ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 138

คำว่า “ ปาฏิหาริย์ ” จะไม่เกิดขึ้นกับปุถุชนคนธรรมดา จะเกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่ปฏิบัติธรรมจนถึงขั้นหนึ่งแล้วเท่านั้น ดังนั้นคนที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ …อย่าเสียเวลามาอ่าน ไปทำการบ้านกับชะล้างจิตใจตนเองให้ถึงระดับหนึ่งก่อน อย่าให้สายเกินแก้มันจะแก่เกินแกง เกรงว่าจะตายทิ้งตายขว้างไปอีกชาติ

เพราะเขาจะเลือกสถานที่ให้ เขาจะเลือกคัดคนเข้าคลาสให้ เขาจะจัดฉากให้ เขาจะควบคุมนักเรียนทุกคนแม้จะอยู่ในภพภูมิที่มองไม่เห็น ทุกการเคลื่อนไหวในคลาสของเขาจะมีผู้คุม เขาจะแบ่งหน้าที่กัน ทุกคลาสที่เราเปิดจะมีจอทีวีขนาดใหญ่ ถ่ายทอดไปยังนรกภูมิทุกชั้น สวรรค์ทุกชั้น พร้อมมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เด่นเป็นองค์ประธานฟังอยู่ด้วยทุกคลาส เรากล้าพูดด้วยความภาคภูมิใจ ที่สุนัขรับใช้ตัวนี้ไม่เคยทำให้พระองค์ผิดหวัง มันจึงเป็นคลาสเดียวจริงๆ มันเป็นคลาสเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ไม่มีการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะท่านเกลียดเรื่องพุทธพาณิชย์ ธรรมะของพระตถาคตไม่มีราคา ไม่มีการแลกเปลี่ยน ไม่มีการซื้อขาย ไม่ว่าจะอ้างว่า ค่าตำรา ค่าซีดี ค่าอะไรก็ตาม ท่านเคยมาเปรยกับเราเลยว่า เอ็งอย่าได้ทำอย่างนั้นเด็ดขาด หลักการสอนท่านให้เน้นภาค ปฏิบัติ ไม่ใช่ปริยัติ  “ ที่เอ็งสอนทุกอย่างน่ะ มันใช่เลย ท่านไม่ใช่เพียงแต่พอใจ ท่านดีใจภูมิใจ ” หลวงปู่ทวด ท่านแอบมาเล่าให้เราฟัง มันทำให้เราเป็นปลื้ม …. หนูผึ้ง จากหาดใหญ่อีกคนที่โดนดีก่อนมาเข้าคลาสเสียอีก   ชื่อหนูผึ้ง หรือคุณพัชรินทร์ ผึ้ง ได้มีโอกาสมาเข้าคลาสกับเราที่หาดใหญ่ 3 คลาส จากที่ไม่เคยรู้ธรรม ไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยนั่งได้จนถึงขั้นจิตสงบ  จนคุณนงค์ เพื่อนรักของคุณผึ้งพูดว่า ผึ้งมาได้เร็วมาก บัดนี้ ผึ้งโดนใจมาก กับทุกทีที่เราไปเปิดคลาสที่หาดใหญ่ จะมีผึ้งอยู่ในคลาสด้วยเสมอ  ทั้งๆ ที่ผึ้งจะต้องขับรถหลังจากเลิกงาน เพื่อมาเข้าคลาส ไกลถึง 60 กิโลฯ เธอก็มาคลาสทุกวัน พอรู้ว่าเราจะไปเปิดคลาสกางเต็นท์ในป่ามันตรงกับเทศกาล ตรุษจีนที่ปีนี้เขาฉลองกันตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ผึ้งรีบสะสางงาน กับพยายามเข้ามาแอดเฟสบุ๊คเรา อีก 2 อาทิตย์จะเปิดคลาส เราได้บ่นกับนิชาวัลย์เลขาว่า “ ดูดิ เราพยายามหาเจ้าผึ้งในไลน์ เราหาไม่เจอ เราจำว่าเขาทักเรามาแล้วว่า “ ขอสวัสดีค่ะ ” เขาเลือกรูปการ์ตูนมาได้เหมือนรูปเขาเลย นิชาวัลย์ ได้เอาโทรศัพท์เราไปค้นหาผึ้งก็หาไม่เจอ  จึงมาทราบภายหลังว่า ผึ้งได้ไปบ่นกับคุณนงค์ว่า “ ดูจานวาดิ ผึ้งไปเข้าคลาสจานมา 3 คลาส จานยังไม่รับแอด ผึ้ง ” เราได้ให้ข้อมูลต่างๆ เรื่องของใช้ที่จำเป็นที่ต้องใช้ในป่า ในเต็นท์ลงทางเฟสบุ๊คจนละเอียด  ผึ้งเขาอยากรู้ว่า เขาต้องเตรียมอะไรไปบ้าง แต่เขาไม่ใช่คนที่เล่นเฟส ติดเฟส คืนนั้นตอนตีสอง ผึ้งบอกว่า จานวา เดินเข้ามาบอกในห้องว่า “ อ่านรายละเอียดในเฟส ” เช้ามาผึ้งได้โทรบอกคุณนงค์แต่เช้า เรื่องเราไปหา กับเมื่อผึ้งเข้าไปอ่านในเฟสมันเหมือนจานมานั่งคุย ตอบคำถามที่หนูคาใจทุกคำถามหมดเกลี้ยง ( ทั้งๆ ที่เราอยู่เชียงใหม่ เธออยู่หาดใหญ่  อย่างว่าเนอะขนาดพี่เมย์ อยู่นิวยอร์นอนอยู่ใน        โรงพยาบาล เราอยู่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เรายังเดินเข้าไปเยี่ยมที่เมย์ที่นิวยอร์กได้เลย มันทำให้พี่เมย์หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ออกจากร.พ.ที่นอนแช่อยู่บนเตียงมากว่า 30 วัน กลับมาเมืองไทยได้ อ่านได้จากพลิกตำนานหลวงปู่ทวด ครูสอนสมาธิทั่วๆ ไปจะนำไปใช้บ้างก็ไม่หวงห้าม )

สาเหตุที่เปลี่ยนสถานที่จากถ้ำสีนิลมาที่ถ้ำวัดบัวตองเพราะ เจ้าปุ้ม เป็นสาเหตุ เป็นเวลาปีกว่ามาแล้วที่ปุ้มจะพูดถึง “ น้ำพุ 7 สี ที่ถ้ำบัวตอง ” เพราะปุ้ม มีอาชีพขับรถรับส่งแขกต่างชาติ ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ  เมื่อพบเห็นสถานที่ประทับใจจะมาเล่าให้เรากับนิชาฟัง เราได้หาจังหวะเวลาจะไปชมน้ำพุ 7 สี มาหลายเดือนแล้ว  จนเวลาเราทั้ง 3 คน ตรงกัน ด้วยฤกษ์งาม และยามที่ดี

เช้าวันนั้นมันตรงกับต้นเดือนธันวาคม 2019  ถ้าจำไม่ผิด จากบ้านบุญรักษา ขับรถตรงเข้า 4 แยก ตรงกาดรวมโชค เลี้ยวออกแม่โจ้ ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ มีป้ายบอกทางเข้าน้ำพุ 7 สี เป็นวนอุทยานแห่งชาติที่มีตำนาน เราเข้าไปชมน้ำพุ ศาลของ ธิดาบัวแก้ว และบัวตองที่อยู่บริเวณเดียวกัน  เราติดใจในสถานที่มาก ลองพูดติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ ถึงการมากางเต็นท์ค้างแรมปฏิบัติธรรม แต่เขาแนะนำให้ไปที่วัดถ้ำบัวตองแทน ซึ่งเราขับรถผ่านกันมาแล้ว  คณะเราจึงย้อนกลับไปที่วัดถ้ำบัวตอง พบพระอาจารย์ชำนาญ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่พอดี เมื่อดูสถานที่แล้วเราถูกใจมาก จิตมันเกิดปีติขึ้นมาเองเฉยๆ อย่างไร้สาเหตุ  กับเหมือนถูกเชื้อเชิญให้มาปฏิบัติธรรมกันที่นี่เลย เจ้าอาวาสให้ความร่วมมืออย่างมีพิรุธ กับแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่า อยากให้คณะเรามาปฏิบัติธรรมกันที่นี่มากๆ   มาทราบจากท่านภายหลังว่า คณะเราเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกที่จะมาขอปฏิบัติธรรมในวัดด้วยมาดใหม่ที่ไม่เหมือนใคร คือกางเต็นท์ ในป่าท้ายวัด และจะไม่ขอยุ่งกับทางวัดด้านอาหารการกิน หรือเข้า ออกในโรงครัวให้วุ่นวาย จะทานกันมื้อเดียว เอากล้วย เอามันมากินกันเอง ขอใช้เพียงห้องน้ำเท่านั้น   ท่านบอกตั้งแต่ท่านเป็นเจ้าอาวาสมา เราเป็นกลุ่มแรก ท่านจึงค่อนข้างจะประทับใจ กับต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่ ท่านพาคณะเราเดินดูบริเวณ ที่กว้างขวาง มีหน้าผา ด้านทิศเหนือมีเนินดิน ภายใต้เนินดินจิตเรามองเห็น สถูปเก่า วัดวาอารามบ้านช่องใต้พื้นดิน มันเป็นเมืองโบราณที่มีชาวเมืองตายอยู่มากมาย  อ้าว …. ทีนี้รู้สาเหตุแล้ว ทำไมอยากให้มาที่นี่  เจ้าอาวาสเล่าว่า “ ที่นี่แรงนะโยม พระเจ้าอาวาส ที่มาอยู่ที่นี่ ไม่มีใครอยู่ได้เกิน 3 เดือน แต่อาตมาอยู่มา 2 ปีแล้ว วัดนี้เป็นสาขาของวัดพระธาตุจอมทอง ”  ตำนานของธิดาบัวแก้ว บัวตอง มีเขียนไว้ตรงน้ำพุ 7 สี ซึ่งไม่ไกล จากที่ตรงนี้มากนัก ประมาณ 1 กิโลฯ เห็นจะได้ บริเวณวัดในเนื้อที่เกือบ 40 ไร่ มีต้นกล้วย ต้นลำไย ไม้ใหญ่นาๆ ชนิด  เจ้าอาวาสพาเดินมาดูบ่อน้ำเล็กๆ  พูดว่า “ เจ้าอาวาสคนก่อนจะให้ขุดบ่อน้ำในบริเวณวัด แต่ขุดไปแล้วเจอสมบัติเครื่องใช้ของชาวเมือง คนขุดแย่งสมบัติกัน เจ้าอาวาสเลยปิดประตูวัดห้ามไม่ให้มีการขุดอีก ” “ พอดีอาตมาได้ให้รถเกรดมาไถดินในวัดพอดี โยมอยากกางเต็นท์ตรงไหนชี้มาเลย อาตมาจะให้รถเกลี่ยหน้าดินเตรียมไว้ให้ คณะโยมจะมากันกี่คนล่ะ ” “ 15 คน พระคุณเจ้า โยมอยากร่วมทำบุญกับวัด ” “ ได้โยม ทำเป็นแบบรูปผ้าป่า คนละ 20 – 30 บาทก็ได้ ” “ โยมมา 15 คนๆ ละ 100 บาท ก็เท่ากับ 1,500 บาท ” “โอโฮ มากมายเกินไป ” ท่านเจ้าอาวาสอุทาน สรุปยอดผ้าป่าออกมาได้ประมาณ 35,000 บาท ซึ่งเราจะแบ่งครึ่งหนึ่งไปวัดต้นเลียบของหลวงปู่ทวด ทางภาคใต้ จากนั้นเจ้าอาวาสได้ขอตัวไปดูงานเกรดดิน เรา 3 คน ไปชมถ้ำบัวตองซึ่งเดินขึ้นบันไดสูงกว่า 200 ขั้น นอกปากถ้ำมี หุ่นของ 2 พระธิดา ซึ่งใส่ชุดผ้าซิ่นสะไบอย่างคนสมัยเก่า ยืนกางร่มกันอยู่ปากทางเข้าถ้ำในถ้ำกว้างขวางพอที่จะกางเต็นท์ได้ 60 – 80 เต็นท์ ได้สบายๆ เพียงแต่มีกลิ่นมูลค้างคาว กับเห็นตัวค้างคาวพากันห้อยหัวอยู่บนเพดานถ้ำมากมาย จึงไม่เหมาะที่จะมาพักอาศัยหลับนอน  จากนั้นเราจึงพากันเดินทางกลับ

ตำนานของถ้ำบัวตองมีที่มา สุสานพวกเขาอยู่ในบริเวณวัด  วัดถ้ำบัวตองจึงค่อนข้างแรง พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเท่านั้นจึงจะอยู่ได้   ในอดีตเมืองสองเมืองของกษัตริย์ เกิดบาดหมางทะเลาะกัน ได้เข่นฆ่าเจ้าเมืองอีกเมืองหนึ่งลงคือ  ศรีสุเทพ กับแม่นาง สุวรรณเทวี  สองสามีภรรยา ผู้เป็น พระบิดา มารดาของ บัวแก้วกับบัวตอง ก่อนตายได้ให้ขุนศึกผู้ภักดี ชื่อขุนผาดำ พาพระธิดาบัวแก้ว บัว ตองหนีไปกับนางสนมกำนัล พี่เลี้ยง ชาวบ้านชาวเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดหนีไปพบถ้ำบัวตอง จึงเข้าไปหลบซ่อน แล้วใช้พำนักอาศัยกัน  เพราะบริเวณนั้นไม่มีบ่อน้ำให้ใช้อาบใช้ดื่มกันเลย  สองพระธิดา จึงอธิษฐานจิต กับเทพไท้เทวา รุกขเทวดา ขอให้บังเกิดมีบ่อน้ำให้ใช้กันด้วยเทอญ บริเวณนั้นมีขุนเขาอยู่ 7 แห่ง รุกขเทวดาจึงประทานให้เกิดตาน้ำไหลมาจากขุนเขา ผุดขึ้นในบริเวณถ้ำบัวตอง คือตรงบริเวณที่เป็นน้ำพุ 7 สี ในอดีต ป่ายังอุดมสมบูรณ์  มีน้ำหลากมาก  บ่อน้ำแห่งนี้จึงมีน้ำพุธรรมชาติผุดขึ้นมาค่อนข้างสูง กับเวลาที่พระอาทิตย์มาตรงกลางบ่อ คือเวลาเที่ยงวัน  น้ำพุนี้จะมีประกาย เป็นสีรุ้ง 7 สี งดงามมาก แต่ในปัจจุบันน้ำพุไม่มีแล้ว เพราะมนุษย์พากันตัดไม้ทำลายป่า น้ำแห้ง จึงเหลือเพียงบ่อน้ำเท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำแร่ที่ศักดิ์สิทธิ์ กับเป็นน้ำเย็นไม่ใช่น้ำร้อน   พระธิดาบัวแก้วกับพระธิดาบัวตอง และชาวเมืองยังคงติดกันอยู่ที่นั่น  แล้วรอคอยการมาของเรา รอมานาน เพราะรู้ว่าเราไปปลดชาวเมืองปารวดี ศรีอมร ที่ถ้ำเชียงดาวมาแล้ว  จึงดลจิตดลใจเราให้มาเปิดคลาสที่นี่ …. หากไม่ใช่เรา พระธิดาพร้อมชาวเมืองก็จะไม่ไป คนที่จะปลดหรือส่งท่านได้ ต้องมีทั้งบุญฤทธิ์ และบารมีเต็มแล้วจริงๆ เท่านั้น บางคนอ่านถึงตรงนี้แล้ว คิดว่า จานวา อวดศักดา คุยเว่อร์  …. ก็มันมีดีจะคุยเนอะ จึงคุยได้ เพราะผลงานมันมีให้คุย กับมันมีแต่ขึ้นทำอะไรก็สำเร็จนี่ ของเราเป็นประเภทคุยได้ แล้วทำได้ กับทำมาแล้วถึงเอามาคุยนะ …. บางทีคุยก่อนแล้วถึงจะทำ แล้วก็ทำได้อย่างคุยซะด้วย อย่างไหนได้หมด …. มิฉะนั้น ดวงมันคงไม่มีแต่ขึ้นๆๆๆๆ หรอก ทำอะไรก็สำเร็จ …. จริงไหม เอาเป็นว่าพอออกจากคลาสนี้มาได้ …. เด็กคนหนึ่งยกที่ 2 ไร่ที่ลำพูน พร้อมโฉนดครุฑแดงให้ ที่อยู่กลางหุบเขา ด้านหลังติดเชิงเขา จะมีฝูงนกยูงลงมาหากินจากเขาทุกเช้า  กับอีกคนซึ่งเป็นแม่ ของเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในคลาสกางเต็นท์ที่ถ้ำบัวตองนี้ด้วย เด็กเป็นพยานสายตารู้เห็นได้ยินทุกอย่างใน 5 วัน 5 คืน เด็กเล่าให้แม่ฟัง แม่ได้ยกบ้านที่ยอดดอยให้เรา อยากให้เราไปเปิดคลาส ซึ่งมีบ้านพร้อมโฉนด ยกให้เลย เพราะพี่แกมีหลายที่จนดูแลไม่ไหว  กางเต็นท์คลาสหน้าโอกาสสูงมากที่จะมาที่ยอดดอยแห่งนี้ในหน้าร้อน เพราะอากาศสบายตลอดปี แต่ไม่เอาทั้ง 2 ที่เพราะไม่ยึด ไม่เอาอะไรแล้ว วางหมดแล้ว แค่ไปใช้สถานที่เป็นครั้งเป็นคราวพอ

มันเป็นคลาสที่แสดงธรรมรอบกองไฟ ที่ทุกคนจะลืมไม่ได้ชั่วชีวิต เมื่อผู้ที่มาฟังธรรมกันนั้นที่อยู่ในต่างภพต่างภูมิมืดฟ้ามัวดิน เบียดเสียดกันเข้ามาจนติดหลังนักเรียนคนหนึ่งต้องฟ้องเราว่า “ จาน หลังหนูร้อนไปหมด ไหล่ หลังแข้งขาปวดเมื่อยไปหมด เขามากันมาก ” ทั้งๆ ที่อากาศหนาวจนทุกคนต้องใส่เสื้อหนาว แล้วก่อไฟให้สว่างโชติช่วงตลอดเวลา เราต้องพูดขึ้นว่า “ ถอยออกไปนะ ไปนั่งฟังกันอย่างมีระเบียบ เด็กของข้าเขาเป็นผู้มีศีล เดี๋ยวจะเป็นบาปเป็นกรรมต่อกัน ฟังธรรมกันไม่รู้เรื่องนะ ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฟังนะ มาได้ พากันมาเยอะๆ ธรรมมะ ของพระตถาคตของแท้ๆ หาฟังกันยาก แต่ขอให้ถอยไปห่างๆ มีระเบียบกันหน่อย ” จบคำพูดเราหันไปถามเด็กว่าอาการทั้งหมดหายหรือยัง “ หายแล้วค่ะ ” จิ๊ปๆ สำหรับจานวา ครูสอนสมาธิคนอื่นจะนำไปใช้กันบ้างก็ไม่ว่ากันนะ …. แต่ถ้าเปิดคลาสไม่มีนักเรียนในคลาสคนไหน บ่นอึดอัด ร้อน เหมือนคนเต็มห้องมาแย่งพื้นที่กันฟัง ก็แสดงว่า คลาสนั้นไม่มีค่า ไม่มีคุณภาพเพียงพอที่ภพภูมิอื่นจะมาเสียเวลาฟัง หมายถึงคลาสนั้นไม่ใช่ธรรมมะของพระตถาคต  สอนผิดๆ ถูกๆ หนักไปทางพุทธพาณิชย์ สังเกตไม่ยาก ตอนเราไปเปิดคลาสที่แอลเอ พวกจิตวิญญาณมาเบียดกันในห้องหลังห้องเต็มไปหมด เด็กนักเรียนที่นั่งหลังห้องบ่นกัน เราต้องเชิญเขาออกไปนอกห้อง ไปนั่งฟังกันอย่างมีระเบียบ แม้เสียงเราจะเบาแค่ไหน พวกเขาก็ได้ยิน ห้องจึงสงบเย็นลงได้ …

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ