ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 13

วันที่ 16 ตุลาคม 2016 ช่วงเช้าพวกเราได้ ไปมุดถ้ำเพียงดิน ศิษย์เราทุกคนได้เป็นพยานสายตากับสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ จากการ “สื่อ” กับรูปปั้นของนาค หรือ ฤาษีทรงธรรม ซึ่งอยู่ปากทางออกจากถ้ำดินเพียงในช่วงเช้า ไม่ต้องพูดถึงความศรัทธา ของเด็กพวกนี้ที่มีต่อเราเด็กบางคนพบเราครั้งแรก ต่างจะแย่งเกาะแขนเกาะขาเราให้รำคาญ เด็กคนหนึ่งชื่อ เจ้าปาริชาติ กลุ่มนี้มี 6 คน มีเจ้ารตี เจ้าเปิ้ล เจ้าส้ม เจ้าเมย์ เจ้าตูน และเจ้าปา พวกนี้พักอยู่บนชั้น 5 เราอยู่ชั้น 4 เย็นนั้น เมื่อทุกคนต่างกลับมาห้องที่พัก เราอาบน้ำเสร็จทำการชาร์จแบตด้วยการเข้าสมาธิ กับเข้าญาณสมาบัติ ขณะนั้น มองเห็นเด็ก 6 คนที่ว่า และได้ยินเด็กมันนินทาเราหัวเราะกันกิ๊กกั๊กๆสนุกปาก เจ้าปา ที่ว่าปากเสียที่สุด แต่จิตใจดีมากได้อธิษฐานจิตของเธอบางอย่างเล่นๆ แล้ว พวกเขาทั้ง 6 คนพากันขึ้นลิฟ กดลงมายังชั้น 4 เรารีบออกจากห้องไปยืนที่หน้าประตูลิฟ ทำหน้าถมึงทึงท้าวเอวรอไว้ก่อน พอประตูลิฟเปิดเท่านั้น ภาพที่เด็กทั้ง 6 คนเห็น พวกเธอกรี๊ดกันขึ้นมาสุดเสียงสังข์ นี่ถ้าเยี่ยวแตกหรือวิ่งทะลุลิฟออกไปได้มันคงทำกันนานแล้ว พร้อมกับเสียงเราที่ตวาดดังก้องขึ้นมาว่า “พวกเอ็งทำอะไรกัน” เด็กทุกคนในลิฟแคบๆ แทบกระโดดกอดกัน ขวัญหนีดีฝ่อ กระเจิดกระเจิง “อาจาน หนูเพิ่งอธิษฐานว่า ประตูลิฟเปิดออกมา ขอให้พบอาจานยืนอยู่หน้าลิฟ  จานมายืนอยู่หน้าลิฟจริงๆ” จ้าปาพูดปากคอสั่น “อ้าววว ไม่ดีเหรอเมื่อเป็นจริงตามที่เอ็งอธิษฐานแล้ว เอ็งจะตกใจทำไม” “หนูๆๆๆ เอ้อๆๆๆๆ” อัมพาตรับประทานปาก เธอพูดไม่ออก เมื่อโดนเข้าจังๆ อย่างนี้แด็กมันจึงสิ้นสงสัย แอบไปซุบซิบกันว่า “จานวามีหูทิพย์”

เมื่อออกจากถ้ำดินเพียงเช้านั้น ภาคบ่ายมีโปรแกรมไปเดินตลาดกัน ก่อนตรงไปวัดหินหมากเป้งของหลวงปู่เทศน์ เราต่างเหนื่อยอ่อนกัน ไกด์พาคณะไปรับประทานอาหารเที่ยง ก่อนตรงเข้าวัดหินหมากเป้ง

เมื่อไปถึงวัดหินหมากเป้ง ตรงหินทั้ง 3 ก้อน ไม่มี วี่แววของนางนิศา มหาเทวีอยู่ที่นั่น หนิงก็จับไม่ได้  แต่ ก่อนที่คณะเราจะจากวัดหินหมากเป้งมา เรารวมพลังกันกรวดน้ำให้วิญญาณแถวนั้นอีก ตรงรั้ววัดติดหินก้อนที่ 2 ซึ่งพวกเขาพอใจกันมาก มันเหลืออยู่ที่เดียวแล้ว วิญญาณของแม่นางนิศา มหาเทวี ต้องอยู่ที่คำชะโนดอย่างแน่นอนจะเป็นอื่นไปไม่ได้ เราเองก็ไม่เคยไปคำชะโนด ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก ซึ่งปู่ภุชงค์ ย้ำว่า บ่อน้ำ และก้อนหิน เป็นตำแหน่งที่วิญญาณของแม่นางอยู่ที่นั่น พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่พบแม่นาง เธอจะผิดหวังไปอีกนานแค่ไหน เธอติดอยู่ตรงนั้นมานับพันๆ ปีแล้ว เหลืออยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้นเธอก็จะหลุด เราคนเดียวที่จะปลดเธอได้ ถ้าพลาดก็หมดโอกาส ดังนั้นพรุ่งนี้จะพลาดไม่ได้ แต่คืนนี้วันที่ 16 วันออกพรรษา คณะเราจะไปที่ริมโขงเพื่อดูบั้งไฟพญานาคกันก่อน อาจจะอยู่ริมโขงก็เป็นได้ แต่จิตมันก็บอกอีกว่า ไม่ใช่ตรงที่ไปดูบั้งไฟ ต้องอยู่ที่คำชะโนดแน่นอน ซึ่งเป็นรายการสุดท้าย พรุ่งนี้เช้าออกจากโรงแรมเขาจะพาไปคำชะโนด ก่อนไปส่งคณะเราที่สนามบินอุดรกัน

คืนนั้นที่โพนพิสัย ริมฝั่งโขง มันเป็นประสบการณ์ในชีวิตของคณะพวกเราแทบทุกคน ผู้คนแห่แหนกันมาจากทั่วทุกสารทิศ ต่างเอาเสื่อ เบาะรอง มานั่งกันเต็มริมฝั่งโขงไปหมด ยิ่งเวลาผ่านไปบรรยากาศก็แสนจะเป็นใจท้องฟ้าสดใส ตะวันเหลื่อมลับหายไป ลำน้ำโขงลมเย็นๆ พัดกลิ่นไอของลำน้ำเข้าสู่ปอด เห็นลำน้ำโขงทอดตัวยาวไปสุดสายตา มีเรือสุวรรณหงส์จำลองหลายลำถูกตบแต่งด้วยแสงไฟลอยตัวอยู่บนลำน้ำหลายลำสร้างสีสันกับบรรยากาศให้เป็นใจอย่างยิ่ง ข้าวกล่อง ขนม ถูกทางไกด์ กับคณะนำออกมาแจก คณะเราทุกคนแฮปปี้กับบรรยากาศ ริมโขงเหลือจะกล่าว พอพลบค่ำ ลูกไฟประหลาดได้เริ่มทยอยพุ่งขึ้นจากน้ำ สักครั้งหนึ่งในชีวิตพวกเราได้สัมผัสจากของจริงกันสักทีแทนคำกล่าวขานบอกเล่าร่ำลือที่เคยได้ยินกัน เจ้าจุก กับเจ้าเจี๊ยบ ลงทุนลางานจากโรงพยาบาลไกเซอร แอลเอจากอเมริกา ดอนกับตาบินมาจาก ซาคราเมนโต อเมริกา

ลิลรี่ ฮูริโฮ มาจากอเมริกา วันอย่างวันนี้จะมีเพียงหนเดียวในชีวิต ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ประทับใจกับทัวร์ครั้งนี้กันสุดจะคุ้ม  จนเวลา 20.30 น. เราเรียกคณะเดินทางกลับ ก่อนที่จะออกไม่ได้ เพราะรถราติดแน่น หาถนนไม่เจอมีแต่รถทุกหนแห่ง

พอกลับมาถึงที่พักคืนนั้น เราให้เจ้าปา กับเจ้าหนิง มาพบที่ห้อง เพราะระหว่างทาง เจ้าปาริชาติ ทะลึ่งร้องไห้ขึ้นมาในรถขณะที่ทุกคนหลับกันด้วยความเหนื่อยอ่อน ทำให้คนในรถทุกคนสงสัยว่าเธอร้องไห้เพราะอะไร เธอจะต้องบอกสาเหตุเรา กับเราต้องการเรียกเจ้าหนิงมา แล้วเรียกปู่ภุชงค์ลงมาคุยว่า นางนิศามหาเทวีอยู่ตรงไหน พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะ หากไม่ได้ช่วยนาง เรานอนตาไม่หลับแน่นอน ดังนั้นพรุ่งนี้จะพลาดไม่ได้

เสียงจากใจของนางนิศามหาเทวี

เรานั่งอยู่บนเตียง เจ้าปากับเจ้าส้ม นั่งที่พื้นห้องเบื้องหน้าเรา เราจัดให้หนิงนั่งเก้าอี้สูงระดับเดียวกับเรา เจ้าปุ๊โชคดีมากตามเข้ามาในห้องเราอีกคนหนึ่ง ครู่ใหญ่เจ้าอ้อมลูกสาวตามมา มาทันที่จะอัดเสียงหนูนิศา มหาเทวีที่ลงคุยกับเราแบบเปิดอกผ่าหัวใจคุยกันเลยทีเดียว เราเรียกปู่ภุชงค์ลงมาก่อนโดยผ่านร่างหนิง ปู่ภุชงค์ลงมาแป๊บเดียวบอกมีธุระติดประชุมนาคข้างบนอยู่ เดี๋ยวให้แม่นางนิศามหาเทวี คู่รักเก่าของปู่ภุชงค์ลงมาเปิดเผยจากปากของเธอเองเลย