ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 68

จากปากคำบอกเล่าที่หลวงปู่ทวด กรุณามาเล่าตำนานที่แท้จริงของหลวงปู่ กับสามเณรที่นำดอกมณฑาสวรรค์ มาถามหลวงปู่นั้นให้เราฟัง หลวงปู่ได้พูดเรื่องเสือสมิงด้วย จึงทำให้เรามาค้นหารายละเอียด เกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์นี้ว่า มันมีมาจริงๆในตำนาน หรือเป็นเพียงเรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่กันแน่ แต่ถ้าลองได้ออกมาจากปากของหลวงปู่แล้ว รับประกันได้เรื่องนี้มีจริงแน่ กับยังขออ้างอิงเรื่องราวของพระป่าหลายรูป ที่ฟัดกับเสือสมิงมาแล้ว และรอดชีวิตมายืนยันเล่าขานสู่กันฟังจน ณ ปัจจุบันนี้

เรื่องอ้างอิงมาจาก ฅนเล่าเรื่อง…

จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อลุน  แห่งวัดโพนแพง จ.ขอนแก่น ได้ทรงเมตตาให้ความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับตำนานของเสือสมิงไว้  ในอดีตพระคุณเจ้าเคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับเสือสมิงที่ภูเขาควาย 3 ตัวพร้อมกันมาแล้ว แทบเอาชีวิตไม่รอด จะนำมาถ่ายทอดให้ฟังในบทต่อไป บทนี้ฅนเล่าเรื่อง นำคำบอกเล่าของหลวงพ่อมาให้พวกเราได้รู้กันดังนี้

หลวงพ่อลุนเล่าว่า  เสือสมิงจัดเป็นปีศาจชนิดหนึ่ง  จัดอยู่ในพวกอมนุษย์ แบ่งเสือสมิงออกเป็น 2 ประเภท

เสือสมิงประเภทที่ 1 มาจากผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ได้ฝึกเรียนวิชาแปลงตนให้กลายเป็นเสือสมิง ด้วย ถือว่าหากเรียนสำเร็จแล้วจะมีอิทธิฤทธิ์มากมายเป็นต้นว่า ร่างกายจะอยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า มีตบะอำนาจเป็นที่เคารพของมนุษย์เทวดา มีอิทธิฤทธิ์ ล่องหนหายตัวได้ กำบังตาคนทั่วไป คุณไสยใดๆไม่แผ้วพาน แม้แต่คาถาอาคม หรือยาพิษใดๆ ก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ คนที่ฝึกวิชาเสือสมิงชนิดนี้ส่วนมากจะกลายเป็นเสือสมิงทุกราย   เพราะมีข้อห้ามหลายข้อ ถ้าได้ทำผิดข้อห้ามเหล่านี้ หรือผิดสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับครูผู้สอนเพียงไม่กี่ครั้ง ร่างกายจะกลายเป็นเสือถาวร แปลงกลับมาเป็นคนไม่ได้อีกเลย กับการเป็นเสือสมิงในข้อนี้ อาจเกิดจากการผิดพลาด เผอเรอบางประการอีกด้วย คือ การฝึกแบบนี้ ต้องมีการครอบครูคู่ คือฝึกทีละ 2 คนพร้อมกัน  คือคนหนึ่งฝึกวิชาเป็นเสือสมิง  อีกคนฝึกทำน้ำมนต์เพื่อล้างอาถรรพ์  ในขณะที่คนแรกออกอาการแปลงร่างเป็นเสือแล้วเมื่อไหร่ อารมณ์ที่กำลังจะเตลิดออกไปเพื่อไปฆ่าคนจับมากินเป็นอาหาร คนที่เรียนทำน้ำมนต์สำหรับล้างอาถรรพ์ สามารถจะใช้น้ำมนต์ ช่วยให้เสือสงบอาการดุร้าย กลับกลายมาเป็นคนดังเดิมได้ ในกรณีนี้ ก็มีพระ 2 รูป ได้เรียนวิชานี้ ครอบครูคู่มาด้วยกัน จนถึงจุดที่ พระรูปที่คอยเอาน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์ให้รับไม่ไหว เพราะพระรูปที่กลายเป็นเสือ ออกอาการบ่อยเข้า หนักขึ้น ต้องพากันร่อนเร่เป็นนกไร้รัง อยู่วัดไหนที่ใดก็ได้ไม่นาน  สร้างความตกใจตื่นตะลึงให้แก่เด็กวัด เจ้าอาวาสทุกวัดที่ท่านทั้งคู่สัญจรไป พระรูปที่แปลงเป็นเสือก็หวั่นใจ ว่าสักวันจะต้องทำร้ายพระรูปที่คอยรดน้ำมนต์ให้ตน เพราะควบคุมอารมณ์ของเจ้าป่าไม่ได้ เวลามันมาเยือน ท้ายสุด ขณะออกเดินธุดงค์ในป่าด้วยกัน พระรูปที่แปลงเป็นเสือเกิดอาการวิญญาณสมิงจะเข้าแล้วควบคุมไม่ได้ เพื่อนก็ตระเตรียมน้ำมนต์ไม่ทัน ถ้าจะฆ่าท่านก็บาปเท่ากับฆ่าพระหนึ่งรูป กับเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากกันมากหลายปี เพราะจะหาอะไรมาถอนอาถรรพ์นี้ไม่ได้ เรียนกันมาแล้ว ผลสุดท้ายก่อนที่ตนเองจะกลายร่างเป็นเสือสมิง แล้วตรงเข้าขย้ำกัลยาณมิตร ท่านตัดสินใจกระโดดลงหน้าผา สู่ก้นเหวลึก จบชีวิตตนเองไปเลย

ในกรณี ครอบครูคู่ ฝึกคู่แบบนี้  คนแรกที่ฝึกเป็นเสือ การฝึกช่วงแรกๆ ต้องฝึกท่องคาถา ในอาการหมอบ ใช้ผ้าขาวครอบร่างแล้วภาวนาคาถาเสือสมิงไปเรื่อยๆ จนกว่าวิญญาณจะกลายเป็นเสือไปจริงๆ เมื่อสำเร็จในขั้นแรกมักจะฝันว่าดวงวิญญาณของตนเองในฝันนั้นจะออกจากร่างไปในสภาพเสือ ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ

ในขั้นที่ 2  เวลาดวงวิญญาณจะออกจากร่าง จะสามารถมองเห็นวิญญาณของตนเองด้วยตาเปล่าเลย เป็นดวงไฟสีเขียวบ้าง สีแดงบ้าง แล้วแต่พลังจิตของใครจะทรงพลังแค่ไหน  ลอยออกจากกายของตนเอง เหมือนผีพุ่งใต้หมายถึงวิชาอาคมเริ่มแก่กล้ามากขึ้น ในขั้นนี้ผู้ฝึกสามารถแปลงกายตนเองให้ผู้อื่นได้เห็นเป็น 2 อย่างคือ เห็นเป็นรูปร่างเดิมหน้าตาเดิมของตนเอง กับอีกรูปคือเห็นเป็นร่างเสือ ถ้าใครเรียนถึงขั้นนี้ คือสำเร็จแล้ว  คือให้เห็นเป็นคนก็ได้ เสือก็ได้ อีกอย่างคือเป็นเสือถาวรเลย แปลงกลับมาเป็นคนไม่ได้อีกแล้ว แล้วความรู้สึกของความเป็นคน ขาดๆ หายๆ กลายเป็นสัญชาติญาณของสัตว์เข้าสิงสู่ไปเลย สาเหตุที่โดนอย่างนี้ เพราะไปผิดข้อห้าม ไปเสียสัจจะกับครูบาอาจารย์ระหว่างที่ร่ำเรียนวิชา ซึ่งข้อห้ามมีดังนี้

  • ห้ามเผลอไปกินของสด ของคาวเด็ดขาด ( ช่วงแรกที่เรียนคงมีความอยากกินเนื้อสดๆกันมาก แล้วหักห้ามใจไม่ได้ หากใครเผลอไปกิน จะสลบนอนซมชนิด 3 วันขึ้นไป แล้วกลายเป็นเสือถาวร กลับเป็นคนอีกไม่ได้ )
  • ห้ามไปกินเศษอาหารเหลือของคนหรือสัตว์ รวมอาการของเซ่นไหว้ทุกชนิด
  • เวลาคนคลอดลูกห้ามไปเยี่ยม อาจทำให้แม่และเด็กตายทั้งคู่ จากความแรงของวิชาอาคม
  • ห้ามกินอาหารทุกชนิดที่มาจากงานศพ

เสือสมิงประเภทที่ 2  เกิดจากดวงวิญญาณผีตายโหงในป่าที่มีคาถาอาคม มีอิทธิฤทธิ์แรงกล้า ต้องการไปผุดไปเกิด ติดอยู่หาที่ไปไม่ได้จึงเข้าสิงสู่อยู่ในร่างของเสือ ด้วยมีเจตนาฆ่าคน ล้างอาถรรพ์ให้แก่ตัวเองได้ไปผุดไปเกิด หลุดจากตรงนี้  แบบหาตัวตายตัวแทน เสือสมิงประเภทนี้จะท่องเที่ยวหากินอยู่เฉพาะในป่าที่มีคน หรือสัตว์ตายโหงเท่านั้น กับการตายต้องเป็นการตายแบบสยดสยอง พองขน ในบริเวณที่เดิมๆ ซ้ำซากๆ แบบเอาเป็นรายเดือน เดือนละคนต้องมีเลือดสดๆละเลง คาวคละคลุ้ง ไหลนอง  ป่าแบบนี้จะเป็นป่าที่เสือสมิงชอบมาก การตายอาจเป็นการตายของคน หรือสัตว์ใหญ่ๆ เช่น วัวแดง ช้าง ควายป่า  ด้วยเหตุนี้ทำให้วิญญาณในบริเวณดังกล่าวที่ทนทุกข์ทรมาน เป็นวิญญาณผีตายโหง ต้องโดนกักขัง วนเวียนอยู่ จะมากด้วยอิทธิฤทธิ์ เพราะถูกอำนาจอาถรรพ์ผูกมัดไว้ ทำให้ไปเกิดไม่ได้ จนกว่าจะหาตัวตายตัวแทนได้ วิญญาณที่มีอาคมแก่กล้า จึงมาสิงสู่อยู่ในร่างเสือ ( อย่าแปลกใจเลย จากตำนานเสือสมิงในกรณีนี้มีวิญญาณพระบางรูป ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า แต่ได้พลาดท่าเสียทีแก่เสือสมิงมาแล้ว ถูกเสือสมิงกิน ภายหลัง เสือปลอมมาเป็นพระรูปนั้น เรียกพรานลงมาจากห้าง แล้วหวังจะหลอกพรานป่าลงมากิน ดีที่พรานเฉลียวใจ จนท้ายสุดฆ่าสมิงตัวนี้ได้ )

วิญญาณที่แก่กล้าที่เข้าสิงสู่เสือ เพื่อคอยดักฆ่าคนให้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ ซึ่งอย่างต่ำต้องมากกว่า 12 คนขึ้นไป จึงจะล้างอาถรรพ์ได้ไปเกิด ( ก็น่ากลัวอีกว่าไม่รู้จะไปเกิดเป็นอะไร เพราะแรงกรรมนั้นหนักนัก ) ส่วนวิญญาณที่ถูกเสือฆ่ากิน ก็จะมาเป็นเสือแทน ร่างเสือก็ยังอยู่ จนกว่าจะได้พบกับผู้ที่มีบุญญาธิการแก่กล้าหรือพรานป่าผู้มีวิชาอาคมเพียงพอที่จะฆ่าเสือสมิงทิ้งแบบหมดเวรหมดกรรมกันไปเลย

เสือสมิงตอน 2 ของจริงจากพระป่าที่มีประสบการณ์

แต่อย่ามาถามหาใบสมัคร เสือสมิงจากจานวานะ  ในยุคปัจจุบันนี้ มันมีน่ากลัวกว่าเสือสมิง ที่สิงสู่อยู่ในป่าดิบ แต่มันเป็นเสือ 2 ชนิด ที่มีอยู่ในป่าคอนกรีต น่ากลัวมากๆ คือ เสือผู้หญิง กับหมาสมิง มองไปทางไหนเจอแต่อย่างนี้เฮ้อ!!!!!