คืนวันออกพรรษา ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่โพนพิสัย จ.หนองคายพาคณะ 23 คนไปชมบั้งไฟพญานาค ขึ้นให้เห็นประมาณ10 กว่าลูก กลัวรถติดรีบกลับกันก่อน

ละครจากชีวิตจริงเรื่องนี้ ได้สะท้อนให้เห็น ตัวความทุกข์กันอย่างชัดเจน ว่าเวไนยสัตว์นั้น ทุกรูปทุกนามไม่เลือกชั้นวรรณะ เมื่อแม่ทัพกิเลสที่ชื่อว่าตัวทุกข์ ได้เข้ามาเยือนกันแล้ว และสุกงอม เมื่อแสงแห่งปัญญาที่เคยมีอยู่ได้ มืดมนวูบดับหายไป หรืออาจจะไม่เคยมีเคยใช้มาก่อนเลยก็ได้ เพราะแม่ทัพกิเลสตัวที่ชื่อว่าความทุกข์เข้ามาบดบังไว้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแม้กระทั่ง Suicide คือการฆ่าตัวตาย ตราบใดที่ไม่รู้วิธีดับทุกข์ ตราบใดที่ไม่รู้ อริยสัจ 4 อันเป็นคำสั่งสอนของพระตถาคต พระบรมศาสดาผู้ตรัสรู้ แล้วก้าวข้ามห้วงของความพ้นทุกข์ ทำให้เราเห็น ถ้ายังเข้าไม่ถึงคำสั่งสอนของพระบรมครูแล้ว มันเกิดขึ้นได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา และกับทุก สรรพสัตว์ คนผู้นั้นก็จะยัง เวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสารพบกับคำว่า ทุกข์ ทุกชาติเกิดไปแล้วก็ตายทิ้งตายขว้างกันอย่างน่าเสียดายและเสียชาติเกิดอีกครั้งหนึ่ง

เหตุเกิดที่ ซิดนีย์  ตรงกับวันที่ 19 สิงหาคม 2016 เราจะจดบันทึกประจำวันทุกวัน เราเดินทางมาซิดนีย์ เที่ยวนี้ เป็นเที่ยวที่ 6 แล้ว 5 ใน 6 ครั้งมาพักอยู่กับเจ้าหน่อง ( เจ้าชัช )  และเจ้ามั๊งกี้ ซึ่งเป็นแมวของชัช ซึ่งเจ้ามั๊งกี้เป็นแมวที่แปลกพิสดารแตกต่างจากแมวทั่วไป เพราะปกติเราจะเกลียดแมว กับแพ้แมวมาก มาเจอเจ้ามั๊งกี้ เราแพ้มันจริงๆ เพราะมั๊งกี้ชนะใจเราจากการแสนรู้เรียบร้อยไม่มีหมัด ไม่มีกลิ่น สะอาดสะอ้าน เลยอยู่กับมั๊งกี้ได้อย่างสนิทใจ ไม่เคยทำสกปรกในบ้านเวลาเขาจะส้วม เขาจะมาเรียกเรา บางทีชัชก็ลุก บางทีเราก็ลุกไปเปิดประตูให้เขาออก  ชัช กับมั๊งเหมือนแฟมมิลี่ของเรา ทุกทีที่เราจากมา จะคิดถึงพวกเขามาก  เหมือนเขาเป็นลูกหลาน เขาก็เคยพูดว่า พ่อแม่หนูตายหมดแล้ว หนูไม่มีใคร เขาเหลือแต่พี่ๆ ซึ่งแต่ละคน ได้สร้างความเอือมระอาใจให้เขาสุดจะทน  เรากะชัช แอบมีแผนหรือสร้างฝันกันเงียบๆ ด้วยรสนิยมตรงกันหลายๆอย่าง เมื่อเราซื้อที่ที่เชียงใหม่ บ้านบุญรักษา เจ้าชัช ก็แอบย่องมาซื้อที่ๆเชียงดาวไว้แปลงเล็กๆ เมื่อชัช ไปซื้อที่ๆกลางดง โคราชไว้ 6-7 ไร่ เราก็แอบไปซื้อที่ๆจะปฏิบัติธรรมที่โคราชใกล้ๆ ที่ชัชเช่นกัน อายุราชการเรากับชัช เอาจนตายจากกันไปข้าง ว่างั้นเลย

วันนั้น เวลาประมาณ 11 โมงเช้า ชัช อยู่บ้าน เสียงโทรศัพท์ มือถือของเราดังขึ้น ซึ่งการสนทนาทางโทรศัพท์ชัชก็ได้ยินเราเปิดไมต์ เขาคงนัดเข้ามาตรวจดวงชะตา แต่รายนี้มาแปลก เสียงเธอเหมือนคนผิดปกติ แต่เธอบอกมาว่า จะเข้ามาพบเราตอน บ่ายสอง เราไม่คิดรัยมากเพราะเจอมาแล้วแทบทุกรูปทุกแบบ จนเวลาล่วงไป บ่ายสองกว่าๆเธอยังไม่โผล่มา ชัชไม่อยู่ออกไปตลาด  เราจึงอยู่คนเดียว แล้วไม่สนใจที่จะโทรตามหญิงผู้นี้ คิดในใจว่า เราไม่เคยโทรตามใคร ถ้าบุญไม่ถึง ตัวมันก็คงมาไม่ถึงเรา บ่ายสามผ่านไปแล้วเกือบเข้าบ่ายสี่ เราก็นั่งสมาธิ อยู่เงียบๆในห้องนอน เจ้าชัช ยังไม่กลับ จิตกำลังดิ่งเพลิดเพลิน กับ ญาณ สมาบัติ เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้นอีก เธอผู้นั้นเอง จนเราลืมไปแล้วว่าเธอนัดมา เราถามไปว่า “ใช่คนที่โทรมาตอน 11 โมงมั๊ย” “ใช่ค่ะ”  “เอ็งเป็นรัย นี่เอ็งผิดนัดนะ จะสี่โมงเย็นแล้ว” “เออๆๆ หนู ไม่มีแรงจะลุกจากเตียงค่ะ”  เสียงตอบของเธอ ทำให้เราต้อง ตอบเธอกลับไปว่า “เก๊ตละ หนูๆ ฟังให้ดีนะ หนู จงรวบรวมแรงทั้งหมดที่หนูมีอยู่ ออกมาหาเราให้ได้ เดี๋ยวนี้” “ค่ะๆๆ”

เมื่อเธอมาถึง เธอจึงสารภาพไปทั้งน้ำตาว่า หนูกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ได้ไล่ให้สามีออกไปจากบ้านแล้ว กำลังจะหยิบขวดยาทุกชนิดที่มีอยู่แล้วกรอกยาทั้งหมดเข้าปาก ก่อนนาทีสุดท้ายจะมาถึงหนูหยิบโทรศัพท์ มาเปิดหน้าเฟส ซึ่งก็ไม่ทราบว่าอะไรดลจิตดลใจให้หนู กดดูเฟส รูปอาจารย์กำลังเปิดคลาสสอนสมาธิ ขึ้นมาให้เห็นพร้อมเบอร์โทร หนูไม่ทราบด้วยซ้ำว่าจานตรวจดวงชะตาได้ หนูหมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อสู้ต่อไปเลยไม่ได้ทานอาหารมา แล้ว 2 วัน หนูไม่ทราบเอาแรงที่ไหนออกมาหาอาจารย์ได้ รู้แต่ว่าพออาจารย์ บอกให้มาได้  หนูพุ่งจากที่นอนออกมาได้อย่างอัศจรรย์ที่สุด พอเราบอกว่าเราเป็นนักทำนายทายทักด้วยเราจะเช็ค ดวงเธอให้รวมดวงสามีด้วยโดยไม่คิดเงินสักบาท แถมวันหลังจะไปจัด

ฮวงจุ้ยที่ร้านอาหารของเธอให้ฟรีด้วย  เพราะคนเราหนีร้อนมาหาเย็น  สำหรับเราแล้วเงินทองไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง เรามีหน้าที่สร้างคน เราระลึกอยู่เสมอ ท้ายสุดหญิงผู้นี้ได้คำตอบทั้งหมดไม่เท่านั้น คำว่า สิ้นหมดทุกอย่างแล้ว ดั่งแสงสุดท้ายของตะวัน ที่กำลังจะลับขอบฟ้า เธอได้เกิดแรงบัลดาลใจขึ้นมาแทนเมื่อเราได้เล่า เรื่องจากอดีตของใครบางคน ซึ่งเขากำลังจะฆ่าตัวตายทั้งคู่ สามีภรรยา เช่นกันโดยส่ง ลูก สองคนไปอเมริกาให้อยู่กับเพื่อนสนิท แล้วเขาสองคนกำลังจะฆ่าตัวตาย บังเอิญเพื่อนเขาที่อยู่แอลเอ เป็นลูกศิษย์เรา จึงพากันเข้าพบเรา ได้นำเด็กสองคนเข้าพบเรา พร้อม โทรทางไกลกลับไทยให้พ่อแม่เด็กได้คุยกับเราก่อนที่ ทุกอย่างจะสายเกินแก้ จึงหยุดเธอไว้ได้  เพราะตามพื้นดวงสองสามีภรรยาคู่นั้นไม่มีดวง ทำเกษตร ที่เรียกว่า เคนดาราโยค หมายความว่าพวกเขาหมดวาระที่จะทำฟาร์มไก่กันโดยปริยาย  สมัยนั้น มีไข้หวัดนก หวัดไก่ ระบาด ซึ่งนายกที่ดำรงตำแหน่งขณะนั้นสั่งให้คนไปฆ่า ไก่ เป็ด ตามฟาร์มของชาวบ้านนับล้านตัว ทำให้เจ้าของฟาร์มไก่ หลายรายสิ้นเนื้อประดาตัว  อันเกิดจากความผิดพลาด ที่ตอนเริ่มระบาดแรกๆ ไม่รีบจัดการปล่อยให้ลุกลามใหญ่ โตแล้วปิดข่าว  เมื่อสองสามีภรรยา ได้ยินสิ่งที่เราบอก กำลังใจเขากลับมา พอเราบอกเขาว่า ตามพื้นดวงแล้วจะต้องทำเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างหรือก่อสร้าง ปรากฏว่า เขาสารภาพกันออกมาว่า  มีเพื่อนเขา ติดต่องานรับเหมาก่อสร้างเข้ามาแล้ว  ท้ายสุดคนทั้งคู่ รอด โดยเราสรุปเรื่องเขาง่ายๆว่า อะไรที่ดูเหมือนจุดจบ อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตก็ได้ เป็นเพราะคนทั้งคู่ ยึดติดกับสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างมาให้คือฟาร์มไก่  แท้จริงแล้วตามพื้นดวงของเธอต้องรับราชการกับทำเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้าง  เขากำลังสับทางชีวิตมาถูกอาชีพกันแล้ว

เมื่อหญิงผู้นี้ได้ฟังเราเล่าเรื่องนี้ เธอมีอาการดีขึ้นแถมเธอยังตกใจมากเมื่อเราจับได้ว่า เธอเลิกทานเนื้อวัวมากว่า 20 ปี แล้ว เธอเป็นเด็กของพระโพธิ์สัตว์กวนอิม ที่ทรงจัดฉากทั้งหมดเพื่อให้เธอได้เข้าพบเรา เธอตกใจมากสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเธอถูกต้องทั้งหมด เธอเลิกเนื้อวัวนานแล้ว รักและเคารพ พระโพธิสัตว์กวนอิม มานานทีเดียว เรากำชับกับเธอว่า มันเป็นวิกฤตชีวิตที่ทุกคนสักครั้งหนึ่งต้องโดน เธออายุเพิ่งเท่านี้จะมายอมแพ้เอาง่ายๆ เช่นนี้หรือ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ใหม่ของชีวิตเท่านั้น