ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 52

บทความนี้มีผลพลอยได้มาจาก บทความเรื่องดีเจ วา เหตุการณ์ผ่านมาหลายปีแล้ว คือตั้งแต่ปี 2012  ช่วงนั้นมีแฟนๆรายการตามหาตัวกันให้ขวักไขว่ เนื่องจากผลของงานที่จะมีคำคมสอนธรรมะเตือนสติ เพลงที่เลือกก็โดนใจแทบทุกเพลง กับนิสัย การพูดจา อารมณ์ กับการใช้ชีวิตส่วนตัว รวมไปถึงบุคลิกท่าทางที่ไม่เหมือนใคร จากบรรดาแฟนๆทั้งหมด ปัจจุบันนี้คัดแล้วและเลือกเก็บไว้เพียงคนเดียว เหลือคนเดียว คือ คุณสไบบาง เธอเปลี่ยนชื่อเป็นสไบศรี เธอเล่าว่า หนูมีร้านตัดผม วันนั้นฝนตกหนัก หนูได้ยินเสียงอาจารย์ทางสถานี เสียงอาจารย์สะกดหนู จึงโทรหาอาจารย์ทันที แล้วเธอนัดพบยอมขับรถฝ่าสายฝนไปพบกันที่รพ.แมคคอมิค จากวันนั้นจนถึงวันนี้  6 ปี เธอยังอยู่ ทุกครั้งที่ผมยาว คุณต่าย หรือสไบศรี จะจัดทรงผมให้เรา อาสาขอตัดให้ฟรีด้วยความศรัทธา แต่เราไม่ยอม แถมทุกครั้งที่ไปตัดผมกับเธอ จะให้ทิปเป็นสองเท่าเสมอ อีกคน ชื่อคุณลี เธอเล่าว่าทุกเช้าเธอจะลุกขึ้นมานั่งสมาธิหน้าหิ้งพระ โดยเปิดฟังบทสวดมนต์จากโทรศัพท์มือ เช้าวันนั้นสถานีที่พระสวดมนต์ประจำ คลื่นขาดหายไป แต่มีสถานีที่เราออกอากาศเข้ามาแทรกแทน ทันทีที่รู้ว่าเราทำนายทายทักดวงให้ฟรีออกอากาศ เธอโทรมาเลยขอพบ เชิญมาที่บ้าน กับเธอนี่แหละที่จะขายบ้านที่เวียงกุมกามให้เราในราคาหนึ่งล้านบาท แต่น้ำมาท่วมให้เห็นเสียก่อน เลยเลิกล้มกันไป แต่ก่อนที่จะหยุดการติดต่อกับลีไปโดยปริยายนั้น ลีได้นำเพื่อนชายคนหนึ่งเข้ามาหา นัยว่าเขามีปัญหามากทุกข์มาก กับกลัวเราจะเก็บค่าดูแพง เราบอกว่าคนนี้คิดให้พิเศษเลย คือจะดูให้ฟรี พอได้ยินคำศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่า ฟรี หน้าเพื่อนชายคนนี้ที่กร้านจากการทำมาหากิน ผสมกับความทุกข์กัดกินจนตาแดงกล่ำ มีรอยยิ้มออกมาทันที เขาชื่อหยวน อายุขณะนั้น 45 ปี “ พี่ช่วยเพื่อนหนูด้วยเขามีความทุกข์มาก ” ทันทีที่หน้านายหยวนค่อยๆโผล่เข้าประตูบ้านเข้ามา เห็นเจ้ากรรมนายเวรตามมาด้วย ท่าทางเจ้ากรรมนายเวร กลัวๆกล้าๆ แต่แอบไปนั่งมุมห้องอย่างสงบเสงี่ยม ก่อนที่นายหยวนจะพูดอะไร เสียงอันดังของเราสร้างความสะดุ้งให้กับคนทั้งสองสุดตัว  “ นายหยวน เอ็ง ไปทำอะไรมา หรือกำลังคิดจะทำอะไรอยู่บอกมา เพราะข้ามองเห็นไฟลุกอยู่บนหัวเอ็ง กับเอ็งเดินไปเดินมาอยู่ในคุก เหมือนหนูติดจั่น โหยหาอิสรภาพ กับถ้าตาแดงกล่ำ มือจับลูกกรง ” ขณะที่เราพูดนายหยวนหน้าซีด ลีหันไปจ้องหน้าเพื่อนชายเขม็ง

“ เออ..เออ..อาจารย์มองเห็นเลยหรือครับ ” “ เอ็งบอกมา เอ็งกำลังคิดจะไปปล้นเขาใช่ไหม? ”

“ เพียงครั้งเดียวครับ ผมขอแค่ครั้งเดียว …. ก็จะเอามาจ่ายค่ารถตุ๊กของผมนี่แหละครับค้างเขาอยู่ 400,000 บาท ” “ นี่ไง …. แค่ครั้งเดียวไม่รอด ถูกจับได้ เสียก่อน ภาพมาปรากฏให้เราเห็น ” “ ผมถูกแต่พี่น้องไถ่เงิน  300 – 400 ก็เอา ให้ผมโอนให้ พวกเขารุมทึ้งผมมานาน จนทำให้ผมต้องเอาเครื่องมือหากินของผม คือรถตุ๊ก ไปจำ ส่งเงินให้พวกเขา ขณะนี้ลูกค้าผมก็ไม่ค่อยมี หนี้สินก็เยอะ ลูกชายผมก็กำลังจะมีหลาน ” “ เวลา นายจอดรถนะช่วงปลอดลูกค้านะ เห็นนายมีหนังสือพิมพ์ วางเต็มรถ อ่านมันเข้าไปเถอะข่าวพวกนั้นมีแต่ทำให้สลดหดหู่ใจ ทำไมไม่เอาหนังสือสวดมนต์ ติดรถเอาไว้ หัดสวดมนต์ให้จิตใจมันสงบเยือกเย็น รู้ไหมอานิสงส์ ของการสวดมนต์เป็นอย่างไร กับหมาที่เคยชนเขาตายน่ะ อุทิศส่วนกุศลให้เราหรือยัง? ” นายหยวน กับเจ้าลีหันไปมองหน้ากันตาเหลือก แล้วหันมาตอบเรา “ มันเป็นอุบัติเหตุครับ ผมไม่ตั้งใจจริงๆ เหล้าผมก็ไม่เคยดื่ม ”  ลีรีบเปิดกระเป๋าหยิบสมุดสวดมนต์ส่งให้เพื่อน “ เอ็งจะสวดหรือไม่ เรื่องของเอ็งนะ เราแนะนำได้เท่านี้ กับเลิกล้มความตั้งใจที่จะไปปล้นเขาซะ เพราะงานนี้เอ็งจะรู้ว่าตายทั้งยืนเป็นอย่างไร กับจะเชื่อเลยว่า นรกมีจริงก่อนที่จะตายไปเจอนรกจริงๆเสียอีก ” “ ไม่แล้วครับ ผมไม่ไปแล้ว ” จากวันนั้นมา เรามักจะเรียกรถตุ๊กของนายหยวนมารับที่บ้านไปสนามบินบ้าง อาเขตบ้าง จึงได้ข่าวจากนายหยวนว่า “ ผมเริ่มติดหนังสือสวดมนต์ในรถ อย่างที่อาจารย์แนะนำ สวดเวลาจอดพักรถ จิตใจสงบดีนะครับ ปล่อยวางได้เยอะเลย กับผมได้หลานชายครับ อายุยังไม่ครบสามเดือนเลย ” …. ใช่ ครั้งหนึ่งในชีวิตของนายหยวนที่เกือบจะหูหนวกตาบอด …. ตัดสินใจก่อกรรมทำเข็ญ โชคดีที่หลานชายเกิดมาทันจังหวะ ให้เขาอยู่ต่อไป และทำมาหากินอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เรื่องนี้เคยเขียนมานานตังชื่อว่า “ เปลี่ยนใจให้เป็นพระ ” สำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่ตามผลงานเราคงพอจะจำกันได้