ก็ไม่ต้องไป คนต่อไปเข้ามา ”

กับในปัจจุบันนี้เราสามารถเรียกเด็กนักเรียนเป็นรายตัวเข้ามาเลย ไม่ต้องรอให้วิญญาณแสดงตนออกมา เรียกรายตัวเลยโดยผ่านร่าง เพราะความวุ่นวาย แล้วยังฝืนลิขิตนรก สวรรค์ เราจึงได้ให้สัจจะวาจากับหลวงปู่หลวงตา ไว้แล้วว่าแต่นี้ไปเมื่อเปิดคลาสจะไม่มีการปลดวิญญาณอีกแล้ว นอกจากเจ้ากรรมนายเวร ในร่างของนักเรียนของเราเขาหมดวาระ เขาอยากเลิกราเลิกแล้วกันไป กรณี เช่นนี้เราให้เขารับศีล 5 แล้วขึ้นได้เลยหากจะถามว่างานนี้เคยโดนดีบ้างไหม เคยสิ จะเล่าให้ฟัง เล่นเอาเรานอนจับไข้อยู่ถึง 3 วัน กว่าจะลุกขึ้นมาได้ แถมเล่นเอายมบาลของฝ่าย คริสต์ กับหลวงปู่หลวงตาของฝ่ายพุทธต้องเข้าไปไกล่เกลี่ย จากการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา มันเป็นประสบการณ์ที่เข็ดเด็ดขาด …. มันเกิดอะไรขึ้น ตามตอนต่อไป