ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 149

เพราะคืนนี้มันเป็นคืนเดือนมืด แรม 15 ค่ำ คืนหมาหอน ทุกดวงจิตดวงวิญญาณในต่างภพต่างภูมิต่างเฝ้ารอด้วยจิตใจที่จดจ่อ จะพลาดไม่ได้ เมื่อรถด่วนจะมาจอดรับถึงสถานี ซึ่งกว่ารถขบวนนี้จะมาเกยถึงที่ต้องใช้เวลานับร้อยๆ ปี ขณะเดียวกันจิตเราจับได้ว่าทุกสายตาของท่านๆ เบื้องบนโดยเฉพาะพระตถาคต แม่กวนอิม ปู่กวนอู หลวงปู่ทวด หลวงปู่มั่น พระศิวะ  ต่างจับตาดูว่าเราจะแก้ไขสถานการณ์อันนี้อย่างไร  นอกจากนั้นยิ่งกว่านี้ ยังรู้อีกว่า พระโพธิ์สัตว์กวนอิมทรงเล่นข้างเราหมดหน้าตัก เพราะเคยรับสั่งกับเราหลายทีเลยว่า “ ข้าดีใจที่ข้าดูคนไม่ผิด ข้าดีใจที่เจ้าไว้ใจข้า กับเชื่อใจข้า ” ดังนั้นขึ้นชื่อว่าแม่ ลงหมดหน้าตักว่าเราจะแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้อีก เราก็จะทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้ ส่วนหลวงปู่ทวด หลวงปู่มั่น ท่านก็ลุ้นสุดตัว ว่ามันจะต้องผ่านไปได้สิน่า ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกหลานของปู่แล้วอย่าทำปู่หน้าแตกทีเดียว

เมื่อเด็กทุกคนเข้าที่เข้าทางกันบนสถูป ลงนั่งบนเบาะรับลมเย็นๆ จิตลึกๆ ของทุกคน มันบอกว่า “วันนี้สุดท้ายแล้วที่จะได้กินลมชมธรรมชาติฟังจานวาเทศน์ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ” พวกเขาปล่อยอารมณ์ที่เหน็ดเหนื่อยจากบ้าน จากที่หลับนอนมาอยู่กลางดินกินกลางทรายอย่างอาลัยอาวรณ์ วันนี้บอกไม่ถูกอยากกลับบ้านหรืออยู่ต่อ” “เอ้า …. วันนี้จะพูดสังโยชน์เบื้องสูงที่เพิ่งจบไปเมื่อวาน 5 ข้อทวนให้คร่าวๆ ทุกคนหันไปกราบพระบรมสารีริกธาตุที่พระสถูป เป็นวันสุดท้ายกันแล้วนะ” “ธรรมะที่เราแสดงให้ฟังที่ผ่านมาเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม กลับบ้านคืนนี้นำไปปฏิบัติต่อนะอย่าทิ้งของดี คืนนี้เราจะทบทวนทั้งหมดให้ต่อ แต่ตอนนี้พวกเรามาปลดวิญญาณ กันก่อนดีกว่า 55555   ข้าจะลักไก่พวกมัน เอ้าพวกแรกมีใครบ้างแพมเอากระดาษมาสิ” ทันทีที่เราพูดนักเรียนทุกคนสะดุ้ง คิดไม่ถึงในไหวพริบของเรา เพราะเด็กๆ ต่างกลัวคืนหมาหอนกัน กลับกลายเป็นสุนัขไม่มีโอกาสแม้แต่จะอ้าปากหอน

“เออ …ไม่ต้องตกใจ กลางวันข้าก็ปลดได้ ปลอดภัยกว่ากลางคืนอีก พวกเขาที่อยู่ในรายการปลด 7 จำพวก รออยู่แล้ว …มาเปิ้ล เอาขวดน้ำมาเดี๋ยวข้าจะทำอะไรให้พวกเจ้าหมดห่วงก่อน …. รู้นะว่ายังห่วงกันอยู่” เรารับขวดน้ำจากนิชาวัลย์ เด็กทุกคนรีบสำรวมจิตเขาสมาธิทันที  “แม่ธรณี เจ้าเอ๋ย แม่ช่วยเลื่อนทรัพย์สมบัติแก้วแหวนเงินทองของชาวเมืองทั้งหมดทั้งมวลไปไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปที ด้วยคำอธิษฐานแห่งข้ากับบารมีของแม่ ใครที่มีบุญบารมี กับทำเพื่อแผ่นดินจริงๆ ขอให้เขาได้ไปใช้ในการกู้ชาติกู้แผ่นดินด้วยเถิด” ว่าแล้วเรากรวดน้ำลงดิน จากนั้นได้ไล่ปลดวิญญาณตามลิสที่เจ้าแพมเขียนไว้จนหมดเรียบ ทั้ง 7 กลุ่ม โดยทุกกลุ่มให้สมาทานศีล 5 กันไปด้วยอย่างไม่ตกหล่น เสร็จกลุ่มสุดท้าย เรามีอาการอิ่มบุญ ตัวเบาจิตเบา มันเบาไปหมด

คุณนงค์ ผู้มีตาทิพย์มาบอกภายหลังว่า เห็นเป็นสะเก็ดแสงไฟเยอะมากพุ่งจากดินขึ้นไปเป็นสายเลย ในเวลากลางวันแสกๆด้วย หลวงปู่หลวงตาที่รอดูอยู่ข้างบนอมยิ้มกันเป็นแถว หมายถึงคืนนี้เราจะแสดงธรรม ตามปกติ ไม่มีการปลดวิญญาณใดๆ จากนั้นแสดงธรรมต่ออีกนิดหน่อย พร้อมทั้งปล่อยให้นั่งสมาธิ กับมีรายการถกธรรมกัน สนทนาธรรมกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะให้แยกย้ายกันลงไปช่วยเก็บเต็นท์ เก็บของที่ไม่ใช้แล้วใส่ท้ายรถกะบะของเจ้าปุ้ม

รื้อเต็นท์ เสบียง นิชาวัลย์กับแพม เป้ หน่อยทำงานกันหนัก เมื่อเก็บเต็นท์เสร็จยังพากันเอาเต็นท์ไปล้างน้ำ ขัดทุกเต็นท์ มิฉะนั้นคนที่จะทำคือจานวา กับนิชาวัลย์ พวกเขาจะเป็นบาปแน่นอน เด็กจึงพากันลากทุกเต็นท์ไปช่วยกันขัดกันล้างก่อนเอามาพับเก็บ แล้วแยกย้ายกันออกหาฟืนให้พอเพียงสำหรับคืนนี้ ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายไม่ต้องเผื่อมื้อเช้า

จากนั้นแยกย้ายกันอาบน้ำ เตรียมสวดมนต์เย็น เราไปนอนรวมเต็นท์เดียวกับเปิ้ล ปุ้มกับอู เป้กับหน่อย คุณ นงค์กับผึ้ง กับบิ้นอัด 3 เพราะเต็นท์ของคุณผึ้งกว้างมาก บีกับมุก ทริปนี้เป้โดนเห็บ เกาะ 3-4 ตัว คุณนงค์ โดนหนึ่งตัว ฟ้าโดนหนึ่งตัว เราโดนตัวหนึ่ง เพราะสุนัขที่วัดมีกันเป็นฝูง นอกจากนั้นไม่มีใครเป็นอะไรเลย

การแสดงธรรมคืนสุดท้าย ซึ่งเป็นคืนหมาหอน คุณฟ้าถูกเบียดด้านหลัง คือเขาพากันมามืดฟ้ามัวดิน ทำคุณฟ้าปวดหลังไหล่ แข้งขาไปหมด เราต้องเทศน์ให้ฟัง พวกเขาจึงถอนตัวออกไปด้วยความผิดหวัง ที่รู้ว่าเราปลดไปแล้วตั้งแต่ตอนกลางวัน  หากจะถามว่าวิญญาณพวกนี้จะไม่โกรธแล้วทำร้ายเราเอาหรือ

คำตอบคือ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะคิด เพราะเขารู้ว่า เราเป็นใครทำงานให้ใคร เรามีความสามารถทำอะไรพวกเขาได้บ้าง ใครอยู่กับเราดูแลเราอยู่ เขาจึงไม่กล้าแตะ ไม่กล้าคิด เพราะถ้าเขาทำอะไรให้เราไม่พอใจ ….. การตัดสินใจทั้งหมดเราทำได้เลยทันทีเช่นกัน “ ขอให้ไฟนรกเผาเอ็งเดี๋ยวนี้เลย เคยวิ่งหนีกันกระเจิงมาแล้ว  จึงไม่ต้องพูดกันมาก ” คำเดียวรู้เรื่องนะ ครูสอนสมาธิทั่วๆ ไปจะนำไปใช้ให้เกิดสีสันในคลาสกันบ้างก็ไม่ว่ากันนะ คืนนั้นก่อนปิดคลาสอย่างอาลัยอาวรณ์ คุณนงค์ กับหงส์พาเด็กๆ เอาพวงมาลัยที่เก็บไว้ในกระติกน้ำแข็งมาวางแทบเท้าเราเพื่อขอขมากรรม ต่อครูบาอาจารย์ ท่ามกลางกองไฟของคืนเดือนดับ ให้พระเพลิงเป็นพยานว่า ทุกคนในคลาสนี้จะมีส่วนช่วยในการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน กับก่อนปิดคลาสคืนนี้เขาได้อธิษฐานอัญเชิญพระอรหันต์ ที่มีอยู่ในบริเวณนี้มาสนทนาธรรมให้ลูกหลานได้ฟังกันด้วย ท่านมาจริงๆ คุยกับพวกเราอยู่นานบอกชื่อด้วย กับบอกว่าพวกท่านซึ่งอยู่บริเวณนี้มีมาก กับจะให้ของที่ระลึกจริงๆ ที่เราขอไว้ไง? ทำให้เด็กๆ ฮาดีใจกันมาก คือท่านจะให้พระอรหันต์ธาตุ แต่จะให้ด้วยการเสด็จไปตกที่บ้านบุญรักษาเลย แล้วเราจะจัดแบ่งให้เด็กๆ ในคลาสเอง แต่ท่านไม่บอกว่าเมื่อไหร่  เพราะวันก่อนๆ ที่เราไปแสดงธรรมที่สถูปเราได้หลุดปากออกมาว่า “ อย่างไรๆ ขอของที่ระลึกให้เด็กๆ ในคลาสด้วยนี่ด้วย ” ไม่นึกว่าท่านจะจำคำพูดของเราได้ ซึ่งท่านบอกว่ามีอยู่เยอะมาก เจ้าจะรู้เองว่าของใครเป็นของใคร ” ขนาดนั้นเลย

เช้ารุ่งขึ้นวันที่ 25 พวกเราตื่นกันตามสบาย คือตีสี่กว่าๆ ทำกิจส่วนตัวเสร็จ ช่วยกันพับเก็บเต็นท์ เก็บข้าวของที่เหลือ เราบอกออกจากวัด 7 โมงตรง ทุกคนรีบเร่ง กับตระเตรียมซองขาวไว้ 4 ซอง รวบรวมเงินคนละเล็กละน้อยถวายวัด ถวายคนดูแลวัดที่ล้างห้องน้ำให้พวกเรา ถวายทางวัดค่าน้ำค่าไฟ และถวายแม่ชีจันทร์ จากนั้นทุกคนได้กรวดน้ำ กวาดเก็บขยะจนชิ้นสุดท้าย นำออกไปทิ้งนอกวัด  กับนัดไปรวมตัวกันที่ร้านอาหารเจที่ตลาด 3 แยก ซึ่งพลขับของทุกคันรู้จักดี ทุกคนไปพบกันจนร้านแน่น ทางร้านตกใจ ไม่เคยมีใครเข้ามาพร้อมกันเต็มร้าน วันนั้นเรากะเป็นเจ้าภาพ แต่ถูกเศรษฐีหาดใหญ่คุณนงค์แย่งจ่ายไปอย่างเนียนที่สุดเมื่อไหร่ไม่รู้ ทุกคนทานกันอย่างหิวโหย ร้านเจร้านนี้อร่อยที่สุดแถวสันทราย จากนั้นต่างแยกย้ายกันกลับ ด้วยความทรงจำที่ดี

บ่ายวันที่ 25 เรายังต้องนั่งตรวจดวงให้เด็กอีก 2 คน จนเวลาเย็น พอวันที่ 26 เราต้องไปลำพูนเพื่อไปดูที่ 2 ไร่ที่ญาติโยมยกให้พร้อมโฉนด  กลับมาเลยไปบ้านพี่หน่อย แม่เจ้าแพม ชียกบ้านที่ยอดดอยอ่างข่างให้ ขอร้องให้เอา เอาไปเปิดคลาสกางเต็นท์อีก พี่หน่อยจะได้ได้บุญ พี่มีหลายหลังมากดูแลไม่ไหว

เดี๋ยวรอให้กลับมาจากอเมริกาก่อนพี่ “ พอกลับมา พี่ขอให้คุณมาออกรายการวิทยุ กับออกยูทูปนะพี่ได้ 5 โมง ขอเอาคุณไปนั่งด้วย ” “ ได้เลยพี่ กลับมามาคุยกัน เรามีนัดกันนะ ” กว่าจะกลับบ้านหงายท้อง เป้กับหน่อย กับคุณนงค์ยังอยู่จึงพาไปเที่ยวเวียงกุมกาม ขี่รถม้าชมเมืองเก่า พอวันที่ 27 พาไปอาบน้ำพุร้อยที่ดอยสะเก็ด  แล้วเย็น 27 ไปส่งหน่อยกะเป้กลับ เป้มีโอกาสแสดงฝีมือทำอาหารให้เรากับนิชาวัลย์ทานในครัวที่บ้านบุญรักษา ทุกคนกลับไปหมดแล้วยกเว้นคุณนงค์ พอวันที่ 28 คุณอเนกสามีคุณอนงค์ มาจากหาดใหญ่ มารับเราไปดูฮวงจุ้ย ที่เชียงราย กว่าจะกลับก็เย็นมากทีเดียว วันที่ 29   เราจึงได้พัก สรุป จากวันที่ 17-29 ของเดือนมกราคม เรากับนิชาวัลย์ต่างน้ำหนักลด อดนอน โทรมกันเต็มที่ จากนั้นรายการซักผ้าก็ตามมา เพราะ หลังออกจากวัดมา นิชาปล่อยให้เป้กับหน่อยซักของเขาก่อน  หน่อยยังมานั่งซักกางเกงอาบน้ำซึ่งเราใส่อาบน้ำร้อนที่ดอยสะเก็ด กับผ้าถุงแม่ที่ยืมไปใส่อาบน้ำ ทุกคนสนุกกันอยู่ที่บ้านบุญรักษา ส่วนเราไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกว่าจะจบบทความนี้ได้  หืดขึ้นคอ กับดีใจที่รอดชีวิตมาถ่ายทอดให้ฟังกันได้  ตั้งใจไว้ว่า เดือนมีนาคมปี 2021 เดือนมีนาคมจะเปิดคลาสกางเต็นท์ อีกที่ดอยอ่างข่าง

จึงเอวังลงด้วยประการฉะนี้

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ