เมื่อไปถึง ศิษย์ทางหาดใหญ่ขอให้เปิดคลาสซ้อน เป็น 2 คลาส คือ ช่วงเย็นคลาสหนึ่ง ช่วงกลางคืนอีกคลาสหนึ่ง มาเจอดับเบิ้ลคลาสเราขาสั่น เพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่รู้เลยว่า มันเป็นตัวทดสอบ ถ้าเราผ่านได้ จะเป็นบุญใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะหมายถึงจะได้ช่วยยกระดับจิตใจเพื่อนร่วมโลกด้วยกันให้พ้นทุกข์ พบกับความสงบทางจิตกันได้อย่างแท้จริง กับทำเพื่อหลวงปู่ทวด มาโปรดชาวใต้ลูกหลานของท่าน ทำไมจะยอมไม่ได้ เพราะพวกที่จะมาคลาสกลางคืนเขามาเร็วกันไม่ได้ กับเป็นพวกศิษย์เก่าที่เคยเข้าคลาสมา ต้องแยกสอน เพราะพื้นฐานไม่เท่ากัน คลาสเย็นจะเป็นคนงานของคุณอเนก ซึ่งบางคนไม่เคยเข้าคลาสที่ไหนมาก่อน ต้องแสดงธรรมะชาวบ้านให้เขาฟังกันอย่างง่ายๆ เป็นธรรมมะแบบชีวิตที่เรียบง่าย อยู่ได้ด้วยปัจจัยทั้ง 4 ชนิดไม่ให้มากเกินไป ไม่ให้เกินความจำเป็นเกินไป ไม่ให้ฟุ่มเฟือยเกินไป เพียงให้รู้จักกับคำว่าเผื่อแผ่ผู้ร่วมโลกด้วยกัน จึงตอบตกลงไป ซึ่งการสอนจะเริ่ม บ่ายสี่โมงวันที่ 2 นี้เลย เป็นคลาสพนักงานหญิงของคุณ อนงค์ มีประมาณ 30 กว่าคนรวมกับเด็กนักเรียนของเราอีก มีพนักงานชายของคุณอเนกอยากมาร่วม แต่มาไม่ได้ คุณอเนกเปิดห้องบอลรูมขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นห้องประชุมได้  จริงๆ แล้วสามารถบรรจุคนได้เป็นร้อยคน ที่สระว่ายน้ำให้ติดไมค์ให้ด้วย เพื่อได้ยินกันทั่วถึง ห้องแอร์กว้างขวางเด็กทุกคนกระตือรือร้นรีบมาเข้าคลาสกัน คุณอนงค์จะนั่งฟังอยู่ด้วยกับเด็กทุกคลาส ทุกวัน เด็กทุกคนนำมะลิมาคนละ 2 พวง เพื่อไหว้พระ หนึ่งพวง ให้ครูบาอาจารย์ผู้สอนหนึ่งพวง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ก่อนเข้าคลาส คุณอนงค์เตรียมต้นผ้าป่าไว้ให้ คณะศิษย์ของจานวาที่รวบรวมกันหนึ่งต้น ได้ปัจจัย 70,000 กว่าบาท เพื่อเตรียมนำไปร่วมทอดผ้าป่าที่วัดต้นเลียบของหลวงปู่ทวดในวันรุ่งขึ้นตอนเช้า ลูกศิษย์เราทั้งจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ช่วยกันจัดต้นผ้าป่าด้วยใบหน้าที่อิ่มบุญ เดินทางมากันแสนไกลเพื่อบุญใหญ่

พอเปิดคลาส เวลา16.00 น. ไปแล้วเล็กน้อย เราเริ่มด้วยการอธิบาย ให้เข้าใจว่าผู้ที่มาเข้าคลาสนี้ มี 4 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนั้นการเทศน์ ต้องระมัดระวังมาก จะเอาอะไรที่ไม่ใช่แก่นหาสาระมาพูดไม่ได้เด็ดขาด เพราะกลุ่มแรก คือท่านๆ จากเบื้องสูง จอขนาดใหญ่ปรากฏการเทศน์ของเราในสวรรค์ กับนรกทุกชั้น ใครเป็นประธานในทุกคลาสที่เราเทศน์  ไม่ต้องให้บอก กลุ่มที่ 2 นักเรียนในชั้นที่นั่งกันอยู่ตัวเป็นๆ กลุ่มที่ 3 คือ เจ้ากรรมนายเวรของนักเรียนทุกคนที่มาเข้าคลาส ซึ่งจิตของเจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ต่างกัน บ้างรอคอยเวลานี้ที่จะได้ฟังธรรมจากเรา แล้วอโหสิกรรมเลิกราเลิกแล้วกันไป บ้างจะยื้อเอาไว้ไม่ยอมไปด้วยทิฐิมานะ ( กลุ่มพวกนี้ พอวันสุดท้ายอ่อนลงกัน ทุกจิตวิญญาณยอมไปกันเกือบหมด ) กลุ่มที่ 4 คือ สัมภเวสี วิญญาณพเนจรแถวๆนั้น ที่ขอถือโอกาสทองนี้เข้ามานั่งฟังธรรมในห้องด้วย  ซึ่งกลุ่มที่ 3 – 4 นี้ ถ้าใครหมดวาระ หรือภูมิจิตภูมิธรรมยกระดับสูงขึ้นได้ ในวันสุดท้ายเราจะให้ ทำพิธีแซนตี้ คือขอขมากรรมด้วยอภัยทาน แล้วให้สมาทานศีล 5 ส่งขึ้นไปเกิดยังภพภูมิที่ดีกว่าทันที

ดังนั้นครูสอนสมาธิคนอื่นๆ จะนำไปใช้ได้ด้วย ไม่หวงห้าม แต่ต้องมีทักษะในการพูด ต้องมีพลังในน้ำเสียง ต้องมีบารมีพอที่จะเข้าให้ถึงจิตถึงใจ โดนจิตโดนใจวิญญาณพวกนี้ให้เป็น มันเหนื่อยมันยาก เพราะในเวลา เพียง 3 ชั่วโมงของการเทศน์แต่ละครั้งต้องพูดให้ 3 กลุ่ม ได้พบแสงแห่งปัญญา ได้ดวงตาเห็นธรรม ซึ่งพวกเขาจะรับได้มาก รับได้น้อยอย่างไรขึ้นอยู่กับฐานเก่าของพวกเขา กับความศรัทธาต่อพวกเขาที่มีต่อผู้สอน ความเชื่อที่มีต่อพระธรรม ว่าสามารถดับทุกข์ ดับร้อน ดับฟืน ดับไฟได้จริงๆ  ถ้าพวกเขาไม่เคยได้สัมผัส ได้ยิน ได้ฟังกันมาที่ไหน เขากำลังจะโดนใจ ทั้งจุก ทั้งเจ็บกันในคลาสนี้  การจะทำเช่นนี้ได้ ครูผู้สอนจะต้องมีพลังพิเศษ ขณะสอนเมื่อมองไปที่ศิษย์คนไหน ต้องรู้วาระจิตของเด็กคนนั้น ยังไม่พอต้องรู้วาระจิตของเจ้ากรรมนายเวรของเด็กคนนั้นด้วยว่า อ่อนลงหรือยัง หรือยังอาฆาตอยู่  ในอดีตเราจะใช้ร่าง แล้วเชิญเจ้ากรรมนายเวรของเด็กแต่ละคนออกมาเข้าร่างเด็กอีกคนเลย แล้วคุยกันเลยว่า จะเลิกราเลิกแล้วกันไหม ต้องการอะไร ให้รักษาศีล ทำสังฆทาน หรือบวชพระ หรือละเนื้อสัตว์ เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้เขา เราเปิด 3 คลาสที่อเมริกา โดยเปิด 2 คลาสที่ แอลเอ หนึ่งคลาสที่ ดาลัส  โดยทางดาลัสเขาดูถ่ายทอดสดจากทางแอลเอ เขาขอเชิญไปเปิดคลาสปลดวิญญาณที่ดาลัส ด้วยการส่งตั๋วไปกลับให้เรากับร่างผ่าน

แต่ปัจจุบันนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้ร่าง เราดิลตรงกับเจ้ากรรมนายเวรเลย โดยบอกเขาว่า “ เจ้ากรรมนายเวรตนไหนที่ต้องการให้อภัยทานกับเด็กนักเรียนของเรา แล้วเลิกราเลิกแล้วต่อกัน ให้แสดงตัวออกมา โดยให้เด็กนักเรียนคนนั้นมีอาการอะไรก็ได้ ปรากฏให้เห็น ” ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีมาก