การสอนวันแรกเราได้อธิบายให้เขาฟัง ผู้ที่จะมาฟังธรรม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนั้นให้ทุกคนสำรวมกายใจ ตั้งอกตั้งใจฟัง ครูบาอาจารย์ของแต่ละคนท่านมาด้วยหมด พร้อมกับเจ้ากรรมนายเวรของทุกคน และวิญญาณพเนจรละแวกนี้มากันหมด แล้ว 2 พวกหลังนี้เขามีระเบียบกันมาก ใครอยากจะจดอะไร กระดาษดินสอ เตรียมจดกันได้ เด็กๆ ตกใจเพราะลืมเตรียมกันมา ร้อนถึงคุณอนงค์ ต้องหากระดาษเปล่า จัดปากกา ดินสอแจกทุกคน ตรงไหนที่สำคัญเราก็จะเน้นย้ำ พวกเขาต่างจดกันอย่างหิวกระหายประมาณว่า ต่างก็ไม่เคยได้ยินได้ฟังอะไรที่ฟังแล้ว จุก เจ็บ โดนใจ เพราะมันเกิดขึ้นกับพวกเขาหลายคนหันไปมองหน้ากันแล้วแอบหัวเราะกันกิ๊กๆ ขณะที่เขาเพลิดเพลินเจริญในรสแห่งพระธรรม คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอยู่ เราออกนอกเรื่องมาพูดถึงต่างภพต่างภูมิ พูดถึงวิญญาณพเนจร พูดถึงเจ้ากรรมนายเวร   พูดทำนองว่าพวกเขาก็มีความรู้สึกทุกชนิดอย่างเรา ขาดเพียงไม่มีรูปขันธ์ พูดถึงการให้อภัยทาน อานิสงส์ของอภัยทานยิ่งใหญ่แค่ไหน พูดถึงความเข้าอกเข้าใจต่อกัน โทษของการอาฆาตพยาบาท พูดถึงผู้ที่อยู่อีกภพภูมิหนึ่งก็สามารถที่จะต่อยอดปฏิบัติธรรมในภพในภูมิของเขาได้ แล้วแนะนำวิธี ชี้ทางออกบอกทางเดินแก่พวกเขา เราจะพูดเรื่องพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้มันเข้าหูพวกเขาทุกวัน กับทุกวันที่พูดใช้ทักษะในการพูดให้พวกเขายอมจำนน โดยตกลงกันแล้วว่า เจ้ากรรมนายเวรตนไหจะไปให้แสดงอาการเจ็บ หรือเวทนาออกมาทางร่างกายของศิษย์ของเราในคลาส ซึ่งครูผู้สอนสมาธิรายอื่นๆ สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน แต่ต้องมีบารมีพอ ศีลต้องบริสุทธิ์ พลังจิตต้องมาก ต้องรู้จังหวะในการจะพูดเพื่อโปรดให้ถูกภพถูกภูมิ กับอย่าลืมว่า เบื้องบนท่านรับฟังอยู่ อย่าได้สอนอะไรที่ไม่ใช่คำสอนของท่านเด็ดขาด หากคำพูดที่สอนผิดๆ ของเราได้สร้างแค่ความหงุดหงิด ไม่พอใจแต่เพียงผิวเผินให้ท่าน ซึ่งตามปกติแล้วความเมตตาของพระองค์ล้นเหลือจะไม่แสดงออก  แต่มิใช่ว่าพระองค์จะไม่รู้ได้ว่า ที่เราสอนไปนั้นอันไหนของท่าน อันไหนไม่ใช่  ดังนั้นการจะเป็นครูผู้สอนแบบของแท้ ของจริงได้นั้น หายากมาก เมื่อมีสักคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในเส้นทาง เขาจึงต่อจอภาพ ขนาดใหญ่ไปยังนรกภูมิทุกชั้น สวรรค์ทุกชั้นให้ได้ยินกัน  ผู้ที่อยู่ในนรกในกระทะทองแดงน้ำกรดน้ำร้อนเผาไหม้ ยังอุตส่าห์โผล่หัวชูมือกันสลอนจะขึ้นมาฟัง ธรรมข้อใดที่โดนใจ ทำให้เขาสำนึกในบาปที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญมา เขาก็จะขยับขึ้นนรกขั้นสูงขึ้นมา กรรมที่รับก็เบาลง  เรื่องนี้หลวงปู่หลวงตาได้มากำชับกับเราอย่างมาก ว่าเจ้าอย่าได้พูดอะไรที่ไม่ใช่ของท่านเด็ดขาด อย่าเอาคำสอนของท่านมาพลิกแพลงพูดตามใจตนเอง แบบ สำนักอื่นบางสำนัก อย่าสอนแบบผิดประเด็น เอาปริยัติมานำหน้าปฏิบัติโดยไม่มีภาคปฏิบัติเลย   อย่าได้ทำให้ท่านผิดหวังทีเดียว  ขณะนี้ท่านเอ็นดูและพอใจในผลงานของเจ้ามาก กับจับตามองดูเจ้าอยู่ตลอดเวลา  ด้วยความเมตตา  คำตักเตือนจากหลวงปู่หลวงตาทำให้เราเกรงกลัว ไม่กล้าแม้จะแต่คิดอะไรที่มันนอกลู่นอกทางกันเลยทีเดียว