ในบรรดาศิษย์เราทั้งหมดแล้ว จากอดีตมาถึง ณ ปัจจุบัน นับรายได้ว่าที่ เนรคุณวัดรอยเท้าบ้าง ถึงขนาดทำของปล่อยของมาใส่เราบ้าง มีมาก ซึ่งแต่ละคนต่างมีชีวิตที่บัดซบ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ลุ่มๆ ดอนๆ พบแต่วิบากกรรมอุปสรรคปัญหาเข้ามาในชีวิตทุกวันเหมือนตายทั้งเป็น  ต่างได้ลิ้มรสกับคำว่า นรกมีจริงกันทุกราย แต่ความที่มีทิฐิมานะสูงจึงอย่าหวังที่จะยกพานครูดอกไม้ธูปเทียนมากราบขอขมาเพื่อปลดวิบากนั้น พวกนี้ส่วนมากเป็นบัวใต้ตม ทั้งมิจฉาทิฐิ และทิฐิมานะสูงมาก ในบรรดาศิษย์ที่เนรคุณครูทั้งหมด มีอยู่รายหนึ่งถึงกับถูกเราสาปแช่ง  หมดสภาพจะทำมาหากินเอาขั้นสติวิปริตกันออกไปเลย เคยเล่ามาแล้วในบทก่อนๆ ที่บังอาจมาทำของใส่เด็กคนอื่นๆในคลาส ทั้งๆ ที่ตนเองก็เป็นศิษย์เรามาเกือบ 2 ปี จากความอิจฉาศิษย์คนอื่น ต้องการจะมีอำนาจคุมทั้งชั้นเรียน รวมทั้งรายนี้สะใจมาก คำสาปเราทำเอาชีสลบหมดสภาพ มนต์ต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาเสื่อมหมดและของที่ปล่อยใส่ศิษย์เราอีก 4 คน จากแรงของคำสาปแช่งจากปากอันเต็มไปด้วยวาจาสิทธิ์ของครูบาอาจารย์ ทำให้ของทั้งหมดหลุดกระเด็นออกมาเองโดยอัตโนมัติ ของวิ่งกลับไปทางเดิมพร้อมๆ กัน เล่นเอาชีสลบหัวใจแทบจะหยุดเต้น เพราะนอกจากเราจะสาปแช่งเอาแล้ว เรายังบังอาจถอนวิชาอาคมมนต์ทุกบทที่เธอมีอยู่แล้วเคยใช้ทำร้ายชาวบ้านเป็นเวลานาน หลอกเงินชาวบ้านเสื่อมหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เธอไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ไหนได้อีก กระนั้นเธอยังไม่สำนึกยังมีสภาพตายทั้งเป็นอยู่จนปัจจุบัน ซึ่งเราก็แก้ให้เธอล่วงหน้าเลยว่า เมื่อไหร่เธอได้โกนผมบวชชีตลอดชีวิต ทำหน้าที่ล้างส้วมในวัด กวาดลานวัดได้ทุกวันเมื่อไหร่ ถึงจะได้สติกลับคืนมาเป็นผู้เป็นคนอยู่ได้อย่างสงบจนหมดอายุขัยในชาตินี้ แล้วทันทีที่ตายจะลงอบายภูมิไปเกิดเป็นอสูรต่อ มันเป็นทางเลือกของเธอ

ในจำนวนศิษย์ที่เนรคุณครูทั้งหมดจากในอดีต มีอยู่ 2 ราย จัดพานดอกไม้ธูปเทียนเข้ามาขอขมา เป็นผู้ชายทั้ง 2 คน คนแรกเป็นคนใต้ อยู่หาดใหญ่ เราเคยพบเขาครั้งแรกเขาอายุเพียง 20 ต้นๆ ที่หาดใหญ่ เราได้อบรมสั่งสอน ธรรมมะเขาเบื้องต้นให้เขาหันมาสวดมนต์ไหว้พระ ประพฤติตนเสียใหม่ นอกจากเขาจะไม่ฟังยังลบหลู่แอบด่าเรา พบกับเขาอีกทีตอนเขาอายุ 34 ว่าไปแล้วเขาพบเราทาง FB แล้วทักเข้ามาขอขมา กับส่งเงินมาช่วยทอดผ้าป่าซึ่งเราเป็นเจ้าภาพในครั้งนั้นด้วย งานนี้หลวงปู่ทวด เป็นผู้ไปควานหาเขา ส่งเขาเข้ามาอย่างจงใจที่สุดเพราะ ขณะนั้นเรากำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อออกหนังสือพลิกตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้หลวงปู่อยู่ หาโรงพิมพ์ที่ไหนก็ไม่ถูกใจเพราะมันโหดพอๆ กันหมด  น้องคนนี้เขาเป็นเจ้าของโรงพิมพ์อยู่ที่หาดใหญ่แต่อาการลุ่มๆ ดอนๆ ไม่เกิดสักที สาเหตุเพราะเคยลบหลู่ครูบาอาจารย์เอาไว้ในอดีต เมื่อเขามาทำพิธีขอขมาเขาพูดว่า “ ตลอดเวลาเหล่านั้นจิตใจผมไม่เคยสงบเลย เวลาเข้าสมาธิผมไปต่อไม่ได้ กับอาจารย์เหมือนจะหลอนผมอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาทำอะไรก็ติดขัด …. อันนี้ดูกันเป็นตัวอย่างว่าการเนรคุณต่อครูบาอาจารย์โดยเฉพาะถ้ามีศีลบริสุทธิ์แล้ว วิบากหนักแค่ไหนมันเล่นทั้งทางโลกทำให้ทำมาหากินฝืนเคือง ทางธรรมคือ ภาวนาอย่างไรวิธีไหน เก่งขนาดไหน อย่าหวังว่าจิตจะพบกับคำว่า “ สงบ ”

อีกคนเป็นชายเช่นกัน เหตุการณ์ผ่านไปประมาณ 7 – 8 ปีแล้ว คนนี้ท่าจะสาหัสมาก ตามมาจะเล่าให้ฟัง …. ในปี 2011 เมื่อเราย้ายจากอเมริกากลับเมืองไทย ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อบ้านบุญรักษา ขณะที่นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน 80 ในกรุงเทพฯ ชายหนุ่มคนหนึ่งทำนัดแล้วเข้ามาพบที่บ้าน หน้าตาเขาดีผิวขาวสะอาดสะอ้าน อายุประมาณ 20 – 21 ปี ได้ เพียงแต่เขามีแฟนเพศเดียวกัน เขาศรัทธาเราขนาดขอกราบลงบนตักเราเลย

เขาเล่าว่า “ เมื่อ 7 – 8 ปีมาแล้วขณะนั้นเขาอายุเพียง 11 – 12 เขาไปพบหนังสือเล่มแรกที่เราเขียน อาถรรพ์จันทร์โดดเดี่ยว แม่เขาซื้อมาวางไว้เขาหยิบมาอ่านวางไม่ลง อ่านหลายรอบ 4 บทสุดท้ายเราสอนนั่งสมาธิระบบจักระของพระศิวะ มันโน้มน้าวจิตใจให้เขานำชีวิตเข้าสู่การภาวนา โดยปฏิบัติตามที่เราสอน จากนั้นเขาพยายามควานหาตัวเรารู้ว่าเราอยู่อเมริกา ( ขณะนั้นตรงกับปี 2002 – 2003 ที่เราได้ออกหนังสืออาถรรพ์จันทร์โดดเดี่ยวไป )  เขาจึงรอคอยว่า เมื่อเรากลับมาเขาจะเข้ามากราบให้ได้ ณ  บัดนี้เขาได้มากราบเราแล้ว ขณะนั้นเขาเรียนเกี่ยวกับทำเวปไซต์ ซึ่งเรากำลังหาคนทำเวปไซต์ในเมืองไทย เราจึงตกลงกันให้เขารับงานทำต่อให้เรา พร้อมทั้งคอยอัพเดทเหตุการณ์ในเวปไซต์ของเราด้วย ในวันนั้นเราได้มอบเงินสดล่วงหน้าให้เขาไป 4,000 บาท มันควรจะเป็นไปตามนั้น เขาหายไปประมาณ 4 อาทิตย์ 2 อาทิตย์แรกเขาทำเวปไซต์ให้ตามที่รับคำ พออาทิตย์ที่ 3 – 4 หายเงียบไป พออาทิตย์ที่ 5 เขาติดต่อมาว่า จะไปบวชที่หนองคายกับลุง ลุงให้มาบวช แม่ก็อนุญาติแต่เขาจะคอยอัพเดทเวปไซต์ให้ จะหาเวลาทำให้ เขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างหนักแน่น เราอนุโมทนากับเขา พร้อมยกเงิน 4,000  บาทนั้นไปช่วยงานบวชของเขาแล้วจะส่งเงินไปค่าเวปไซต์

หลังจากเขาสึกออกมาทำต่อ นายคนนี้ หายไปเกือบ 2 เดือน พร้อมทั้งไม่มีการเคลื่อนไหวในเวปไซต์เราเลย เขาโทรมาในอาการร้อนรนว่าเกิดปัญหา ขอให้เราช่วยตรวจดวงชะตาพระอีกรูปหนึ่งในวัดที่เขาบวชอยู่ นัยว่าไปหลงรักกับพระรูปนี้ ได้ทำมิดีมิงามขึ้น เราตกใจมาก วางหูพร้อมตั้งใจตัดขาดเด็กคนนี้ออกไปจากชีวิต ที่ทำแต่เรื่องอัปมงคล นำความเดือดร้อนมาให้เรา จากนั้นเราก็หายจากกันและกันไป งานเวปไซต์ที่เคยมีล่ม จากนั้นมาไม่มีเวปไซต์ของตนเองอีกเลยเพราะนายนี้คนเดียวทำพังจึงไม่คิดจะทำอีก ทั้งๆ ที่ผลงานมากมายเกินกว่าที่นักทำนายทายทัก นักเขียนคนไหนๆ หน้าไหนๆจะมีได้ รวมผลจากการสอนสมาธิปลดปล่อยวิญญาณมันมากมายบรรยายไม่หมด แต่ผลงานทั้งหมดมาปรากฏใน FB แทน กาลเวลาผ่านไปจนเราเกือบจะลืมเขาไปแล้ว ที่ลืมได้ยากเพราะเขาแสบมาก  สร้างความเสียหายให้อย่างมาก พร้อมกับชั่วช้าลามกกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวัด วันนั้นตรงกับวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2019  รวมเวลาประมาณ 7 -8 ปีมาแล้ว จู่ๆ เขาโทรเข้ามา แต่เราไม่ได้รับสาย เลขาเรานิชาวัลย์เป็นคนรับ “ คนชื่อ ฉ. โทร มาค่ะอาจารย์ บอกเดี๋ยวจะโทรมาอีกตอนอาจารย์ว่าง ” เราจำได้ทันที จึงคุยกับเขาเมื่อเขาโทรมาครั้งที่ 2 “ จานครับผมยอมรับว่า ผมต้องรวบรวมความกล้าอย่างมากที่จะโทรหาอาจารย์ ผมอยากพบอาจารย์มากครับ ผมอยากมาขอขมากับอาจารย์ครับ จานอยู่กรุงเทพฯหรือเชียงใหม่ครับ ” เขาจึงนัดเข้ามาหาเราที่บ้านบุญรักษาที่เชียงใหม่ ก่อนวันนัด เขาส่งเงินมาทำบุญ กับชดใช้เรา 9,999 บาท สุดแท้แต่เราจะเอาไปทำอะไร เขาจะขึ้นมาประชุมงานที่จ.ลำปาง เมื่องานประชุมเสร็จเขาจะต่อรถมาพบเราที่เชียงใหม่ ก่อนกลับกรุงเทพฯ เขานัดวันที่ 12 ตุลาคม สายแก่ๆ เขาโทรมาถามว่าเขาอยู่ตรงร้านอาหารปากทางเข้าบ้าน ชื่อร้านหูกวาง เพราะเลขาเราให้ตำแหน่งบ้านบุญรักษาไปบ้างแล้ว ซึ่งมีหลายแยกหลายซอย เราบอกทางเขาให้มาต่อ ซึ่งอีกไม่ถึง 900 เมตรก็ถึงบ้านเราแล้ว ขณะนั้นเราคิดว่า เขาขับรถมาเอง เช่ารถ หรือวานจ้างรถแดงมาส่ง แต่เขาหายไปนานมาก ควรจะถึงบ้านเราแล้วแต่เขาก็ยังมาไม่ถึงซะที  แล้วไม่นานเราได้ยินเสียงเหมือนใครลากกระเป๋ามาตามถนนแล้วมาหยุดอยู่หน้าบ้านท่ามกลางแดดที่ร้อนพอประมาณ นาย ฉ.นั้นเองหอบกระเป๋าเดินทางลากเดินเข้าซอยมา เลขาเราตกใจมากบอก “ น้องทำไมไม่ให้รถที่พาน้องมาคุยกับพี่ พี่จะบอกทางให้อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว ” เฮ้อ นี่แหละกรรมบังตา เขาหอบกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กสุด กระเป๋าทำงาน พานดอกไม้ธูปเทียน พวงมาลัยดอกมะลิ มาทำพิธีขอขมาเรา แล้วสารภาพว่า “ จานครับผมดีใจมาก กับคำอธิษฐานของผมสัมฤทธิ์ผลแล้ว ที่จะต้องมาเจออาจารย์ แล้วทำพิธีขอขมากับอาจารย์ให้ได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกอย่างในชีวิตผมเข้ามาเพียง 50% ”

นี่เป็นเพียง 2 ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การเนรคุณคนโดยเฉพาะครูบาอาจารย์ ยิ่งถ้าครูคนนั้นศีลบริสุทธิ์ การปฏิบัติสูงๆๆ ขึ้น ความวิบัติฉิบหายจะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น อย่าหวังที่จะได้พบกับความสุขความเจริญในทางใดๆ …. นี่แค่เนรคุณครูนะ ถ้าเนรคุณกับพ่อแม่บังเกิดเกล้าด้วยแล้วละก็ พูดได้คำเดียว ตัวใครตัวมัน อย่ามายุ่งกะกู ….อย่าเสนอหน้ามาเป็นศิษย์ข้าเด็ดขาด เพราะกับพ่อแม่มันยังฆ่าได้ทั้งเป็น แล้วกับตูเป็นแค่ครูจะเหลือหรือ !!!