ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 181

อ.วารุณี

เรารู้จักเจ้านิ่มมาได้สัก 6 ปี นิ่มมีชีวิตที่พิสดารไม่ค่อยเหมือนใคร อันมาจากที่มาของเธอที่เกี่ยวข้องกับสภาวะจิตที่แปลกประหลาดของเธอ เมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้วที่เชียงใหม่ เราอยู่บ้านบุญรักษามาได้ประมาน 4 ปี แล้วกับเริ่มเปิดคลาสสมาธิเล็กๆ ในบ้านตอนนั้น ยังไม่ทะลุห้องนอน เพื่อทำเป็นคลาสสมาธิอย่างจริงจัง มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาอ่านเฟสเรา กับมีความศรัทธาในตัวเรามาก บอกอยากมากราบ เราตอบเธอไปว่าวันนี้กำลังจะมีคลาสสมาธิ หากจะมาก็ให้มาก่อนเวลา หกโมงเย็น เธอพาร่างเธอมาถึงบ้านประมาณ ห้าโมงกว่าๆ คลาสกำลังจะเริ่ม เธอมาพร้อมกับพวงมาลัยมะลิพวงใหญ่

“กว่าหนูจะหาบ้านอาจารย์เจอ หนูหลงสะเปะสะปะ” อายุเธอตอนนั้นประมาน 40 ปี จัดเป็นคนรูปร่างอ้วน เธอขอนัดตรวจดวงชะตาก่อนด้วย วันถัดมาเธอมาตามนัด เราได้เห็นวิบากกรรมในดวงเธอ จึงทักไปว่า “ปฏิบัติให้มากๆ นะเจ้ากรรมนายเวรเธอกะเล่นเธอจนเดินไม่ได้เลยนะ”  “ไว้อาจารย์เปิดคลาสครั้งหน้า หนูขอมาเข้าคลาส” จากนั้นเธอหายไปอีก 2 ปี กลับมาอีกที เมื่อเราเปิดคลาสสมาธิคลาสใหญ่ ที่สตูดิโอทำโยคะของลูกศิษย์ อีกคน ที่เธอเชิญให้ไปเปิดที่บ้านเธอเพื่อความเป็นมงคล กับครอบครัวของเธอ คลาสนั้นคุณนิ่มมาด้วย บอกว่า “คลาสตรงกับเวลาที่หมอ นัดเข้าผ่าตัดมดลูก ตามที่อาจารย์ทักไป เจ้ากรรมนายเวรหนูจัดให้หนัก ไม่รู้หนูจะมาคลาสได้ไหม หนูอาจต้องขอหมอเลื่อนการผ่าตัด ขอมาเข้าคลาสอาจารย์ก่อน” “เคราะห์กรรมเธอยังไม่หมดนะ ของอะไรที่บ้านเยอะแยะเอาออกไป กับทิ้งๆ ไปบ้าง” เราเตือน เพราะนิ่ม ชอบไปรับอะไรเข้าบ้าน ตนเองไปรับขันธ์ กับไปสักอะไรตามตัว ของอะไรเข้าตัวบ้างก็ไม่รู้ เพราะความประมาท กับหลงทางผิดของเธอแท้ๆ ไม่นานชีติดต่อมาว่า “จานหนูมาคลาสจานได้แล้ว อยู่ๆ หมอ ขอเลื่อนการผ่านตัดออกไปเองเลย” นี่แสดงว่า วาระเวลาของนิ่มจะได้ฟังธรรมกับเราแล้ว เมื่อจบคลาสนั้น นิ่มคลานเข้ามาเบื้องหน้าคลาสแล้วบอกว่า “ให้พรในการผ่าตัดหนูอย่าให้หนูเจ็บ” “เออ …ขอให้สบายตัวเหมือนนอนหลับสบายๆ เลยนะเอ็ง” จากนั้นเราไม่พบกันอีก เพราะเราเดินสายไปอเมริกาบ้าง ออสเตรเลียบ้าง ปีถัดมา เราจะเปิดคลาสที่บ้านบุญรักษา นิ่มกลับเข้ามาบอกว่า “อย่างที่อาจานทักเลย หนูเดี้ยงเดินไม่ได้ เท้าข้างหนึ่งบวมคลานอยู่แถวบ้าน”

มีอยู่ครั้งหนึ่งปีไหนจำไม่ได้แล้ว ขณะที่เรานั่งทำงานอยู่ นิ่มทักมาทางเมสเซนเจอร์ แล้วอยู่ๆ พิมพ์อะไรลงมา แล้วส่งมาให้เราอ่านความว่า “ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นภูตผีอยู่ในสวนหลังบ้าน จะมาขอความช่วยเหลือจากท่าน” เราตกใจมากเพราะนั่งอยู่หน้าคอมพอดี จึงเขียนถามนิ่มไปว่า “มันเรื่องอะไร เรางง” “ หนูไม่รู้ หนูนั่งอยู่หน้าคอม ส่งไลน์คุยกับจานอยู่ดีๆ เหมือนไม่รู้สึกตัว ว่ามีใครให้พิมพ์อะไรลงมา ” แล้วอยู่ๆ มีข้อความจากนิ่ม มาจากใครคนนั้นที่ไม่ใช่นิ่ม ต่ออีกว่า “ปล่อยข้าด้วย ข้าจะได้พ้นเวรพ้นกรรมเสียที” เรารีบเขียนถามไปเลยว่า “เจ้าชื่ออะไร ? เป็นอะไรตาย อายุเท่าไหร่ เข้ามาหาข้าที่บ้านบุญรักษาได้ไหม?” เธอตอบมาโดยผ่านนิ่มเป็นสื่อว่า “มีจ๊ะ หนูชื่อชวนชม จำอะไรไม่ได้มาก หนูเป้นคนโบราณ ถูกเขาฆ่าข่มขื่นเจ้าค่ะ ตอนนั้นไม่มีสติเหลือแล้ว หากหนูได้พ้นไปจากตรงนี้ หนูยินดีช่วยจะช่วยทุกอย่างไม่ว่าอะไร? หนูเข้าบ้านไม่ได้ ที่บ้านไม่ให้เข้า ขอบคุณเจ้าค่ะ หนูอยู่ที่นี่มานานกว่า 50 ปี แล้วหนูอยากไป หนูชื่อชวนชม พงษ์ชน” หากใครตามอ่านบทความเราคงจำเรื่อง “ วิญญาณของชวนชม ” ที่เราเขียนมานานแล้ว วันถัดมานิ่มมารับเราที่บ้าน พาไปที่พักเธอที่หางดง บ้านที่เธออยู่ อยู่ในสวน ทำหน้าที่เฝ้าสวนให้เจ้านาย เจ้านายมีบ้านหลังใหญ่สองชั้นอยู่ในสวนที่ค่อนข้างเปลี่ยวกับทึบ ระหว่างบ้านของนายซึ่งทำงานกันอยู่กรุงเทพฯ มีบ้านคนสวนหลังเล็กๆ ให้ช่วยเฝ้าดูแล ตัดหญ้า ทำความสะอาดบ้าน นิ่มอยู่กับลูกชายอายุ 5-6 ขวบหนึ่งคน ระหว่างบ้านเจ้านายมากระท่อม หลังเล็กๆ กำลังน่าอยู่ของเธอต้องเดินผ่านป่าละเมาะ มืดครึ้ม มีศาลเก่าๆ อยู่ศาลหนึ่งที่นิ่มเดินผ่านไปมาบ่อยๆ เพื่อไปปัดกวาดทำความสะอาดบ้านเจ้านาย เธอสังเกตเห็นศาลเก่าๆ นี้มาแต่แรกซึ่งมีมาพร้อมๆ กับบ้านของเจ้านาย เธอไม่เคยรู้ประวัติของมัน ว่าศาลอะไร ของใครสร้างไว้ทำไม จนกระทั้งหลังจากเธอมาเข้าคลาสเราได้สองคลาส งานเข้าเลยเพราะเธอได้มาฟังธรรมกับเรา แสงออร่าของครูบาอาจารย์จับที่ตัวเธอ เมื่อเธอเดินผ่านศาลนี้อีกครั้ง ชวนชมได้เห็นแสงออราของนิ่ม ซึ่งชวนชมรู้ว่า นิ่มจะไปฟังธรรม จะไปเข้าคลาส ชวนชมเกาะท้ายรถเครื่องนิ่มมาจากหางดง บางคืนนิ่มจะบ่นว่า “จานรถหนูหนักอึ้ง เหมือนใครซ้อนท้ายมาเข้าคลาสจานด้วย” เพราะจากหางดง มาบ้านท่อ ศูยน์ราชการระยะทางมันประมาน 40-45 กิโลฯได้ พวกผีตายโหงตามสี่แยก ตามถนนจะเกาะรถมากับนิ่ม มาชะเง้อชะแง้ ฟังธรรม แต่เข้าบ้านไม่ได้ เพราะเราห้ามเข้า ให้ฟังกันอย่างมีระเบียบกับสำรวมนอกรั้วบ้าน

นิ่มพาเราเดินบุกหญ้าค่อนข้างรกไปที่ศาล มีต้นฉำฉามืดครึ้มขนาดใหญ่น่ากลัวมากอยู่หลายต้น มันให้ร่มเงาอย่างดีในตอนกลางวัน แต่ยามค่ำคืน นิ่มบอกว่าจะไม่มีใครกล้าเดินผ่านตรงนี้ ชวนชมถูกข่มขื่นตรงบริเวณที่เปลี่ยวแห่งนี้ กับหาญาติพี่น้องไม่เจอ เหมือนผีไร้ญาติอย่างไรอย่างนั้น เราจึงจัดการทำพิธีง่ายๆ จากการกรวดน้ำให้ ให้สมาทานศีล 5 ไป ก่อนไปเธอบอกเธอจะกลับมาอีก พอในปี 2020 คือผ่านไปได้ 5 ปีได้ เมื่อนิ่มกลับมาเข้าคลาสเราอีก หลังจากหายไปอีก 2 ปี ในคลาส อยู่ๆ ชวนชมผ่านมาทางนิ่ม บอกมาลา กับขอกราบขอบคุณเรา เธอหมดวาระจะไปแล้ว แต่เธอได้หลุดจากตรงบ้านสวนมานานแล้วตั้งแต่ที่เราไปปลดปล่อยให้ ตามตอนต่อไปตรวจสภาวะจิตของนิ่มที่แตกต่างจากทุกคน

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ