ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 183

อ.วารุณี

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 5 เดือนนี้ที่เพิ่งผ่านมา หากจะถามกันว่ารู้จักท่านได้อย่างไร? ต้องตอบว่า ธรรมะจัดสรร ธรรมทั้งมวลล้วนเกิดมาแต่เหตุ  เพราะมันมีสาเหตุให้ต้องไปพบท่าน สนทนาธรรมกับท่าน เพื่อที่จะได้ไปต่อยอดบุญเพื่อได้ไปช่วยใครอีกคนหนึ่ง จากงานวิทยุที่เราทำกับคุณจินดา หรือพี่หน่อย นำคนเข้ามาหลากหลาย โดยผ่านทางคุณน้อย คุณน้อยเธอเป็นเพื่อนสนิทกับคุณหน่อยอีกที คุณน้อยเธอมีศรัทธาในตัวเรามาก เธอส่งเพื่อน ฝูงญาติโยมเข้ามาให้เราตรวจดวงชะตาเกือบ 20 คนแล้ว คุณน้อยเล่าว่า มีพี่ชายคนหนึ่งบวชไม่สึก อายุ 62 ปี อยู่ที่ดอยอินทนนท์ ชื่อ ตุ๊หน่ำ ท่านจำวัดอยู่ตามลำพังบนดอยอิน อากาศดีมาก เธอแนะนำให้เราไปเที่ยว จิตจับไปที่ท่านทันที รายงานมาว่า สมควรไปกราบท่าน ท่านจะต่างกับพระธุดงค์ ที่ดอยนกที่เราเคยไปเมื่อ ต้นปี  จึงตัดสินใจไปกราบท่าน โดยตั้งใจขับรถไปเอง แวะรับคุณน้อย ซึ่งอาสาจะพาไปด้วย ตั้งใจออกกันแต่เช้า ช่วงบ่ายกลับ คงถึงบ้านก่อนมืด แต่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งจะถือเป็นอุปสรรค หรือตัวทดสอบ ไม่ให้เราไปถึงพระก็เป็นได้ คือคืนก่อนวันเดินทางพายุเข้าฝนตกหนักทั่วพื้นที่ในเชียงใหม่ ไปถึงจอมทอง สันป่าตอง หางดง อันเป็นผลจากพายุลูกใดลูกหนึ่งที่เข้ามาถี่จนจำชื่อกันไม่หมด เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณน้อยบอกให้เรายกเลิกการเดินทาง รวมทั้งพี่ชายที่เป็นพระโทรศัพท์ลงมาบอกว่า เลื่อนไปก่อนรอให้ฟ้าเปิด เพราะทางขึ้นจะลื่น มีตะไคร่เกิดจากสภาพความเย็นของอากาศที่อยู่ยอดดอย  ใจจริงแล้วเรากลัวความสูง ไม่ชำนาญการขับรถบนเขา ให้ขับกรุงเทพฯ เชียงใหม่  เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ขับได้ กับทำมาหลายปี จนต้องขายบ้านที่กรุงเทพฯทิ้ง  คุณน้อยให้เบอร์โทรศัพท์ของ ตุ๊หน่ำ เมื่อรู้ว่าเราตัดสินใจจะไปกันเอง ลำพังเพียง 2 คน เราเปลี่ยนกันขับ จนเข้าเขตดอยอินทนนท์ ผ่านน้ำตกแม่กลางไป นิชาทำหน้าที่ขับตลอด จนไปถึงเขตวัดที่อยู่เชิงดอย มีรถเหลืองให้บริการ สำหรับคนที่จะขึ้นยอดดอย จึงเปลี่ยนเราขับ เส้นทางต่อจากนี้เป็นต้นไปชัน โค้งหักศอก ต้องตบเกียร์ 2  อากาศ ยามเช้าแดดอุ่นๆ ทำให้น้ำอันเกิดจากฝนหนักจากเมื่อคืนค่อยๆ แห้งหายไป ซึ่งเป็นตามที่เราคาดคิด คุณน้อยบอกทางให้เคร่าๆ เราไม่คิดจะโทรหาท่าน แต่กะไปถึงวัดเลย เพราะส่งจิตบอกท่านมาแล้วว่าจะมา ทำมาบ่อย กับได้ผลด้วย  ตามจริงแล้วเราออกจากบ้านกันก่อน 07.00 โมงเช้าด้วยซ้ำ แพ็คข้าวกล่องมาทานกัน เพราะเราทานมังสวิรัติกัน  กับนิชาเธอจะเก่งมากเรื่องตระเตรียมอาหารการกิน จัดให้อย่างอุดมสมบูรณ์ ตั้งใจไปทานกันที่วัด  เราหลงกันพอสมควรแต่ก็ถามทางชาวบ้านไปเรื่อยๆ บรรยากาศ ที่ค่อยๆ สูงขึ้น ไอน้ำจากความหนาวเย็น และฝนที่ตกเมื่อคืนทำให้บรรยากาศ เหนือคำบรรยาย มองออกไป เห็นแต่ป่าไม้เขียวชอุ่ม  ด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด บอกถึงความสมบูณร์ของป่า ที่มาพร้อมกับกลิ่นไอของดินหลังจากถูกฝน กลิ่นแบบนี้ หากันไม่ได้ในป่าคอนกรีต  จึงสูดอากาศเอากลิ่นนี้เข้าให้เต็มปอด

อ.วารุณี

วัดของตุ๊หน่ำ อยู่ใกล้กับโครงการหลวงขุนวาง เราต้องถามยามที่ป้อม กับขอให้เขาใช้รถเครื่องนำทางเราไป เขาพาเราไปจนถึงหน้ากุฏิท่านเลย ท่านเพิ่งฉันข้าวเสร็จ กำลังยืนล้างบาตรอยู่ ท่านก็รู้ว่าเราจะมากัน คุณน้อยคงโทรบอกท่านเอาไว้แล้ว  เลขาได้โทรหาท่าน แต่ท่านไม่รับ จิตเรารู้ทันทีว่าท่านจะลองใจเช่นกันว่า จะพากันมาถึงไหม  เราได้นำน้ำผลไม้ 4 กล่องใหญ่มาถวายท่าน กับหนังสือพลิกตำนานหลวงปู่ทวดหนึ่งชุด รวม จาก 0 สู่ดับ  0 และอาถรรพ์จันทร์โดดเดี่ยว  ตรงทางขึ้นวัด ทางชันและลื่น คิดว่าสีหมอกจะขึ้นไม่รอด แต่ก็รอดมาจอดได้อย่างเรียบร้อย  บรรยากาศรอบๆ วัด เงียบ มีลมพัดตลอด เย็นสบาย มาพร้อมแดดอุ่นๆ เสียงนกเสียงการ้อง มองไปรอบๆ เห็นสวนครัวของชาวบ้านปลูกพืชผักแบบขั้นบันไดตามเชิงเขาลดหลั่นกันลงไปเบื้องล่าง  มีสุนัขสองตัวนอนอยู่หน้ากุฏิ ท่านส่งเสียงทักจากอ่างล้างบาตร “ อาตมาเพิ่งฉันเสร็จพอดี ” ท่านชี้ให้ขึ้นไปนั่งในวิหารหลังน้อยๆ อันมีพระประธานสถิตอยู่ มีที่นั่งของท่านต่ำลงมาที่พื้นเบื้องขวาของพระ พอท่านทราบว่าเราเป็นผู้ขับรถขึ้นมา ท่านตกใจมาก ถามอายุเรา ถามที่มาที่ไปของเรา “ โยม โยม ยังดูผ่องดีมาก จิตโยม ใสสะอาดมาก ” หลังจากที่เราเล่าเรื่องอะไรที่คาใจเราอยู่นานให้ท่านฟังหลายๆ เรื่อง เช่น กายที่สองของเราไปโผล่ข้ามทวีปบ้าง ข้ามประเทศบ้าง ข้ามรัฐ บ้าง ขึ้นไปกราบพระตถาคตด้วยตนเองถึงเบื้องบนบ้าง เพื่อให้ท่านพิจารณาตามดู ท่านขยับไปมาอย่างสนใจ ” “ นี่โยม ยังไม่รู้หรือ โยม ได้อภิญญา 6 กับ มโนมยิทธิ ไปนานแล้ว ” “ พระคุณเจ้า โยมไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ไม่เคยศึกษาแนวของหลวงพ่อฤษีลิงดำ ” “ ไม่จำเป็นนะโยม  มันขึ้นอยู่กับความไวของจิตกับพลังของจิต ใครที่จะได้ตรงนี้จะต้องมีการสั่งสมบารมีมาอย่างมากทีเดียว อาตมาเองก็ยังไม่ได้ตรงนี้ ”  โยมนี่ไม่ใช่ธรรมดานะ โยมรู้ไหม ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีลิงดำที่เหลือๆ กันอยู่ปลายๆ แถวได้กันหมดทุกคน แต่ละคนหน้าที่การงานสูงๆ กันทั้งนั้น ” “ พระคุณเจ้าเองก็เช่นกัน โยมค่อนข้างมั่นใจ คงดับทุกข์ทุกอย่างได้หมดในชาตินี้ เพราะไม่งั้นอยู่ๆ โยมคงไม่เสี่ยงขับรถขึ้นดอยอินจนเกือบจะถึงยอดดอย มากราบได้หรอกเจ้าค่ะ ” เมื่อพระคุณเจ้าทราบว่า พระโพธิ์สัตว์กวนอิมทรงเมตตา ถอนให้เราแล้ว ซึ่งพระโพธิ์สัตว์กวนอิมท่านเป็นผู้ เปิดเผยให้เราทราบว่า “รู้ ไหม ว่าเจ้าปรารถนาพุทธภูมิ เจ้าจะถอนไหม ”  และพระองค์เป็นผู้ถอนให้ทั้งหมด ตามจริงเราจะต้องไปเกิดเพื่อการสั่งสมอีก 7 – 8 ชาติ เมื่อถอนหมด งานทุกอย่างจึงตกมาให้เก็บให้หมดในชาตินี้  เมื่อท่านรู้ท่านจึงสอนว่า “ โยมรู้ไหม คนที่ถอนจะมีพลังมาก จะกลายเป็นสาวกของพระตถาคตทันที แล้วจะสอนได้ จะมีลูกศิษย์ลูกหามาก แต่อาตมาสอนใครไม่ได้ เพราะแต่ละคนถูกกำหนดกิจมาไม่เหมือนกัน ” เราสนทนาธรรมกันไปจนได้เวลา เกือบ 11 โมงเช้า ท้องเราสองคนเริ่มหิวเพราะเลยเวลาทานข้าวกันมาแล้ว ซึ่งสำหรับเราหลังเที่ยงเราจะทานอะไรไม่ได้แล้ว  เบื้องหน้าท่านมีถุงอาหารกับข้าววางเหลืออยู่ในถาด  พอท่านรู้ ท่านบอกให้เอาไปทานกัน “ กราบขอบพระคุณ พระคุณเจ้า โยมเตรียมอาหารมาทานกันเจ้าค่ะ ไม่รบกวนหลวงพ่อ ” มา ตามอาตมาไปที่ศาลา มีโรงครัว  มีห้องน้ำในตัว หากโยมจะมากางเตนท์ ปฏิธรรมกับลูกศิษย์ลูกหามาได้เลย อาตมายินดี ยกให้ทั้งหลังเลย  “ ว่าแล้วท่านได้เดินนำเราสองคนลงเนินไปยังตัวศาลาที่มีพระประธานอีกองค์ พร้อมเจดีย์อยู่ข้างๆ ท่านจัดการเปิดหน้าต่าง ประตูบานเลื่อน ให้เราเข้าไปในวิหารที่ใหญ่ และกว้างกว่าหลังแรก เสร็จท่านได้ขึ้นไปนั่งบนตั่งข้างๆ พระประธาน มองดูเราสองคนที่กำลังลำเรียงกล่องอาหาร ผลไม้ออกมาวางบนเสื่อเบื้องหน้าท่าน ตอนแรกเราคิดว่า ท่านจะปล่อยให้เราสองคนทานข้าวกันตามลำพัง ท่านจะกลับไปที่วิหารหลังแรก แต่ไม่เป็นตามนั้น ท่านเล่นจับตามองดูเรา เหมือนกับเห็นมนุษย์ต่างดาว  เรานั่งขัดสมาธิ ทานข้าวอย่างสำรวม พยายามไม่คุยแต่ท่านชวนคุย  เราไม่อยากคุยเลยตอนทานอาหาร “ โยมรู้ไหม โยมมีสมาธิ  หรือกำหนดสมาธิได้ อยู่ตลอดเวลา  ใจโยมนี่สะอาดมาก ใสมากเลย กับยังแข็งแรงมากด้วย แข็งแรงกว่าอาตมาอีก ” เราเลยต้องคุยกับท่าน หลวงพ่อท่านสอนอะไรหลายอย่างที่เป็นความรู้ใหม่ๆ เรารีบนำมาลงเฟส เพื่อสอนลูกศิษย์ลูกหาเราต่อทันที

บริเวณที่พักหลวงพ่อ ได้ยินเสียงน้ำตกชัดมาก เดินลงไปในป่าเบื้องหลังกุฏิท่าน ยังมีกุฏิว่างอีก 2 แห่ง สำหรับให้คนมาทดสอบอารมณ์อยู่ในป่าเบื้องล่างใกล้ธารน้ำตก  พอดีมีหญิงผู้หนึ่ง ขับรถขึ้นมาจอดหน้าวิหาร แล้วหอบของลงมากราบหลวงพ่อ เราสองคนจึงได้นั่งทานข้าวต่อกันได้อย่างสงบ เพราะหลวงพ่อหันไปคุยทักทายกับหญิงผู้นั้นแทน กระนั้นยังไม่วาย พูดถึงเรา “ นี่ๆ เดี๋ยวให้โยมนี้ จัดการศิษย์อาตมาคนนี้หน่อย ” แล้วหันมาทางเรา หญิงผู้นี้คงอดแปลกใจไม่ได้ หันมายกมือไหว้เรา เธอรับราชการระดับสูง อายุ ประมาณ 40 แก่ๆ หลวงพ่อคุยกับหญิงผู้นี้ว่า เราไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน ขับรถมาจอดหน้ากุฏิหลวงพ่อด้วยตัวเอง กับเป็นครูสอนสมาธิ ได้ มโนมยิทธิฯ หญิงผู้นั้นจึงลุกจากเบื้องหน้าหลวงพ่อ คลานมาเบื้องหน้าเรา ซึ่งพอดีเราทานข้าวเสร็จ จึงหันไปมองเธออย่างเต็มลูกตา เธอยังไม่ทันนั่งได้อย่างเรียบร้อย  จิตเราจับสภาวะจิตของเธอได้ทันที จึงตอบเธอว่า “ สภาวะจิตของเธอยังไม่พร้อมที่จะนั่งสมาธินะ ขาดหลายๆ อย่าง จึงทำให้นั่งไม่ได้เลย ” “ เธอตกใจมาก ตอบกลับมาว่า “ นั่งทุกวันค่ะ ตอนดึกๆ ลุกมานั่งอีกทุกคืน แต่เอ้อๆๆ …. มันนั่งไม่ได้ จิตมันไม่สงบเลย ” “ ก็นี่ไง ที่เราบอกว่า ยังไม่พร้อมที่จะนั่ง ” จึงสอนเธอไปถึงความพร้อมก่อนการนั่ง เริ่มด้วย 1. ความพร้อมของสภาพกายกับ จิต 2. ความเข้าใจ 3. ตัวศรัทธา 4. ความบริสุทธ์แห่งศีล  อย่างที่พระหลวงตา มหาบัวกล่าวไว้ว่า ศีลอบรมสมาธิ สมาธิอบรมปัญญา ปัญญาอบรมจิต ทุกอย่างเป็นฐานที่สำคัญต่อกันและกัน อ่อนตัวไหนใจก็จะสงบไม่ได้  กับตัวศรัทธา ศรัทธาเต็มร้อยหรือเปล่า ศรัทธาอย่างมีแก่นหาสาระหรือเปล่า  เป็นศรัทธาที่เลื่อนลอยหรือเปล่า ความพร้อมของสภาพจิต ใจ และกาย มีชนักอะไรอยู่ในจิตหรือเปล่า เช่น ไปอาฆาตมาดร้าย ผูกพยาบาทอะไรกับใครที่ไหนหรือเปล่า หากยังมีสิ่งเหล่านี้ เป็นชนักปักอยู่ในใจอยู่ อยู่ๆ มานั่งสมาธิ จิตจะไม่มีทางสงบเลย ” หลวงพ่ออธิบาย สอนเธอต่อทันที เรารีบฉวยโอกาสออกไปซุกซนเดินดูรอบๆ วัด ลงไปตรงกุฏิร้างที่อยู่ข้างธารน้ำที่ยังคงอยู่ในสภาพดี ทางลงเป็นป่า มีชาวเขาสองคนกำลังช่วยกันถางหญ้าอยู่ นิชาเลขาเดินตามลงมา สำรวจจนเป็นที่พอใจ จึงกลับไปที่วิหาร จะกราบลาหลวงพ่อกลับ  เมื่อลาท่านแล้ว เรากำลังจะออกรถ ท่านนั่งคุยกับหญิงผู้นั้นต่ออยู่สอนสมาธิเธอ “โยมทิ้งเบอร์โทรฯ ไว้ให้อาตมาด้วย ” ท่านบอกอีกว่า ตรงวัดที่ท่านอยู่นี้ จะมีแค่ สองฤดู คือฤดูหนาว กับฤดูฝน เราผลัดกันขับลงดอยมาจนถึง บ้านบุญรักษาอย่าง ปลอดภัย   อ่านต่อตอน 2

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ