ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 146

ด้วยความเมตตา เราได้เริ่มแสดงธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชาวเมืองตรงนี้ฟังอีกซ้ำๆ ซากๆ แม้สังขารขันธ์จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็ตาม เริ่มด้วยธรรมะชาวบ้าน ชีวิตที่เรียบง่าย การเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน สัจธรรมของการอยู่เย็นเป็นสุข ความเกรงกลัวต่อบาป การรักษา กาย วาจา ใจ การคิดดี พูดดี ทำดี การรู้สึกผิดชอบชั่วดี จะทำได้ด้วยการรักษาศีล ที่จะช่วยขัดเกลากายกับวาจาลงได้  ก่อนไปก็จะให้สมาทานศีล 5 กันไปอีก หมายถึงพวกเขาจะได้อานิสงส์จากการอโหสิกรรมต่อกัน ด้วยการให้อภัยทานเลิกราเลิกแล้วต่อกันไป  อันเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาในภพภูมิของเขาพึงจะทำกันได้ กับมันจะทำให้จิตที่รุ่มร้อนของพวกเขาเย็นลงได้ทันที  จิตเขาจะยกระดับขึ้นบ้างพอจะฟังธรรมต่อไปได้ เมื่อดวงจิตเขาชุ่มชื่นด้วยรสแห่งพระธรรมขึ้นมาบ้างแล้ว ก็ให้รับศีลก่อนจะไปกัน มันจะเป็นหลักรับประกันว่า พวกเขาไปดีแน่ ดวงจิตดวงใดฟังธรรมกันได้ลึกซึ้งแจ่มแจ้งแทงตลอด เขาจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่งไปเลย ตามแต่สภาวะจิตใครได้มากได้น้อยอย่างไร เราแสดงธรรมเสร็จ เจ้าเมืองมาให้พร ฝั่งละ 2 ข้อ พรที่ให้สำคัญมาก เด็กเราในคลาสนี้จึงยิ่งกว่าส้มหล่น ซึ่งเราได้โพสต์ไปในเฟสของเราก่อนเปิดคลาสล่วงหน้าเลยว่า คลาสนี้จะได้บุญใหญ่ ใหญ่มากๆ หลายเด้ง โดยเฉพาะเรา พรที่ได้มันครอบคลุมไป 7 ชั่วโคตร ทั้งที่เกี่ยวกับภัยภิบัติที่กำลังจะมา ท่านพูดว่าพรของท่านจะส่งผลเฉพาะกับผู้ที่มีอริยทรัพย์  กับรักษาอริยทรัพย์ ไว้ได้เท่านั้นถ้าใครหลุดออกนอก พระไตร 3 ไตรนี้แล้ว ( ไตรสรณคมน์ไตรสิกขา และพระไตรลักษณ์แล้ว ) พรนี้จะเสื่อมสลายหายไปเองเลย  เมื่อวิญญาณเหล่านี้ได้ออมชอมกันสามัคคีกันได้ฟังธรรมกัน เข้าใจกัน บรรยากาศ ความแรงของสถานที่ลดระดับลงทันที  พวกเขาเหมือนได้พระมาโปรด หากไม่มีบุญบารมีจริงๆ เขาจะไม่มายุ่งมาสื่อให้เสียเวลาเลย มีแต่จะไล่ออกจากวัดไม่ทัน  แถมเขายังกลับไปหากัน รวมครอบครัวกันได้ เขายังได้ฟังธรรมแล้วเข้าใจธรรมของพระตถาคต กับอีก 2 คืน เขาเตรียมไปจากภพภูมินี้สู่ภพภูมิที่ดีกว่า ตามสภาวะจิตของแต่ละดวง เพียงแค่นี้ก็หาคลาสสมาธิคลาสไหนจะสามารถเข้าได้ถึง ต่อให้คลาสใหญ่แค่ไหนก็ตาม คุณภาพมันต่างกัน ปิดคลาสตอนเกือบ 4 โมงเย็น เด็กทุกคนแสนจะอิ่มบุญหน้าตาเป็นปลื้มกันถ้วนหน้า เราสั่งเด็กทุกคนทิ้งเบาะรองนั่งไว้ที่นี่ คืนนี้เราจะกลับมาแสดงธรรมกันตรงสถูปนี้  ให้แยกย้ายกันไปหาฟืนมาคนละไม้ละมือ มากองบนเนินนี้ เตรียมก่อกองไฟ ธรรมมะรอบกองไฟคืนนี้ที่นี่ เจ้าหงษ์เหมือนได้ชีวิตใหม่ ความหวังใหม่ ดั่งที่เจ้าเมืองผู้ให้พรกล่าวว่า “ ทุกคนเมื่อออกจากคลาสนี้ จะมีชีวิตที่ถูกจัดสรรให้ใหม่ทุกคน ” เสร็จแล้วค่อยแยกย้ายกันไปอาบน้ำทำกิจส่วนตัว ที่น่าแปลกคือ ในทุกวันไม่มีใครบ่นหิวอาหารหลังเที่ยง หรือแสดงอาการหิวแต่อย่างใด เพราะทานกันมื้อเดียวด้วย มีอาการของตัวปีติจากการอิ่มบุญมาแทนที่ตัวปีตินี้มันดีตรงนี้เอง อิ่มบุญกันแทน ทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือไม่ถือว่าใครรวยใครจน ใครอายุมากใครอายุน้อย จนได้ฟืนมากองใหญ่

การแสดงธรรมบนสถูปคืนนี้เบื้องหน้าและต่ำลงไปภายใต้พื้นดินเป็นวิญญาณบาปของพวกทหารนักฆ่าเจ้าเมืองที่เล่นไสยเวทย์ มีแต่รบทัพจับศึก สุรานารีกีฬาบัตรที่ห่วงสถานที่ หวงทรัพย์สมบัติ เจ้าอาวาสคนไหนที่ไม่เคร่งอยู่ไม่เกิน 3 เดือน สถานที่มันอาถรรพ์ เพราะวิญญาญบาปเหล่านี้ บัดนี้ คืนนี้ เขาสงบ สำรวมเพื่อรับฟังธรรมจากผู้ทรงศีลอย่างตั้งอกตั้งใจ ที่พวกเขารอคอยกันมานับร้อยปี รอผู้มีบุญบารมีที่ต้องสูงจริงๆ ที่จะเข้าถึงเขาได้ เขาฟังธรรมกันอย่างสงบ เบิกบาน ชุ่มอกชื่นใจในรสแห่งพระธรรมดั่งคำที่ว่า หวานใดเล่าจะเทียบเท่าหวานแห่งรสพระธธรม เด็กเราทุกคนที่เคยกลัวต่อสถานที่ กลายเป็นสุขใจอิ่มบุญ ผ่อนคลายเป็นกันเอง เพราะรู้กันเต็มอกว่าครูบาอาจานของเขาได้มาปลดปล่อยวิญญาณบาปเหล่านี้ ก่อนปล่อยไปก็จัดการชะล้างให้เสียหน่อยก่อน ไม่ใช่สักแต่ว่าปล่อยให้หลุดจากตรงนี้ไป แล้วไปเร่ร่อนต่อที่อื่น เราปล่อยแบบให้เขามีที่ไป หรือไปต่อเป็น คือให้เขาฟังธรรมกัน เข้าใจธรรมกันเสียก่อน คลาสอื่นๆ จะจำไปใช้กันบ้างก็ไม่หวงห้ามนะจ๊ะ แต่มันยากมากและเหนื่อยมาก ข้อสำคัญไม่ได้เงิน มาถึงตรงนี้จึงไม่มีคลาสไหนจะทำกัน เพราะไม่ได้เงิน …. กับเสี่ยงต่อการถูกผีหักคอและกระทืบเอา

กองไฟลุกโชติช่วงท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาว  มันเป็นบรรยากาศที่จะติดอยู่ในความทรงจำของทุกคน ภายใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่เบื้องหน้า ใต้พื้นดินเป็นวัดเก่า สถูปบรรจุพระบรมฯ กับศพทหารกองเกลื่อน เบื้องบนเป็นแสงดาว ลมกลางคืนพัดมาเอื่อยๆ นกกลางคืนบินไปมา นอกจากนั้นมีเพียงเสียงของพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เรานำมาแสดงท่ามกลางลำเนาไพรให้พวกเขาได้ ดับทุกข์ ดับร้อน ดับไฟนรกกัน นอนกันอย่างสุขสงบ ชั่วนิจนิรันดร์ เหมือนกล่อมให้เขา สงบ ปลอบให้เขา เย็น พร้อมชี้ทางให้เขาเดินต่อ ด้วยความมั่นใจ

โอ …หนอ …พระธรรมของพระตถาคตแท้ๆ ที่ทำได้ถึงขนาดนี้ ไม่ใช่สักแต่จะช่วยให้คนเป็นๆ ในภพภูมิของมนุษย์ได้ดับทุกข์ ดับร้อน ดับฟืน ดับไฟ กันได้เท่านั้น ยังช่วยพวกเขาในอีกภพภูมิหนึ่งที่น่าสงสารมากๆ ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครสนใจเขา ทำให้เขาเย็นลงได้ นี่แหละ พระธรรม อันเป็นสูงสุดของพระพุทธศาสนา ของพระศาสดาเอกของโลก ช่างมหัศจรรย์ถึงเพียงนี้เชียวหรือ  คืนนั้นเมื่อทุกคนแยกย้ายกันกลับไปนอน มันมืดระยะ ทางเดินกลับเต็นท์ เกือบ 100 เมตร เต็มไปด้วยหญ้ารก คูคันดิน ไม่ใช่จะเดินได้ง่ายๆ พวกเราช่วยกันส่องไฟฉายขนสัมภาระกลับเต็นท์ ทุกอย่างมันราบรื่น เจ้าอาวาสท่านตามใจเราเลยว่าจะก่อกองไฟตรงไหน กับท่านได้เดินทางไปฮ่องกงแล้วตั้งแต่ห้าโมงวันนี้ ก่อนท่านจากไปคณะเราได้เข้าไปกราบลา กับเราได้มอบพระอรหันต์ธาตุของหลวงปู่มั่นให้ท่านไปหนึ่งพระองค์ตามที่ได้ออกปากไว้ ท่านเป็นชาวอิสาน ข่อนแก่น ท่านบอกว่า “ หลวงปู่มั่นอยู่ในใจท่านมาตลอด ” กับท่านขอให้คณะเรากลับไปอีก เป็นคณะแรกที่สร้างผลงานให้กับวัดของท่าน ท่านได้สั่งให้รองเจ้าอาวาสตุ๊เอก เก็บรูป กิจกรรมต่างๆ ของคณะเราไว้ทั้งหมดเพื่อไปลงในเฟสบุ๊คของวัด ถ้ำบัวตอง  คืนนั้นเรานอนหลับอย่างสบาย แต่ก่อนนอนได้ยินเสียงเดิน เสียงวิ่งกันรอบเต็นท์ สุนัขที่ตามปกติทุกคืนไม่เคยหอนแบบเห็นผี จะมีแต่เห่าตามปกติ คืนนี้ อีก 15 นาทีจะเที่ยงคืน หมาเจ้ากรรมในวัดได้หอนอย่างมีพิรุธ คือเห็นอะไรที่มันจะต้องหอนแบบนี้ โชคดีที่ตอนเวลาห้าทุ่มครึ่ง เราเดินไปปลดเบาก่อน ทันอย่างเฉียดฉิว ( เพราะตูก็กลัวเป็นเหมือนกัน ) พอกลับมามุดเข้าเต็นท์พักใหญ่ เขาหอนกันโหยหวนทั้งวัด แต่หอนอยู่เพียง 10 นาที จึงพากันเงียบเสียงลง เช้ามา เจ้าอู ซึ่งมีเต็นท์อยู่ไกลสุดติดกอไผ่ขนาดใหญ่ด้วย มาบอกพวกเราว่า “โห …จานเมื่อคืนเขาวิ่งกันเยอะรอบๆ เต็นท์ ผ่านเต็นท์หนู” ทุกคนได้ยินหมด เราจึงบอกว่า “อย่าตกใจ จะเป็นคืนนี้เพียงคืนเดียว เขามาจงใจให้รู้ว่า ชาวเมืองสองฝั่งเขามาพบหากันได้แล้ว กับเตรียมทิ้งถิ่นกันในอีก 2 คืนข้างหน้าที่จะปลด เขามาแสดงให้เรารู้ว่ากำแพงมนต์ตรา ที่เจ้าเมืองคีรีทานครสร้างขึ้นด้วยไสยเวทย์เพื่อกันคนสองเมืองออกจากกัน ถูกเราเปิดได้แล้วด้วยบุญฤทธิ์ของเรา เปิดได้แล้วจริงๆ เขาจึงกลับไปมาหาสู่กันอย่างดีใจ แต่เขาพยายามสำรวมไม่ให้พวกเราตระหนกตกใจกัน” เป็นเช่นดังที่เราคาดคิดเพราะคืนต่อไปจนคืนสุดท้าย สุนัขไม่หอนโหยหวนกันอีก เห่าเล็กน้อยตามปกติ

เช้ามืดของวันที่  23 เราตื่นก่อนเพื่อนอีกเช่นเคย แม้ว่าจะรู้ว่าพระอาจารย์ชำนาญเจ้าอาวาสไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครจับตามองแล้ว ตื่นกี่โมงก็ได้ แต่เรารู้ตัวเองดี  จึงลุกมาตอน 03.44 เช้า เกือบตีสี่ สายหน่อย แต่ก็ก่อนทุกคนอยู่ดี เมื่อคืนอากาศหนาวจัด จนน้ำค้างจับตามผนังเต็นท์ หยดลงในเต็นท์บางจุด เราลุกเดินฝ่าความมืดไปปลดเบา สุนัขมันเห่าสองสามครั้งแล้วหยุดไป กลับไปขดตัวนอนต่อด้วยความหนาว เดินกลับมาที่กองไฟที่มอดไปแล้ว ฟืนถูกสุมกลับเข้าไปอีก เราลากเก้าอี้ตัวเดิมมานั่งข้างกองไฟ เดินจงกรมบ้าง นั่งสมาธิบนเก้าอี้บ้าง ไม่นาน คุณนงค์ตื่นตามมา หงษ์ตื่นตามมาคนที่ 3 ลากเสื่อขนาดใหญ่ออกมา คนทั้งสองมานั่งตรงแทบเท้าเรา “ อาจานครับผมนั่งสมาธิได้แล้วนะครับ จิตผมสว่างเหมือนเดิมแล้วครับ ผมนั่งได้แล้ว ” เขาดีใจมาก คุณนงค์ มากราบเราที่ตักให้เราลูบศีรษะ เมื่อเก็บภาพนี้ออกมาจะเห็นลำแสงประหลาดจับที่ตัว คุณนงค์ หงษ์ เข้ามาเป็นคนที่สอง ลำแสงประหลาดนี้จับลงที่ตัวหงษ์เช่นกัน หนูบิ้นมาเป็นคนที่ 3  กราบที่ตักเรา พวกเขาคุกเข่ากัน ลำแสงประหลาดจับที่ตัวบิ้นด้วยเช่นกัน จากนั้นลำแสงนี้เป็นลำขนาดใหญ่กว่าเพื่อน จับที่ตัวเรา  ลำแสงนี้ยังปรากฏที่กองไฟ  เราเท่านั้นที่รู้ว่า ลำแสงนี้คืออะไร

ปริศนาเด็ก  4  คนที่หาย หลงกันในป่า

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ