ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 179
- ตุลาคม 7, 2020
- ตอน สภาวะจิตของ อารีรัตน์

รัตน์ เพิ่งมาเข้าคลาส เราได้ 2 หน เธอมีความศรัทธาแก่กล้ามากในพระพุทธศาสนา ได้เสาะหาสถานที่ปฏิบัติธรรม มาหลายแห่ง เคยโกนศรีษะบวชชีมาแล้วจังๆ ก็ยังไม่พบใครสอนที่ถูกกับจริต ล่าสุดไปได้สาขาของวัดจอมทองกับแม่ชี ที่ท่านเปิดสำนัก หลายแห่งมาจากสาขาจอมทอง ซึ่งเธอยอมรับว่าแม่ชี สอนดีมาก กับก่อนสอนยังสอนให้ทำโยคะด้วย อันนี้ก็ถูกอีกแล้วดีมากด้วย เพียงแต่คลาสเราไม่มีเวลามากพอที่จะสอนโยคะได้ ลำพังตัวเราเองนั้น จะทำโยคะทุกเย็นอยู่แล้ว หากเว้นไปหลายวันเส้นจะตึงขึ้นมาทันที แต่ที่ทำให้รัตน์ต้องย้อนกลับมาเข้าคลาสเราอีก เพราะคลาสเรามีอะไร 2-3 อย่างที่ที่อื่นไม่มี ซึ่งปกติแล้วรัตน์ ชีจะเทกทุกอย่างซีเรียสมากจะไม่เสียเวลาเปล่าๆไปกับอะไรที่ไร้สาระ รัตน์ดูจะซีเรียสกับเรื่องนี้มาก มากกว่าทุกคน กับชีจะไม่พูดมากด้วย ความเป้นส่วนตัว สูง เพราะชีเป็นชาวราศีพิจิก เด็กในคลาสทุกคนส่วนมากผ่านการตรวจดวงชะตากับครูบาอาจารย์ กันแล้วทั้งสิ้น
ที่รัตน์ประทับใจ แล้วต้องย้อนกลับมาอีก คือการสอนที่ง่ายๆตรงกับจริตของทุกชนชั้นวรรณะ ด้วยคำพูดที่ง่ายๆแต่ตรงประเด็นโดนจุด โดนใจบางทีจุกจนกระอัก แถม ในคลาส ยังเทศน์กระทบไปถึงเจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ในร่างของศิษย์ในคลาสทุกคน ทำให้พวกเจ้ากรรมนายเวร พลอยจุกพลอยเจ็บ จากการทั้งแดก ทั้งกระทบ จากการเทศน์ ทำให้เจ้ากรรมนายเวร ของนักเรียนหลายคนส่ออาการ “กูอยู่ไม่ได้แล้ว ให้มันปลดปล่อยดีกว่าอยู่ไปก็ไร้จุดหมาย มันพูดอีกก็ถูกอีกถ้าไอ้ร่างที่ตูเกาะมันอยู่ด้วยความอาฆาตนี้ตายลง ตูจะไปไหนต่อ แล้วตูต้องอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน หลุดจากนี้ที่ไปจะเป็นอย่างไร มันมืดมนต์ไปหมด ฟังมันพูดดิ มันบอกว่าอานิสงส์ของอภัยทาน ที่ให้เลิกราเลิกแล้วกับศิษย์ของมันยิ่งใหญ่นัก รวม กับสมาทานศีล 5 ไปจากมัน แล้ววางให้เป็นพุทธบูชาแทบเท้าองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แค่นี้ก็เป็นหลักรับประกันกับชี้ทางออกบอกทางเดินให้ตูรู้ว่าตูไปดีมีที่ไปแน่นอน แถมมันยังบอกด้วยว่าให้บอกกับพระยายมพบาลว่าฟังธรรมมาจากคลาสมันแล้ว 5 วัน มันขู่อีกด้วยนะว่า เป็นโอกาสทองทางเดียวที่มันจัดใส่พานมาให้ แล้วอย่าหวังว่าจะได้พบมันกับได้โอกาสอย่างนี้ บ่อยๆ จริงดิ จริงๆแล้วมันก็พูดถูก ตูคนหนึ่งละที่จะไม่อยู่ ขึ้นไปให้หลวงปู่หลวงตาแสดงธรรมให้ฟังต่ออย่างมันแนะนำดีกว่า” หนึ่งข้อ ที่คลาสอื่นไม่ มี ข้อต่อไป ที่คลาสสมาธิอื่นๆไม่สามารถ คือ ในวันสุดท้าย เราจะอารธนาอัญเชิญ พลังของหลวงปู่หลวงตา ให้ทรงเมตตามาช่วยเพิ่มพลังกับตัดวิบากให้ศิษย์แต่ละคน เด็กแต่ละคนได้รับพลังนี้กันถ้วนทั่ว เช่นบางทีเราอารธณาอัญเชิญพลังของหป ทวด บ้าง หป โต บ้าง หป มั่น บ้าง หป คูณ วัดบ้านไร่บ้าง หลวงพ่อ สมชาย แห่งเขาสุกิมบ้าง หลวงปู่แหวน บ้าง หลวงปู่ สรวง เทวดาเดินดินบ้าง หลวงปู่ ฝั้น บ้างหลวงพ่ อชา บ้าง ท่านพ่อลี บ้าง หลวงปู่ สด วัดปากน้ำบ้าง เชิญ ปู กวนอู บ้าง พระศิวะบ้าง แม้กระทั่ง พระเยซู ท่านก็มา แต่ที่บ่อยที่สุด คือแม่ กวนอิม นี่เป็นอีกข้อหนึ่ง ที่เด็กๆชอบกันมาก เพราะเวลาท่านจะเสด็จมากันเด็กจะเห็นห้องสว่างจ้า มีประกาย หรือแสงนวลบ้าง แสงออรา ที่แตกต่างกัน ปู่กวนอู ก็เสด็จมาบ่อยๆ จากการอารธนาอัญเชิญของเรา ข้อต่อไปที่คลาสสมาธิอื่นๆไม่สามารถ คือพอปิดคลาส เด็กที่มาคลาสครบทุกวันจะได้ ขอพรจากพระอัฐฐิธาตุ พระอรหันตร์ธาตุของหลวงปู่มั่น องค์ที่เสด็จตกลงมาบนบ่าเราเลย หลวงปู่ กำชับว่า ผู้ที่จะขอพรได้นั้น จะต้องมาคลาสครบทุกวัน หากไม่ครบ หมดศิทธิ์ เด็กหลายคนได้รับพรที่ขอไปแล้วเช่นคนหนึ่งอยากได้เตียง คนป่วยให้แม่ ก็มีคนบริจาคเตียงให้แม่แล้วจริงๆ เด็กเอาไปให้แม่ใช้ที่บ้าน กับอีกมากมาย ตัวเราเองไม่ขอขอเพราะหลวงปู่หลวงตาช่วยกันดูแล แล้วจัดสรรให้หมดแล้ว ข้อสุดท้ายที่หากันได้ยากมากคือ ตรวจสภาวะจิตของเด็ก ขณะเด็กนั่งสมาธิ ไม่ใช่มั่วนิ่ม ว่า อย่าส่งจิตออก อันนี้ เลิกใช้หากินกันได้แล้ว เอาให้ลึกกัน ละเอียดกันกว่านี้หน่อยพร้อม ดู ประวัติ สภาวะจิตของเด็ก ย้อนหลังกลับไปสัก 3-4 เดือน หรือปี ทำกันได้ไหม? หรือมัวแต่กัดกันชิงความเป็นใหญ่ แต่หาผลงานอะไรไม่เจอ เหมือนกับที่พระหลวงตามหาบังชมไม่ขาดปากว่า วัดเหมือนฐานส้วม พระกับชีต่างเหมือนกับมูตรและคูตรอยู่ตามฐานส้วม มาคิดๆกันดู ไม่ผิดจากที่หลวงตาพูดไว้เลย
รัตน์ มาคลาสแรก เมื่อเราเปิดคลาสที่สมุทปราการ เธอได้ยินเกี่ยวกับบ้านบุญรักษา ที่ใครๆโชคดีได้มีโอกาส ไปเข้าคลาสที่นั่น เธออยากมาบ้านบุญรักษาอย่างมาก หาจังหวะเวลาจนกระทั่งโอกาศของเธอได้มาถึง เมื่อเราได้ประกาศเปิดคลาสที่บ้านบุญรักษา เมื่อเดือนกันยายน ปี 2020 วันที่ 20-24 แล้วในคลาสนี้เราได้ทำอะไรอีกอย่างที่ครูในคลาสสมาธิ ที่อื่นไม่ว่าเป็นพระหรือชี จะสามารถทำได้ คือเรียกเด็กออกไปตรวจอารมณ์ สภาวะจิตของเด็กแต่ละคน ตอนนี้เด็ก 2 คนถูกเรียกออกไปแล้ว คือ เป้ กับ หน่อย อะไรที่อาจารย์ จับได้ จากจิตของคนทั้ง 2 อาจารย์ บอกออกมาดังๆในคลาสให้ทุกคนได้ยินอย่างไม่กลัวผิดเลย ซึ่งปรากฏว่าตรงกับสภาวะจิตของเด็กทั้ง 2 อย่างแม่นยำ
บัดนี้รัตน์ นั่งนิ่งอยู่ “สภาวะจิตของรัตน์ เอ็งนั่งสงบดีมาก กายสงบ แต่จิตเอ็งฟุ้งไม่รู้เหนือไม่รู้ใต้ ไม่เคยรู้อารมณืของจิตของตนเอง เอ็งได้ใช้ความพยายามอย่างสูงจะเอาชนะกับจิตของเธอเองอย่างผิดๆถูกๆ เสาะหาครูบาอาจารย์ ที่ถูกกับจริตดูจิตเธอเป้น ชนิดอธิฐานขอครูบาอาจารย์ที่ดีๆสักคน จนมาพบข้า จากการเป็นครูของตนเองในอดีต โดยมีตัวความเพียรนำหน้า นั้นทำจิตตนเองหลุดเข้าฌาญ 4 ไปสงบนิ่งอยู่ แต่เป็นเพียงเดี๋ยวเดียว จากนั้นเอ็งพยายามอย่างมาก จะเข้าให้ถึง ฌาณ 4 อีกให้ได้ แต่ไปต่อไม่เป็น ทั้งหมดนี้จริงไหมรัตน์ ตอบมาตรงๆ ชีออกจากสมาธิลืมตามองเราอย่างงงๆ และตกใจ “ถูกต้องค่ะอาจารย์” “ใจเย็นๆนะมาเรียนรู้วิธีการนั่ง ด้วยความเข้าใจอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเริ่มเอาจิตจับที่กายเป็นอันดับแรก เอากายเป็นอารมณ์ อย่าให้สะเปะสะปะ อย่างแต่ก่อน
คลาสสมาธิของเราเป็นเพียงคลาสเล็กๆ ไม่มีชื่อเสียง แถมผู้สอน คือตัวเราไม่จบการศึกษา จากที่ไหนๆ เพียงแค่ลงมาทำงานตามคำสั่งของหลวงปู่หลวงตา ทำหน้าที่ขนสัตว์ ตนเอง ใครสอนไม่ได้ เรียนอะไรก็ตกหมด เพราะถูกกำหนดมาให้เป็นผู้สอนเพียงอย่างเดียว อย่างที่หลวงปู่ทวด ได้พูดถึง 3 หน ว่า “หากไม่ใช่เจ้า เขาคงไม่ขึ้น” มาดูความเท่ห์ ของสภาวะจิตของศิษย์คนต่อไป

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน
หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ
