2 บทหลังนี้ หนีวิกฤตหมอกควันที่เชียงใหม่มานั่งทำงานที่พัทยา ซึ่งตามปกติช่วงนี้ของปีหากเราไม่อยู่บ้านที่กรุงเทพฯก็มักออกนอกประเทศไปเลย ปีนี้มีการผิดพลาดบางประการรวมทั้งบ้านที่กรุงเทพฯได้ขายไปแล้วเพื่อตัดภาระความรับผิดชอบที่แบกอยู่คนเดียวทั้งดูแล ทั้งค่าบิล ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นบ้านของตนเองเลย ขายทิ้งซะเลย โดยให้เจ้าเบนหลายชายเซ็นขายไปซะ เอาเงินมาแบ่งกันดีกว่า เลยเอวังลงด้วยประการฉะนี้ ไม่ต้องขับรถไปกลับกรุงเทพฯเชียงใหม่ เชียงใหม่กรุงเทพฯอีกต่อไป ที่ผ่านมา  8 ปี กับสีหมอกรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้โดยไม่มีอุบัติเหตุ นับว่าบุญกะลาหัวเพียงไหนแล้ว

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกี่ยวกับพลังจิตที่ตนเองประสบมา จะนำมาเล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์ที่ได้ฝึกจิตตนเองมาหลายสิบปี โดยเฉพาะช่วงที่ต้องทำการสื่อกับเบื้องบน ผู้ที่ปฏิบัติจนถึงขั้นสามารถรับข่าวสารใดๆ หรือส่งข่าวสารถึงท่านใดที่เราต้องการติดต่อสอบถามปัญหาใดๆได้นั้น มีขั้นตอน  ข้อแรกต้องรู้ว่าพลังจิตของผู้นั้น มีพลังให้สัมผัสกันได้ แม้จะไม่ออกมาในรูปของการเคลื่อนย้าย ยกวัตถุ อย่างนักมายากลได้ก็ตาม  แต่สามารถส่งพลังความร้อน ส่งกระแสความเมตตาให้กับนักเรียนในชั้น สามารถส่งโทรจิตติดต่อคนที่อยู่ไกลๆให้ติดต่อกลับมาได้ภายใน 3 วัน  โดยที่หายสาบสูญไปจากกันในเวลานับปี  รวมทั้งสามารถเอาจิตของเราเข้าไปขุดคุ้ยหา สภาวะจิตของนักเรียนในคลาสได้ว่า สงบหรือฟุ้งอย่างไร รวมทั้งต้องส่งพลังชาร์จแบตเติมพลังให้ศิษย์ทุกคนในชั้นเรียน เราผ่านมาแล้วทั้งหมด ว่าทำได้หมด แต่ที่นักสอนสมาธิ หรือครูสอนสมาธิทุกคนไม่สามารถจะทำได้คือสะกดวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรของนักเรียนทุกคนในคลาส ให้มาฟังธรรมกันอย่างสงบแล้วเรียกออกมาขอขมากรรมกัน แล้วให้วิญญาณเหล่านี้สมาทานศีล 5 ส่งเขาไปสู่ภพภูมิที่สูงกว่าตามสภาวะจิตเขาที่ได้มาฟังธรรมกับเรา ทำมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่รวมที่ปลดวิญญาณของบรรพชนอินเดียนแดงที่   Dallas, Palm Spring และ  L.A. มานับแสน  ตอนปลดวิญญาณ ที่ Palm Spring นั้นหัวหน้าเผ่าเขามาบอกผ่านทางคุณก้อยไตรยา ว่าหลายคนนะ เราบอก ห้าหมื่นใช่ไหม  ใช่ ร้อนมากที่นี่อยู่ไม่ได้ ขอไปละ เขาถามว่าไหวไหม  มาเลยเดี๋ยวเราจัดให้ เราตอบ  การปลดวิญญาณที่เดียว 50,000 ดวง กระเทือนแน่ สภาวะจิตเราตอนนั้นเหมือนอะไรหนักอึ้งเข้ามารวมทับอยู่  แต่จากการฝึกจิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชนและสติอันมั่นคงที่ตื่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความหนักอึ้งนั้นผ่อนคลายแผ่วเบาลง แล้วเหมือนมีอะไรหลุดวูบออกไปจากจิต  พลันจิตก็จะเบาสบายด้วยอาการอิ่มบุญ อย่างสัมผัสได้ ทั้งหมดนี้ผ่านมาหมดแล้ว แต่พอมาถึงการคุยกับหลวงปู่หลวงตาเบื้องบน ไม่เคยเลยที่จะแน่ใจมั่นใจกับข่าวสารที่หลวงปู่หลวงตาส่งมาให้ เพราะการใช้ร่างผ่าน ที่ผ่านๆมาคลาดเคลื่อนหลวงปู่หลวงตา พยายามจะบอกเราหลายหนว่าเอ็งทำได้ตั้งนาน แล้วทำไมไม่ทำ เอ็งไม่ต้องใช้ร่างผ่านใครที่ไหนเลย  เราก็ยังไม่ไว้วางใจ จนครั้งล่าสุด พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ลงคุยกับเราโดยผ่านร่าง แล้ว ใช้คำว่า “ จงอย่าลังเลสงสัยกับสิ่งที่เจ้ารู้เจ้าเห็น ” คำนี้ที่พระองค์ทรงกล่าวกับเราเหมือนเปิดสวิตซ์ไฟเขียวให้เราเลยทีเดียว ข่าวสารต่างๆที่ผ่านมาทางจิต บางทีจะผ่านมาขณะทำงาน บางทีจะผ่านมาขณะเข้าสมาธิ เช่นห้ามไม่ให้เราทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ บอกเราเปลี่ยนกำหนดการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงพายุ บอกเราให้กำหนดวันเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์มั่น ที่จะจับตาดูเราทุกวันเวลา ที่ล่าสุดคือเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อเชียงใหม่อยู่ในวิกฤตหมอกควัน เราจึงปรึกษากับนิชาวัลย์ว่า จะเข้ากรุงเทพฯไปพักอยู่กับน้องสะใภ้ที่ฝั่งธนบุรี ซอยกำนันแม้น เพราะบ้านที่กรุงเทพฯ ได้ขายไปแล้ว เราตั้งใจจะออกวันพรุ่งนี้เลยโดยขับสีหมอกเข้ากรุงเทพฯ แต่นิชาวัลย์ไม่ยอมจะจองตั๋วให้พรุ่งนี้เลย เพราะไม่อยากให้เราขับ เถียงกันไปเถียงกันมา “ หนูออกค่าตั๋วเอง ออกให้อาจารย์ ” “ ไม่เอาไม่ต้อง เราจะขับรถไปเอง โอย …. ปวดหัวว่ะ ” เราพูดพร้อมทั้งเอามือกุมศีรษะ “ เอ๊า …. จานจะเอาอย่างไรบอกหนูมา ”  แล้วก็มีเสียงหนึ่งตวาดขึ้นมาทางจิตว่า “ ไปเครื่องไม่ต้องเอารถไป พอ พอ พอ แล้ว  เงินทองก็มีเยอะแยะ ” เป็นเสียงของหลวงปู่พระองค์หนึ่งตัดสินใจให้ แล้วตำหนิมากลายๆ เราตกใจโทรศัพท์แทบหล่น รู้ว่าเป็นเสียงของพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง เพราะทุกพระองค์ต่างช่วยกันถนอมกายขันธ์ของเราไว้ไม่ให้เราเหนื่อยเพื่อให้เราอยู่ช่วยเผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อไปนานๆ