ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 30
- พฤษภาคม 22, 2018
- ตอน แผนการฆ่าชาวเมือง ปารวตรี ศรีอมร

เขามาร้องขอความเป็นธรรม ฆ่าเขาทั้งลูกเล็กเด็กแดง เขาไม่ทันได้ตั้งตัว เขาผ่านเข้าคุณก้อย กับเจ้า ม. ก่อนเวลาเราเปิดคลาส เขามาร้องไห้ ต่อหน้าลูกศิษย์ลูกหาในคลาสขอความเป็นธรรมจากเรา ได้ยินกันเต็มสองรูหู เบื้องหน้าเขาโจรคนหนึ่งจากอดีตชาติ นอนอยู่บนพื้นรอชะตากรรม เขาเป็นนักเรียนในคลาสคนหนึ่ง คำตัดสินของชาวเมือง ที่ส่งผ่านมา ศิษย์เราคนนี้จะต้องตายภายใน 7 วัน
เรื่องมีอยู่ว่า เทศกาลฉลองทางเข้าถ้ำเชียงดาวที่พระเจ้าไชยเชษฐา กับเจ้าหญิงการะเกดกำลังจัดขึ้นตรงกับวันพระใหญ่ ที่ใกล้จะมาถึง โจรใจบาปกลุ่มนี้ได้วางแผน ชนิดพลาดไม่ได้ ตายสถานเดียว ไม่เว้นแม้แต่หมูหมากาไก่ อย่าได้อยู่ให้เห็นเป็นพยาน ไม่สนใจต่อคำว่า นรก สวรรค์ มีหู มีตา กับจับตาดูเราอยู่ทุกขณะจิต
เมืองปารวตรี ศรีอมร มีบ่อน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ มีแหล่งเกิดมาจากถ้ำ หรือเทือกเขาเชียงดาว ว่ากันไปแล้วเทือกเขาเชียงดาวเป็นปลายของเทือกเขาหิมาลัยที่ทอดตัวจากประเทศอินเดียเข้าสู่ไทย ความลี้ลับอาถรรพ์ป่านานาชนิด เราอย่ารู้อย่าเห็นอย่ายุ่งเกี่ยวกันเลยจะสบายใจกว่า กับแน่นอนยังซุกซ่อนต่างภพต่างภูมิเอาไว้ ทั้งลับแล บังบท นาค นางไม้ เจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขา ผีโป่ง ผีกองกอย มีอยู่ดาษดื่น เขาร่วมอาศัยป่าเดียวกันอยู่….ใครอย่าได้ปฏิเสธ….เพราะหลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับหลวงปู่ตื้อ เคยหลุดหลงเข้ากลางดงผีกองกอย ฟัดกับผีกองกอยกันมาแล้ว ผลคือพระคุณเจ้าทั้งสองได้เปลี่ยน กับดัดนิสัยสันดานผีกองกอยทั้งเผ่าให้เลิกฆ่ามนุษย์ เลิกกินเนื้อมนุษย์ กลายเป็นสงบเสงี่ยมเจียมตน เปลี่ยนชื่อเผ่าเป็น เผ่าสมยอมกันมาแล้ว ให้เป็นอัศจรรย์ นี่แหละพุทธศาสนาเท่านั้นที่ทำได้ ไปศึกษาประวัติของสองพระคุณเจ้ากันดู จะให้เล่าก็ยาวเกินพิกัด ( แต่ก็เล่าได้ )
บ่อน้ำที่ว่าคือเส้นเลือดของชาวเมือง ปารวตรี ศรีอมร ที่เขาใช้ ดื่มกินกันมาหลายชั่วรุ่น ยาพิษถูกใส่ลงในบ่อน้ำโดยไม่คำนึงถึงว่ากี่ชีวิตที่จะต้องแตกดับ เก่งซะด้วยเป็นยาพิษที่จะไม่ทำลายชีวิตสัตว์ในน้ำให้ลอยเท้งเต้งโผล่ผิวน้ำขึ้นมาให้มนุษย์ ได้จับสังเกตเห็น ยาพิษถูกใส่ลงในสระน้ำล่วงหน้า 2 วัน หวังให้ทุกครัวเรือนได้ตักน้ำกักตุนไว้ใช้ในไห ในตุ่ม ให้เรียบร้อยก่อนวันงาน ให้เป็นที่แน่ใจว่า ผลของยาพิษจะออกผลช้าๆ ยังถูกพวกโจรใช้วิชามารกำกับ ให้ส่งผลช้าแต่ยาวนาน นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรก มิได้หวังจะให้แรงพอที่จะฆ่ามนุษย์ได้ในทันที เพราะจะทำให้ปลาตายด้วย ปลาที่ตายจะทำให้ชาวเมืองไหวตัว
จึงเอาแค่ให้ชาวเมืองสลบไสล ไม่ได้สติกันระยะยาว ลมหายใจมีเพียงแค่ระทดระทวยระรวยรินหมดเรี่ยวหมดแรง กองกันอยู่ระเกะระกะกว่าจะรู้ตัว ก็จะล้มบ้างนั่งสลบบ้างไปทั่วหมู่บ้าน แม้แต่หมู หมา วัวควาย ช้างสัตว์เลี้ยงในครัวเรือน ที่กินน้ำนี้เข้าไป บ้างที่กินน้ำไปก่อนก็หน้ามืดหมดแรงก่อนทีละคนสองคน ไม่มีเวลา หรือสติปัญญาหลงเหลือที่จะบอกเตือน บอกเล่าแก่กันฟัง บ้างที่ภูมิต้านทานแข็งแรง ก็สลบหลังเขาพอมีสติหลงเหลือให้รู้เห็น กับอะไรที่กำลังจะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป มันไม่นานพอที่จะหายามาแก้ไขได้ทัน….ภาพสุดท้ายที่เขารับรู้ คือชาวเมืองเพื่อนบ้านครอบครัวพวกเขา ลูกเล็กเด็กแดง แม้แต่สมณะในผ้าเหลืองผ้าขาวไม่ละเว้นถูกชายฉกรรจ์ กลุ่มใหญ่ พากันลากพวกเขา มากองรวมกันกลางหมู่บ้าน แม้เป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็นก็เลือนรางก่อนที่สติเขาจะดับวูบตกตามกันไป ….ไม่รู้แม้กระทั้ง ใครทำ ทำพวกเขาทำไม ทำ เพื่ออะไร เขาทำผิดอะไร ไปทำให้ใครเดือดร้อน ….มาฆ่าเขาทำไม….ชีวิตเขา เขารัก แรงอาฆาตเริ่มสะสม ทั้งที่ยังไม่รู้ตัวผู้กระทำ
จากนั้นโจรโฉดทั้งหมด ก็ตระเวนกระจายกันค้นหาทรัพย์สินของเจ้าเมืองพระเจ้าไชยเชษฐา กับเจ้าหญิงการะเกด หากันจนหมดปัญญา ครั้นจะปลุกใครขึ้นมาถามนั้นก็สายเสียแล้ว ทุกชีวิตขาดสติสลบไสลกันหมดแล้ว เพราะความประมาทของกลุ่มโจร ว่า อย่างไรต้องหาทรัพย์สินไปแบ่งปันกันได้ไม่ยาก ต้องเจอแน่นอนให้พวกมันพ้นทางก่อนเป็นพอ อยากทราบว่าทรัพย์สินหายไปไหน หายไปได้อย่างไร? ต้องไปถามแม่ธรณีดู เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เพราะหัวหน้าโจร ชำนาญทางไสยดำ รู้หลบเป็นปีก จึงรีบกลับมาจัดการผู้เคราะห์ร้ายที่สลบกันอยู่ทั้งเป็น โจรกลุ่มนี้มีวิชาอาคมกันเกือบทุกคน แต่วิชาอาคมนั้นไม่ช่วยให้หาทรัพย์ไปได้แม้แต่หนึ่งชิ้น เงากรรมได้ส่อแววก่อนที่กรรมนั้นจะเสร็จสิ้นเสียด้วยซ้ำ โจรโฉดจึงได้ช่วยกันฝังชาวเมืองทั้งเป็นทั้งหมด โดยใช้ตาข่ายมนต์ตรา มีลักษณะเหมือนร่างแหขนาดใหญ่ คลุมร่างของพระเจ้าไชยเชษฐา กับชาวเมืองทั้งหมดไว้ กับใช้พลังอภิญญาผสมกับมนต์ดำ ให้ตาข่ายนี้ต่ำลงๆ กดร่างของผู้บริสุทธิ์ทั้งหมดด้วยพลังจิต กำกับด้วยคาถาอาคม ให้ค่อยๆจมลงสู่พระแม่ธรณีต่อหน้าต่อตา พระแม่ธรณีที่รู้เห็นเป็นพยานกับโศกนาฏกรรมหมู่ครั้งนี้ จนแม่นางสามารถเล่าให้เราฟังได้อย่างละเอียด…. มันหมายถึงการฝังหมู่ ฝังทั้งเป็น
ตาข่ายที่หัวหน้าโจรนำมาใช้ในการนี้ ยังกำกับวิญญาณทุกดวงไม่ให้ออกมาฟ้องร้องเรียกหาความเป็นธรรม มาอาฆาตผูกใจเจ็บหลอกหลอน พวกโจรได้อีก ปิดโอกาสที่จะให้เขามาแก้แค้นได้ในทุกทาง ทุกโอกาส
แต่หารู้ไม่ว่า กรรมคือเจตนา กรรมคือการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
กรรมคือมรดกตกทอด กรรมคือเงาติดตามตัว กรรมคือที่อยู่อาศัยของทุกดวงจิตวิญญาณ ทุกจิตวิญญาณไปตามแรงกรรม กฎหมายบ้านเมืองยังมีต่อรองลดหย่อนผ่อนผันกันได้ แต่กฎแห่งกรรม ต่อรองด้วยไม่ได้ ดังคำพูดที่ว่า ใครจะใหญ่กว่ากรรม ไม่ว่าจะชาติภพภูมิไหน ชาติไหน กรรมหาเราเจอ จะหนีอะไร หนีหนี้ หนีคดีความ หรือ หนีผัว หนีเมีย หนีพ้น แต่กฎแห่งกรรมหนีไม่พ้น โจรกลุ่มนี้ หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น โดนกันระนาว เพราะ 18 คน ใน 26 คน ยังติดอยู่ในนรกขุมแตกต่างกันไป ซึ่งพวกเขาเรียก “ Hell ว่า Home” มาเป็นเวลาช้านานแล้ว 4 ดวงจิต ตกอบายภูมิ คือเกิดเป็นเดรัจฉานสัตว์ในชาติปัจจุบัน อีก 4 เป็นมนุษย์ ในชาตินี้ ก่อนที่วิญญาณของชาวเมืองจะโดนเราปลดปล่อยออกมา เกิดอะไรขึ้นหลังจากปลดปล่อย กับก่อนปลดปล่อย ….จะเล่าให้ฟัง ทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น อดน้ำตานองหน้าสะอื้นในชะตากรรมของพวกเขาไม่ได้
ความเก่งของหัวหน้าโจร ยังสามารถสะกดตาข่ายมนต์ดำนั้นให้ตรึงอยู่กับที่ จะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้แล้วมาถอดตาข่ายนี้ออก เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณเหล่านี้ออกมาได้ จะไม่มีใครมาเห็น ต่อให้เก่งวิชาอาคมเป็นพระอรหันต์ หรือสำเสร็จวิชาตาทิพย์อะไรก็ตามจะไม่มีทางเห็นไม่มีทางได้รับรู้ มันจะเป็นความลับตลอดกาล แค่ผู้ที่จะรู้เห็นได้ ก็ไม่มีแล้ว ถ้าแม้จะมีได้ ผู้นั้นก็ไม่สามารถจะถอนอาถรรพ์ปลดปล่อยชาวเมืองปารวตรี ศรีอมรออกมาให้แจ้งความเรียกร้องความเป็นธรรมกับใครๆได้….แต่คำว่า ซวย กับ วาระเวลา มันมีจริง เมื่อคราวซวยมาถึง วาระเวลามาถึง อย่างที่พระแม่นางธรณีท่านบอกเรา “จะมีอะไรบ้างบนแผ่นดินนี้ที่จะพ้นหูพ้นตาเราไปได้” ยิ่งเมื่อแม่นางมารู้จักเรา ได้ร่วมบุญทำบุญใหญ่กับเรา แม่นางเห็นผลงานเราที่ไปปลดปล่อย บรรพชนของชาวอเมริกันมานับแสน ได้เป็นพยานหูพยานตา ทุกครั้งที่เราเปิดคลาส แม่นางจะต้องมาฟังธรรม แม่นางจึงยอมมาช่วยงานบุญกับเรา ที่จริงเมื่อต้นปี 2016 ตอนที่เราพาลูกศิษย์ไปทำบุญที่เชียงดาว ตอนที่ไปขายเสื้อผ้าใช้แล้วที่หน้าโรงพยาบาลนครพิงค์ เมื่อครั้งแม่ป่วย เที่ยวนั้นเราแวะไปถ้ำเชียงดาวได้ช่วยปลดปล่อยบริวารของปู่วิษณุอย่างบังเอิญ ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวเรื่องเมืองปารวตรี ศรีอมร เพราะยังไม่เคยคุยกับพระแม่ธรณี

ทันทีที่แม่นางได้เล่าเรื่องนี้แต่แรก จิตเราได้ตามความรู้สึก สัมผัส ของแม่ธรณี กลับไปในอดีต กลับไปที่เมืองนั้นในวันแรกที่ไปกับก้องกับปุ้ม ขณะที่พระนางเล่าเรื่องนี้….ศิษย์เราทุกคนสงบนิ่ง ฟังอย่างตั้งใจ อดขนลุกซู่ชูชันกันไม่ได้ จิตเราเห็นชาวเมืองที่ถูกฝังทั้งเป็น พวกเขาเห็นเราตั้งแต่เราไปครั้งแรกวันแรก พยายามจะหาทางบอก ดลจิตดลใจให้เราไปเอาแม่ธรณีของตนเองจากบ้านที่กรุงเทพฯ ย้ายมาบูชาที่เชียงใหม่ ทั้งๆที่กลับมาจากอเมริกาได้ 8 ปีแล้ว ไปๆมาๆ ขับรถสีหมอก กรุงเทพ- เชียงใหม่ เข้าปีที่ 8 เราไม่เคยสนใจเหลียวแลแม่ธรณีองค์นี้ของคุณแม่ที่หิ้งพระเลย มันคงถึงวาระ กับถึงคราวซวยของโจรกลุ่มนี้ กับความมีโชคของชาวเมืองที่จะได้รับอิสรภาพกันเสียที หากเป็นคำพูดของจานวาเอง คงจะพูดว่า “ตูก็ทำมาหากินในอเมริกา มาตั้งแต่อายุ 21 ปี อยู่ดีๆ เอากลับมาเมืองไทยให้เป็นผู้รู้เห็นแล้วปลดปล่อยวิญญาณ ไม่เคยคิดจะมาเสกผีลุกปลุกผีนั่ง คนปฏิบัติที่ศีลบริสุทธิ์ในเมืองไทยมีมากมายหลายคน ทำไม ต้องเป็นตูให้มารับรู้เรื่องอะไรที่ชาวบ้านเขาไม่รู้กันอย่างเรื่องเหล่านี้” คำตอบก็คือ คำว่า “บังเอิญ ไม่มีในพุทธศาสนา” กับ “เจ้าถูกกำหนดมาแต่เพียงผู้เดียว” ให้หาพระศาสดา ของศาสนาอิสลามเจอ….ซึ่งแม้แต่เบื้องบน ทุกพระองค์หาไม่เจอ แต่เราหาเขาเจอ ขอให้เขากลับไปจัดการ กับคนของเขาเอง ให้หยุดระรานเข่นฆ่าชาวพุทธ ทำนองเกลือจิ้มเกลือ กับต่อไปจะต้องกลับมาช่วยทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ที่พวกเขาทำลาย ทำร้าย เสียหายจนประเมินค่ามิได้ มัสยิดสุเหร่าที่สร้างทั่วประเทศไทยให้ถอนออกให้หมด ร่นกลับไปอยู่เพียง 3 จังหวัดภาคใต้ กับเมื่อคนไทยแต่งงานกับคนอิสลาม ไม่จำเป็นต้องไปนับถือศาสนาอิสลาม หากทำตามที่เราเรียกร้องไม่ได้ เราไม่คุยต่อ….เราจะไม่สนใจ ปล่อยเขาไว้ตรงที่เราเห็น เราหาเขาเจอทางจิต มันเป็นข้อตกลง ระหว่างเขากับเราด้วยสัจจะวาจา แม่กวนอิมเป็นพยาน เมื่อจิตของเราหาเขาเจอ เขาดิ้นอยู่ในนรกขุมที่ลึกมาก ถูกพันธกาลจนกระดิกไม่ได้ เขาร้องขอให้ช่วย การตกลงระหว่างเราทั้งสอง ผู้รู้เห็นเป็นพยานคือ พระอวโลกิเตศวร ที่ผ่านมาเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นแพะ พระอัลเลาะห์ พระศาสดาของศาสนาอิสลาม ทุกคนเข้าใจว่า เขาเป็นผู้สั่งให้ไปฆ่าพระสงฆ์ในพุทธศาสนาที่ดาลันทา โรงเรียนพุทธศาสนาแห่งแรกของศาสนาพุทธ สมัยนั้นเราเป็นสงฆ์รูปหนึ่งอยู่ที่นั่นด้วย จัดอยู่ในจำนวนที่ถูกพวกเติร์ก หรืออิสลามสมัยนั้นฆ่าตายกันเกลื่อน ความจริงมีอยู่ว่า ท่านอัลเลาะห์ ไม่ได้ใช้ให้สมุนไปฆ่า ไปทำรุนแรงขนาดนั้น แต่พวกไปทำเกินคำสั่งลุแก่อำนาจ แล้วโทษความผิดเป็นของพระอัลเลาะห์เป็นผู้กระทำตามคำสั่งของท่าน “เขาเป็นผู้บริสุทธิ์” ส่วนกรรมที่เขาควรได้รับ เขาก็รับอยู่แล้ว….ดังนั้นวิญญาณของชาวพุทธและผู้บริสุทธิ์ ที่ถูกฆ่าทุกคนต่างคิดว่าเป็นคำสั่งสอนของเขา พอตายกันแล้วต่างตรงไปฉุดกระชาก ลากขา พากันลากท่านลงลึก จนไม่มีพระองค์ ไหนเบื้องบนจะหาเขาเจอ ต่างพากันลืมเขาไปในท้ายสุด คำพูดทั้งหมดนี้ ออกจากปากของพระโพธิสัตว์กวนอิม แม่นางยังกำชับอีกว่า “ทุกครั้งที่เจ้านั่งสมาธิส่งจิตไปช่วยเขา เรียกเราด้วยเราอยากช่วยเขา”
เรื่องพวกนี้มันสูงเกินกว่าจะเอามาโกหกเขียนหากินกันได้ เพราะ บทความที่เราลงให้สยามมีเดียนี้ เราลงให้ฟรีๆ แม้แต่ พื้นที่โฆษณาเล็กๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ไม่ได้สนใจจะขอบก. ซึ่งถ้าขอ คุณแตน มีหรือจะปฏิเสธ เพราะเป็นผู้ขอให้เรากลับมาเขียนเอง ทั้งๆที่เลิกเขียนไปแล้วเกือบ 10 ปี แต่ก่อนทุกพระองค์เบื้องบนช่วยกันปิด เกรงเราจะเดือดร้อน ปิดกันชนิดแสงออราจากตัวเราก็ไม่ให้ฉายแสง เกรงจะถูกทำร้ายจากฝ่ายชั่วช้าลามก แต่ตอนนี้ท่านปลอดภัยแล้วท่านอนุญาตให้พูด เพราะท่านอัลเลาะห์ออกมาแล้ว เป็นอิสรภาพแล้ว กับทุกพระองค์ พระศาสดาของทุกศาสนา ต่างเป็นเกราะให้เรา นัยว่ากว่าจะเข้าถึงตัวจานวาได้ ต้องผ่านกันหลายด่าน หลายภพภูมิ หลายชาติ หลายศาสนา พระโพธิสัตว์กวนอิม ยังบอกให้ อาฉาง มาอยู่เฝ้าเราเมื่อว่างงาน เมื่อไม่ได้รับใช้พระแม่ (อาฉางคือมังกร ของพระโพธิสัตว์ ปางขี่มังกร) สิ่งที่อยู่รายรอบตัวเรามันมากมาย หลายชั้นหลายวง จนไม่รู้ว่ามีใคร อะไร มันน่ากลัว สำหรับใครที่คิดจะฝ่าวงล้อมเข้ามา ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง เขาทำงานกันจากจิตใจเรา เช่นบอกเราให้เราไปไหน ทำอะไร เช่นครั้งหนึ่งขณะนั่งสมาธิอยู่ จิตกำลังสงบเพลิดเพลินอยู่ในอารมณ์สุข แอบเสวยสุขไม่ให้ใครเห็น เร็วลุกไปโลตัส ไปเดี๋ยวนี้ไปซื้อเมลอนมาให้แม่ธรณีพรุ่งนี้ พอไปเดินที่โลตัส ศิษย์คนหนึ่งโทรมาบอกว่า “พี่ๆ อยู่บ้านไหม คุณศ. จะไปหาพี่ไปขออาศัยบ้านพี่อยู่” “อ๋อเสียใจ พี่ออกมาแล้ว เขามาคงไม่เจอ” “พอรู้อย่างนี้เราแฮงค์อยู่ข้างนอกจนปลอด แล้วจึงเข้าบ้านเพราะคนชื่อศ. คบไม่ได้ ไม่เสียเวลาไม่ต้องห่วงเมื่อ ถึงเวลา เราก็ตายเองไม่ต้องมีใครมาฆ่า ตามกฎพระไตรลักษณ์
จิตเราจับไปที่ชาวเมือง พลังจิตที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา คุณธรรม กับด้วยกำลังของศีล สมาธิ ปัญญา ที่เต็มขั้นแล้ว สาดส่องไปทั่วปริมณฑลที่ครอบคลุมชาวเมืองที่ถูกฝังทั้งหมด พลังเย็นของตัวเมตตากับแสงสว่างของออรา ที่ออกจากดวงจิตที่เป็นธรรมธาตุ หรือชะล้างหมดแล้ว ทำให้ชาวเมืองที่ติดกันอยู่นานนับพันปีแตกตื่น ตะเกียกตะกาย ปีนป่านหกล้มหกลุก ตะโกนแทบจะเหยียบกันตาย ร้องขอความช่วยเหลือ ร้องขอความเป็นธรรมร้องกันระงมไปด้วยความปีติยินดี ที่จะได้รับอิสรภาพจากผู้มีบุญบารมี มันเป็นวัน เวลา นาที ที่พวกเขารอคอย คอย คอย ด้วยความหวังลมๆแล้งๆ จนสิ้นหวังกันไปนาน หมดหวังที่จะมีวันนี้ ทุกคำพูดที่แม่พระธรณีเล่า จิตเราสกรีนดูตามลงไปเห็นนักพรต นักบวช ลูกเล็กเด็กแดง พระเจ้าไชยเชษฐา พระชายาแม่นางการะเกด มีบุตรชายอายุยังไม่ถึง 10 ขวบ อยู่กับอก โธ่เอ๋ย….ทุกคนน้ำตานองหน้าด้วยความดีใจที่จะได้ไปเกิด ที่จะได้หลุดพ้นจากการฝังทั้งเป็น พื้นที่คับแคบบริเวณอับทึบแทบกระดิกไม่ได้ เพราะศพก่ายกองเบียดเสียดกัน น้ำนองเต็มไปหมด คือน้ำตาของพวกเขาที่ไม่รู้แม้แต่ว่า เขาถูกฆ่าด้วยข้อหาอะไร
พื้นฐานจิตใจชาวเมืองทุกคนดีงามอยู่แล้ว เขาจะสู่สุขคติภูมิได้ไม่ยากเมื่อเขาหลุดจากตรงนี้ เพียงเขารอเวลา รอผู้มีบุญบารมี…รอ…รอ…เฝ้าแต่รอ…
แม่ธรณี….ยังเล่าต่อไป “เมื่อพวกเจ้าจะไปปลดชาวเมือง ตรงหน้าถ้ำเชียงดาว ยังมีสามเณรน้อยรูปหนึ่ง ละขันธ์ จิตของสามเณรรูปนี้ เห็นเจ้าตั้งแต่วันแรกที่เจ้าไปแล้ว กับรับรู้แล้วว่า เจ้าจะย้อนกลับไปปลดวิญญาณ พวกเขาทั้งในถ้ำ นอกถ้ำอีกมากมาย….เขาขอให้ปลดเขาด้วย สามเณรรูปนี้ ควรสำเร็จในชาตินี้ แต่หมดวาระก่อนกำหนด ได้ผูกคอตายบริเวณ ต้นไม้ใหญ่หน้าถ้ำ….อย่าลืมปลดท่านด้วย อายุสามเณรไม่ถึง 15 ปีเลย”
ต่อตอนหน้า
ป.ล. พลิกตำนาน…ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ กำลังจะออกเป็นรูปเล่ม จากปากคำบอกเล่าของหลวงปู่ทวด ที่เมตตา เราอย่างสูง หลวงปู่…เปิดเผยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามเณร คนที่ถือดอกมนทาสวรรค์ มาหาหลวงปู่ ร่างกายขันธ์ของทั้ง 2 อยู่ที่ไหน และพระองค์ที่ไปปรากฏที่มาเลเซีย นั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่ ที่ว่าหามร่างท่านไป น้ำเลือดน้ำหนองหยดที่ไหนให้ปักหมุดตรงนั้น ร่างนั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่? หลวงปู่ถอนแล้ววิธีถอนทำอย่างไร? คือไม่อยู่แล้วไม่ปรารถนาพุทธภูมิแล้ว…จะถูกนำมาถ่ายทอด ทุกคำสนทนา