ลองสำรวจรอบๆ ตนเองเพื่อมองหาคนในวงสังคมของคุณสักคนหนึ่ง ว่ามีใครบ้างที่มีลักษณะดังนี้
1. เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ขายชาติขายแผ่นดิน
2. เป็นพุทธสาวกที่ดีของพระพุทธศาสนา
3. เป็นไพร่ฟ้าที่รู้คุณต่อสถาบัน
4. เป็นลูกที่ดีต่อบิดามารดา
5. เป็นเพื่อนที่ดีต่อมิตรสหาย
6. มีความกตัญญูรู้คุณครู และคนทั่วไป
ซึ่งเรียกว่า ดี 6 คนที่มีคุณสมบัติครบ 6 ข้อข้างบนจะมีผลพลอยได้ตามมาอีก 6 ข้อดังนี้
1. มีประโยชน์
2. ทำสำเร็จ
3. ไปสะดวก
4. กตัญญูรู้คุณคน
5. อยู่สบาย
6. ตายสงบ

เมื่อรู้ดังนี้แล้วเราจะสังเกตได้ไม่ยากว่า คนที่เข้ากฎกติกาดังกล่าว จะต้องผ่านกฎใน 6 ข้อแรก ให้ได้ก่อน จึงจะได้ผลอีก 6 ข้อหลังตามมา มันจะมาเองโดยอัตโนมัติ
⦁ ข้อแรกนั้นหมายถึงคนๆ นั้นเขาจะอยู่อย่างมีคุณภาพ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมทางใดทางหนึ่ง
⦁ ข้อสอง ไม่ว่ากิจการงานใดๆ ที่ว่ายากหนักหนาสาหัส คนทั่วๆ ไป ทิ้งกันแล้วทำไม่ไหว แต่คนๆ นั้นกลับทำสำเร็จอย่างง่ายดาย
⦁ ไปสะดวก ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเดินทางไปเหนือล่องใต้ ทางรถ ทางเรือ ทางเครื่องบิน เขาจะไปได้อย่างสะดวกโยธินปราศจากอุปสรรคปัญหาใดๆ ราวกับมีสิ่งใด หรือใครคอยปกป้องดูแลกันอย่างขมีขมัน
⦁ คนๆ นั้นจะมีความกตัญญูรู้คุณคน จะตอบแทนคุณคนทุกคน แม้ว่าคนๆ นั้นจะมีฐานะต่ำกว่า ซึ่งคนทั่วๆ ไปมักมองข้าม
⦁ อยู่สบาย ไม่ว่าเขาคนนั้นจะไปพักพิงอยู่แห่งหนตำบลไหน เขาจะอยู่ได้อย่างสบาย ไม่ว่าสถานที่จะจอแจ อัตคัดกันดาร ร้อนหรือหนาวเพียงไร เขาย่อมอยู่ได้อย่างสบาย ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ นั่นคือวิถีชีวิต ที่เราใช้อยู่ในทุกวันถึง 5 ข้อที่เห็นได้อย่างเด่นชัด อยู่อย่างมีประโยชน์ต่อสังคม ด้วยการสร้างคน ช่วยคน เปิดคลาสสมาธิ จนนักเรียนบางคนได้ เจโตวิมุตติ บ้างได้หูทิพย์ ตาทิพย์
ข้อทำสำเร็จไม่ว่าเราจะเปิดคลาสกี่คลาส ไม่ว่าที่อเมริกา ออสเตรเลีย เมืองไทย ในหลายจังหวัดจนถึงสกลนคร หาดใหญ่ ทุกคลาสราบรื่น การเดินทางราบรื่น

ที่น่าประหลาดใจที่สุด คือเวลาจะบอกบุญใหญ่ใดๆ กับลูกศิษย์ลูกหา เช่นตอนจะไปเปิดคลาสที่ถ้ำสีนิล เราได้โพสต์ลงหน้าเฟส ว่าเราจะไปทอดผ้าป่าที่วัดถ้ำสีนิล ที่แม่แตง ซึ่งจัดเป็นการบอกบุญกับญาติโยมครั้งแรก ใช้เวลาแค่ 5 วันยอดขึ้นมาถึง 50,000 บาท การทอดผ้าป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตของเรา ที่เราเป็นเจ้าภาพ เราทำยอดได้ เกือบ 2 แสน รวมกับญาติโยมที่มาช่วยงานทอดผ้าป่าที่วัดนั้นด้วย มันเป็นวัดเล็กๆ อยู่บนเขาในป่าติดเขื่อนกั้นน้ำ อันเป็นสถานที่ที่เราเคยพาลูกศิษย์ไปกางเตนท์ปฏิบัติธรรมที่นั่นมาก่อน แล้วลั่นวาจาไว้ว่าปลายปี จะนำเงินมาบริจาคทางวัด หนึ่งแสนบาท แต่มีคนแนะทำให้ทำผ้าป่ากองเล็ก ยอดออกมาทั้งหมด ประมาณ 190,000 บาท
สำเร็จอย่างเหลือเชื่อ แล้วได้บุญกัน 2 เด้ง คือ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หลวงพ่อเปลี่ยนแห่งวัดอรัญญวิเวก ได้มรณะภาพทางวัดยังเก็บสรีระร่างกายท่านไว้ 100 วัน เพื่อทำการซ่อมพระเมรุของวัดให้เสร็จก่อน มีพระจากวัดอรัญญวิเวกได้เดินทางมาร่วมงานทอดผ้าป่าที่วัดถ้ำสีนิลนั้นด้วย พระที่เดินทางมา ได้ขอแบ่งปัจจัยจากกองผ้าป่าที่เราเป็นเจ้าภาพ 190,000 บาทนั้นออก 50,000 บาท เพื่อนำไปซ่อมพระเมรุที่วัดอรัญญวิเวก เพื่อเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อเปลี่ยน ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงราบรื่น ทุกคนมีอาการอิ่มบุญ อันจัดเป็นงานแรก

งานที่ 2 ในปีถัดมา เรามีกำหนดพาลูกศิษย์ไปกางเตนท์ปฏิบัติธรรม แบบกางเตนท์รอบกองไฟกันที่วัดถ้ำบัวตอง เจ้าอาวาสชื่อหลวงพี่อำนาจ ท่านอนุโมทนาบุญพร้อมทั้งแนะนำให้ทำผ้าป่ากองน้อย ทางวัดกำลังจะตัดถนนเข้าวัดทางป่า ถางที่ทางแถวท้ายวัด ท่านแนะนำว่า คนละ 100 บาท ท่านก็พอใจแล้ว คลาสกางเตนท์ที่วัดถ้ำบัวตองนี้เราหวังเอานักเรียนแค่ 15 คนเท่านั้น หมายถึง กองผ้าป่ากองน้อย จะมีเงินเพียง 1,500 บาท เรามีเวลาเหลือเพียงไม่กี่วันก่อนเปิดคลาส เราโพสต์บอกบุญกับลูกศิษย์ลูกหาทางหน้าเฟส ได้ยอดรวมออกมา 37,000 บาท เราประกาศว่าจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไปตัดถนนท้ายวัดปรับพื้นที่ของวัดถ้ำบัวตองของหลวงพี่อำนาจ ท่านขาดปัจจัยอยู่ อีกส่วน ลูกศิษย์ลูกหาทางหาดใหญ่ กำลังทอดผ้าป่าที่วัดต้นเลียบ ฉลองครบ 487 ปี (หากจำไม่ผิด)อีกส่วนประมาณ 17,000 จะแบ่งไปร่วมผ้าป่ากับศิษย์ทางใต้ รวมทั้งคลาสกางเตนท์แสดงธรรมรอบกองไฟ ก่อกองไฟกันทุกคืนอากาศหนาว สิบกว่าองศาเกือบทุกคืน คลาสนั้นเราได้บุญใหญ่ได้ปลดปล่อยวิญญาณ คนโบราณ นักรบ ที่ติดอยู่แถวนั้นจำนานมาก รวมทั้งวิญญาณของธิดาบัวแก้วบัวตองที่รอผู้มีบุญญาธิการมาปลด คลาสนั้นทำให้บารมีของเราเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ เมื่อคลาสถ้ำบัวตองปิด เรามีเวลาประมาณเดือนกว่า ก่อนจะเดินทางไปเปิดคลาส 2 คลาสที่หาดใหญ่ กับงานทอดผ้าป่าที่วัดต้นเลียบของหลวงปู่ทวด ส่วนเงินผ้าป่าที่นำไปถวายเจ้าอาวาสที่วัดถ้ำบัวตอง 15,000 นั้น จำนวนมันมากเกินที่ท่านคาดหวังเอาไว้ท่านจึงยินดีพอใจมาก กับขอให้เรากลับไปเปิดคลาสที่วัดของท่านอีก รวมทั้งเด็กทุกคนที่ไปคลาสนั้นต่างประทับใจกันไม่รู้ลืม เพราะพวกเขาไม่เคยได้สัมผัสกับการนอนในเตนท์กลางป่ากันมาก่อน มันจัดเป็นประสบการณ์เพียงครั้งเดียวในชีวิตที่พวกเขาต้องจดจำกันจนวันตาย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เราได้เขียนลงไปหมดแล้ว
เมื่อถึงเวลาเดินทางไปหาดใหญ่ เพื่อร่วมทอดผ้าป่ากับเปิดคลาส ลูกศิษย์ลูกหาจากทั้งทางอเมริกา ออสเตรเลีย จากทุกมลรัฐในอเมริกา ในออสเตรเลีย และเมืองไทยร่วมด้วยช่วยกัน จากยอด 17,000 บาทที่เหลือจากวัดถ้ำบัวตอง เพิ่มเป็น 70,000 กว่าๆ ไปรวมกับเจ้าภาพทางหาดใหญ่ ชาวหาดใหญ่ เทลงขันกันมา ผ้าป่ากองนั้นออกมา เบ็ดเสร็จ 700,000 บาท (เจ็ดแสนกว่าบาท) อย่างอัศจรรย์ การเปิดคลาส 2 คลาสลุล่วงไปได้ด้วยดี มันเป็นบุญใหญ่หรืออริยทรัพย์ ที่เราสะสมเพื่อติดตัวไปใช้ในภพภูมิหน้า

งานบุญใหญ่อีกหนึ่งงานที่เราท้อที่จะทำ จวนเจจะถอนใจ แต่จินตนาการที่ผุดขึ้นมามันชัดมากว่าจะลุล่วง แต่แล้วก็จบลงด้วยคำว่า เป็นไปไม่ได้ ซึ่งหลวงปู่ทวดท่านมาทวง ไม่ยอมให้ถอนตัวหรือถอดใจ คือพิมพ์หนังสือพลิกตำนานหลวงปู่ทวดให้หลวงปู่ “ มันเป็นสัจจะวาจาของเจ้า ” ใช่เราเคยรับปากกับหลวงปู่ไว้ กับกราบอาราธนา ขอร้องให้หลวงปู่ทวดเล่าเหตุการณ์ระหว่างหลวงปู่กับสามเณร เหตุการณ์ต่อจากนั้น เกิดอะไรขึ้น หลวงปู่อุตส่าห์เล่าให้ฟังอย่างละเอียด ให้เราจด แล้วยอมให้เรานำมาเปิดเผย แม้กระนั้นเราไม่ยอมทำ จวบจนเวลาผ่านมาเกือบ 2 ปี ซึ่งเราอ้างกับหลวงปู่อย่างง่ายๆ ว่า “ หาโรงพิมพ์ไม่ได้ เพราะเจ้าของโรงพิมพ์ส่วนมากงี่เง่า ” หลวงปู่ทรงเมตตาบอกว่า “ รอก่อนเดี๋ยวข้าหาให้ ” พอหลวงปู่หาโรงพิมพ์ให้ได้ เรายึกยักอีก “ หลวงปู่ โยมจะทำให้หลวงปู่ทั้งที จะทำให้อย่างดีที่สุด แต่ปัจจัยที่มีอยู่มันไม่พอ ” “อย่าหวงเรื่องปัจจัย อย่ายุ่งเรื่องปัจจัย เดี๋ยวข้าหาเอง ” ท่านเมตตาผ่านมาทางคุณเล็กจากแอตตแลนตา จอร์เจีย เริ่มด้วยการหาโรงพิมพ์ให้ ยังเมตตาหาปัจจัยในการพิมพ์ รวมจัดการจัดจำหน่าย โดยก่อนพิมพ์เราโพสต์บอกบุญทางหน้าเฟสอีก เพราะมีเงินทุนอยู่กว่าแสนบาทแล้ว เป็นเงินที่ลูกศิษย์ลูกหาช่วยมาในการจะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม แต่เพราะหลวงปู่มั่นมาบอกให้ยกเลิก โดยให้ใช้บ้านบุญรักษาเป็นที่ปฏิบัติธรรมแทน เราเห็นด้วยกับหลวงปู่มั่นทันที จึงนำเงินก้อนนี้มาใช้พิมพ์หนังสือให้หลวงปู่ทวดแทน เมื่อลูกศิษย์ลูกหาทราบเรื่อง ต่างร่วมด้วยช่วยกันมาจากทุกสารทิศ ยอดพิมพ์หนังสือทั้งหมดออกมา กว่า 4 แสนบาท เสียค่าพิมพ์ไปแค่ 210,000 บาท เงินที่เหลื เราจึงนำมาพิมพ์หนังสืออีกเล่ม คือจาก 0 สู่ ดับ 0 แล้วนำไปแจกตามวัดวา สำนักปฏิบัติ เมื่อหนังสือพิมพ์เสร็จได้นำชุดแรกไปถวายให้หลวงปู่ที่หาดใหญ่ ถึงวัดต้นเลียบ เป็นที่พอใจของหลวงปู่อย่างยิ่ง จากนั้นได้ส่งไปแจกจ่ายกับบรรดาสานุศิษย์ที่ร่วมสมทบทุนก่อนเป็นอันดับต่อไป แล้วแจกจ่ายตามวัด จนสาสมแก่ใจ ก่อนพิมพ์หนังสือแม้ว่าหลวงปู่ ได้หาโรงพิมพ์ให้แล้ว หาปัจจัยให้แล้ว เรายังหวั่นว่าจะเป็นการต้านกระแส จะไม่มีคนเชื่อถือ หลวงปู่ทวดจับความคิดเราได้ ได้เมตตาผ่านลงมาบอกด้วยซุ่มเสียงของท่านเองโดยผ่านศิษย์ผู้หนึ่ง เราจึงเกิดความมั่นใจ พอตัดสินใจพิมพ์โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ

จากนั้นไม่นานจึงนำหนังสือพ์มาจัดจำหน่าย หลังจากที่แจกจ่ายลูกศิษย์ที่ร่วมบุญพิมพ์หนังสือมา ไม่เข้าใจว่างานนี้ไม่ได้เข้าเนื้อเลยสักบาทเดียว ยังเหลือหนังสืออีกมาก เราจึงจัดการส่งไปบริจาคกับทางเรือนจำทั่วประเทศให้ไปดับทุกข์ปลดร้อนให้บรรดานักโทษชายหญิงในทัณฑสถานทั่วประเทศ 95 แห่ง มันเป็นบุญใหญ่มาก และโดนใจลูกศิษย์ทั่วสารทิศ เราลงโพสต์เพื่อบอกบุญค่าส่งหนังสือไปตามเรือนจำทั้ง 95 แห่งทั่วประเทศ ค่าส่งชุดละ 50 บาท เพราะหนังสือมีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม ชุดหนึ่งมี 5 เล่ม 95 ชุด ตกเป็นเงินประมาณ 4,750 บาท ส่วนหนังสือ เราเป็นผู้ขอบริจาค ต้องการแต่ค่าส่งเท่านั้น แค่ลูกศิษย์คนแรกที่อยู่แอลเอ เขารู้กันเท่านั้น เขากับพี่น้อง 3 คนขอเป็นเจ้าภาพออกค่าส่งหมดทั้ง 95 ชุดเลย แล้วส่งเงินมาประเดิม ให้ 300 $ เรางง นี่ไม่เหลือให้ศิษย์คนอื่นได้ร่วมบุญเลย ก็ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือดีใจ พอคนอื่นๆ รู้ เขาขอเป็นเจ้าภาพหนังสือคนละชุดแทน ตกมาชุดละ 1,500 บาท หนังสือ 74 ชุดมีเจ้าภาพรับซื้อ เหลือ 21 ชุดให้เราเป็นผู้บริจาค เงินปัจจัยจากการบอกบุญ ทำบุญใหญ่ครั้งนั้น 107,000 บาท หักค่าส่งออกไป 95 ชุด 4,750 บาท เราได้เงินคืนมาอันจัดเป็นกำไรอย่างไม่ตั้งใจหรือเจตนา มานั่งงงๆ กับชีวิตอยู่ ทีนี้เอาใหม่ จะส่งหนังสือพลิกตำนานหลวงปู่ทวดเข้าห้องหนังสือประจำจังหวัดเพื่อให้ผู้ที่สนใจจะเสาะหาประวัติหลวงปู่ทวดได้ศึกษากัน ครั้งนี้ มีห้องสมุด 75 แห่ง ทั่วประเทศ ครั้งนี้เราไม่บอกบุญ จัดส่งเองกับเลขา 2 คน จัดส่งไปแล้ว 55 ชุด 55 แห่ง เหลืออีก 20 แห่งขอเวลาเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จแล้วจะจัดการให้หลวงปู่ ทุกอย่างสำเร็จราบรื่นอย่างมหัศจรรย์ที่สุด อย่างยากที่จะเข้าใจ