ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 59
- สิงหาคม 26, 2018
- ตอน กิน และ ไม่กิน เนื้อสัตว์
พระตถาคตมีความเห็นดังนี้
สมัยพระพุทธกาล …เมื่อพระเทวทัตได้พยายามจะแซงทางโค้ง …ได้ขอเสนอให้พระตถาคต ออกกฎให้หมู่พระอัครสาวก ทั้งมวล 5 ข้อ เป็นกฎที่บังคับ ให้ปฏิบัติ กันต่อมาถือเป็น กฎข้อ ปฏิบัติของพุทธ ศาสนา เลยทีเดียว 5 ข้อนี้ ไปค้นหาดูกันเอง แต่ 2 ข้อแน่ๆ ใน5 ข้อมีอยู่ว่า ต้องละเนื้อสัตว์ทุกชนิด อีกข้อ คือพระทุกรูปจะต้องออกบิณฑบาตทุกวัน
พระตถาคต ตอบทันทีประมานว่า สุดแท้แต่เถิดผู้ใด ใคร่ จะงด จะละเว้น ก็ตามแต่ผู้นั้น เพราะพระบางรูปอาพาตจะออกบิณฑบาต ทุกวันไม่ได้ เช่น เจ้าคุณ นรฯ …กับอีกหลายๆรูป สาเหตุ พระเทวทัตต้องการให้ พระอัครสาวกทั้งมวลเห็นว่า พระเทวทัตเคร่ง และเหนือกว่าพระบรมครู
ปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อคนหลายๆคน ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา จากดวงชะตา เห็นว่า เขางดเนื้อวัว มาในดวงเลยโดยไม่ต้องถามเพราะมีดาวดวงหนึ่งบอก ให้รู้ว่า คนผู้นั้นสายพระโพธิสัตว์กวนอิม พระองค์ปรารถนาอย่างแรงกล้า ให้โลกใบนี้สงบ ไม่เบียดเบียนกันและกัน รวมถึงชีวิตสรรพสัตว์ ซึ่งแม้จะให้คุณต่อมนุษย์ ไม่เท่ากัน แต่ชีวิตทุกชีวิตก็มีค่าเท่าเทียมกันไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต่างหวงแหนชีวิตตนเองทั้งสิ้น กับผู้ที่ละเนื้อวัว แล้วมักจะเคารพกราบไหว้ แม่กวนอิม กันทุกคน หากคนนั้นเดินหน้าต่ออีกนิด เลิกเนื้อสัตว์ ทุกอย่างเลย คนนั้นจะได้หลายๆอย่างตอบแทนกลับคืนมาโดยไม่รู้ตัว แถมหนทางเข้าสู่มรรคผลนิพพาน มันเป็นไปได้สูง เมื่อเลิกเนื้อวัว ที่แสนจะเอร็ดอร่อยได้ อย่างอื่นๆก็สามารถเลิกได้หมด วัวเป็นสัตว์ ที่มีทั้งคุณ ทั้งค่า ไปพิจารณาดู
พระหลวงตามหาบัว ไม่ใช้คำว่าเลิก แต่ฉันไม่ได้มาแต่เด็ก แม่เราเป็นชาวอุดรฯ แม่ของหลวงตา เป็นน้าของคุณแม่ พระหลวงตามหาบัว เคยพูดกับยาดโยมว่า อาตมามียาดอยู่อเมริกา คนผู้นั้นคือคุณแม่ ครั้งหนึ่งตอนเราปฏิบัติ เรากำลังประสบกับปัญหาอย่างมาก คือ ไปปลุก ตัวสติทั้งมวลที่เรียกว่าสติอัตโนมัติขึ้นมา แก้ไม่ได้ ตาค้างนอนไม่หลับความคิดฟุ้งซ่าน แต่กายขันธ์อ่อนแรง ครูบาอาจารย์ก็ไม่มี พระหลวงตา หรือ ทวด ทวด ทวด ของจานวามาช่วยแก้ให้ ครั้งนั้นเราเกือบตาย ไปหาบทความเรื่อง จาก 0 สู่ ดับ 0 ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตอน ที่เราเขียนมานานแล้ว อ่านกัน จะรู้รายละเอียดว่าเราทำอย่างไร? ได้มาอย่างไร? จะได้เอาไปทำกันถูก
สมเด็จพระสังฆราช องค์ ที่ 19 องค์ (องค์ที่แล้ว) ได้เคยออกมา แสดงความเห็นเรื่อง การงดเนื้อสัตว์ ทุกชนิด หรือ กินเจ กินมัง นั้นไม่จำเป็นต่อการปฏิบัติ กิน และไม่กินเนื้อสัตว์ กันต่อ ที่ภูวัวและภูลังกา แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไร ตามมาจะเล่าให้ฟัง เมื่อญาติโยมเกิดความศรัทธา ต่อพระพุทธศาสนากันมากๆ จะทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติกันมากขึ้น

ภูวัว

ภูลังกา
ลังกาตั้งอยู่ในจังหวัดบึงกาฬ บ้างก็ว่าเขตหนองคาย จากอดีต นับพันปี เป็นตำนานของพระพุทธ เจ้า 5 องค์ นะ โม พุท ธา ยะ (ในปัจจุบันของพวกเรา คือองค์ที่ 4) เรื่องเล่าว่า มีกาเผือกตัวหนึ่ง มาวางไข่ 5 ใบ ที่ภูลังกา แล้วเกิดพายุได้พัดไข่ กระจัดกระจายหายไปคนละทิศละทาง ไข่แต่ละใบ คือ พระพุทธ เจ้า 5 พระองค์ ปัจจุบันนี้ถ้ากาตัวไหนบินผ่านภูลังกา เขาว่าจะตกลงมาตาย
ภูลังกากับภูวัว อยู่ไม่ไกลกันนัก ถือเป็นสนามฆ่ากิเลส ที่ยากสุดโหดของพระป่าสายอาจารย์มั่น ที่จะต้องดั้นด้นไปให้ถึง เพื่อทดสอบสภาวะจิต เปรียบเสมือน เมืองตักกะศิลา หรือนาลันทา ที่มีทั้งกิเลส มาร อุปสรรค พ่อค้าวาณิชผู้แสวงหา สารพัดจะพูดถึง รวมถึงผู้แสวงบุญบากหน้าเข้าสู่สนาม เพื่อลองภูมิปัญญาของตนเอง ใครผ่าน สนามประลอง หรือไม่ผ่าน วัดกันที่สองเมืองนี้ สำหรับ ยุคหลวงปู่หลวงตา ประกาศนียบัตรของพระแต่ละรูป วัดกันที่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สองสามแห่งนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนโลกที่เขาใช้เป็นสนามประลอง ทดสอบสภาวะทางจิตของมนุษย์ เพื่อให้ชะล้างกิเลสทั้งมวล ได้ดีที่สุด ไม่มีที่ไหนเกินโลกมนุษย์ใบนี้ ซึ่งยังมีถ้ำวัวแดงอีกแห่ง อย่างคำที่ว่า ธรรมของพระตถาคต ต้องแลกกันด้วยชีวิต ภูลังกาเป็นที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์ป่า ถูกบรรจุจัดเต็มไว้รอรับ นักเรียนแต่ละคน ทั้งบังบด ลับแล ผีโป่ง ผีป่า ยักษ์ ผีกองกอย ไข้ป่า นาค เสือสมิง หรือเสือเย็น คนที่จะเข้าไปที่ภูวัว ภูลังกา ถ้ำวัวแดงได้ ทั้งกาย และใจต้องสะอาด ไม่สะอาดเข้าไม่ได้ จำเป็นต้องสำรวมกันจริงๆ ต้องได้ เมตตาเจโตวิมุตติ กันด้วย (พระอนาคามีจะได้ตรงนี้) เพราะไม่เช่นนั้น ผีป่า สัตว์ป่า มาทดสอบ ทั้งงู ตะขาบ สารพัด จำนวนไม่น้อยที่เอาชีวิตไปทิ้ง แล้วพวกพระที่พากันไปตายยังสถานที่ ที่ตนสอบตก จิตวิญญาณเขาติดกันอยู่ตรงนั้น รอคอยต้อนรับน้องใหม่ที่เข้าสู่สนามประลองกันเป็นรุ่นๆ ต่อไป
ภูลังกานี้ในอดีต มีหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านๆ ได้สัมผัสมาแล้ว ส่วนภูวัวนี้ ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น เกือบทุกพระองค์ ผ่านมาหมดแล้ว
รวมถึงถ้ำวัวแดง มีตำนานเล่าว่า ครูบาวัง ฐิติสาโร ซึ่งเป็น ลูกศิษย์เอก ของท่านพระอาจารย์ เสาร์ กันตสีโล ได้ติดตามครูบาอาจารย์ไปปฏิบัติ ที่ภูลังกา ครั้นครูบาอาจารย์ล่วงลับไปแล้ว ได้ถูกใจกับสถานที่ของภูลังกา กับครูบาวัง มีนิสัยการปฏิบัติ ที่ผาดโผนมาก ชอบไปนั่ง อยู่บนหน้าผา ปลายหน้าผา ที่มีก้อนหิน ยื่นออกไปแค่ 2-3 ฟุต ซึ่งถ้าพลาดนิวรณ์ 5 เข้า เท่ากับแจ้งตาย ตัวสติต้องตื่นตลอด แถมลมกระโชก ท่านไม่ได้นั่งแค่ 2-3 ชั่วโมง แต่นั่งกันเป็นวัน ข้ามวันข้ามคืน การปฏิบัติของครูบาวังก้าวหน้า เพลิดเพลินในความสงบสงัด แทบจะปราศจากอาการหิว อาการง่วง อาการอ่อนเพลีย จิตชุ่มชื่นเบิกบาน จนไม่รู้ วันเวลา อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับรูปธรรม นามธรรม อยู่กับแสงเดือนแสงดาว จิตมีแต่สงบ ประณีต ละเอียดมากขึ้นตามวันเวลา
เคยมีงู ขนาดเท่าโคนขา มีหงอกสีแดง ออกมาฟังธรรม กับพระคุณเจ้า อยู่มาคืนหนึ่ง …. จะเข้าเรื่อง กิน ไม่กิน เนื้อสัตว์ แล้วนะ
ได้มีแม่ชี 5 รูป เดินตรงเข้ามาหาครูบาวังขณะที่นั่งปฏิบัติธรรมอยู่ด้วยอาการสำรวม กริยาอ่อนน้อม เมื่อมาถึงเบื้องหน้าครูบาวัง ได้พากันก้มลงกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ อย่างงดงาม ซึ่งครูบาวัง ออกจะตกใจ คิดว่าแม่ชีที่ไหน มาทำอะไรบนนี้ พลันหันซ้ายหันขวาเกรงว่าตนจะเสื่อมเสีย เพราะไม่มีใครอีกเลย “ไม่ต้องห่วง เราไม่ใช่แม่ชีหรอก” ผู้ที่เหมือนเป็นหัวหน้าแม่ชีตอบ เพราะรู้วาระจิตของครูบาวัง เรามาอนุโมทนาบุญกับท่าน กับอยากจะเตือนท่านว่า “สถานที่นี้เต็มไปด้วย เทพ และพรหม เขาลงมาใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมกัน” ครูบาวังกำลังคิดว่า แล้วพวกท่านเป็นใคร แม่ชีตอบเองว่า “เราเป็นพรหม ที่ลงมาปฏิบัติธรรมกัน ท่านพูดต่ออีกว่า เพราะชั้นพรหมที่เราอยู่ มีแต่เสพย์ทิพย์วิมานความสุข หาสนามทดสอบ อุปสรรค ความลำบาก กิเลสใดๆ มาเป็นครูสอนให้จิตพวกเราก้าวหน้าไม่ได้เลย จึงพากันติดอยู่แต่ตรงนั้น จึงพากันลงมาตามที่ต่างๆ ของพื้นโลก เราจะขอเตือนท่านว่า ทุกคนที่มาที่นี่จะต้องเคร่ง กับเราขอให้ท่าน ละ เลิกเนื้อสัตว์ทุกชนิด จึงจะอยู่ที่นี่ได้ “ท่านคิดในใจว่า ถึงเวลาแล้วท่านตั้งใจว่าจะเลิกอยู่พอดี กล่าวจบ แม่ชีทั้งหมดได้กราบอย่างงดงามบนพื้น กล่าวอำลาท่าน แล้วถอยหลังออกไปอย่างสง่างาม แช่มช้า เหมือนเท้าไม่ได้สัมผัสกับพื้นแล้วหายไปในอากาศ ต่อหน้าต่อตา ทีนี้มีคำตอบว่า พระป่า สายหลวงปู่มั่นแทบทุกพระองค์ จะหลีกเลี่ยง การกินเนื้อสัตว์กัน เพราะพระเหล่านี้ ต้องการ จะบากหน้า ตะเกียกตะกาย เข้าสนามประลองกันให้ได้ ดังนั้นโดนไฟลท์บังคับ ความจำเป็นมันมี จำต้องสะอาดทั้ง รูปธรรม นามธรรม กายกับใจ ต้องชะล้างกันอย่างดีมาแล้ว กายต้องปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด หากยังกินเนื้อสัตว์ ฆ่าสัตว์อยู่ หมายถึงศีลยังไม่บริสุทธิ์ ก็เอาชีวิตไปทิ้ง พระคุณเจ้าเหล่านี้เหมือนจะรู้กันก่อนแล้วตระเตรียมกันมาอย่างดีว่า หากละเนื้อสัตว์ทั้งหมด อานิสงส์จากการละเนื้อสัตว์ 10 ข้อ (ไปหาอ่านเอง) แล้วยังจะทำให้การเจริญธรรม ข้อพรหมวิหาร 4 มันง่ายเข้า คือตัวเมตตา ต้องมี เราเคยสอนนักเรียนในชั้นแล้วว่า พระที่จะพากันเข้าป่าดิบ หากไม่มีตัวเมตตา เข้าไม่ได้ เข้าไปก็ไปตาย กับพระคุณเจ้าเหล่านี้รู้กันอีกว่า ทุกดวงจิตวิญญาณในป่านั้นไม่ว่า คน สัตว์ ผี ภพภูมิไหนๆ เขาจะรู้เลยว่า นี่กายยังสกปรกด้วยเนื้อสัตว์อยู่ ก็เท่ากับแจ้งตายอีก
สำหรับคำแนะนำ ที่เราให้ต่อศิษย์นั้น ไม่เพียงแต่แนะนำ การสอนวิปัสสนา ของสายพระป่า ท่านสอนกันด้วย วิธีทำให้ดู ทำให้รู้ ทำให้เห็น แล้วให้ศิษย์ทำตาม แต่พอจะรู้จริตของศิษย์แต่ละคนได้ว่าใครมีสิทธิ์ ชาตินี้สุดท้าย
ถ้าใครที่มีครอบครัว ลูกผัวเป็นตัวตน ก็เอาแค่ปิดอบายภูมิกันให้ได้ในชาตินี้ แม้เพียงแค่พระโสดา
ก็รับประกันแล้วว่า ที่ที่จะไป และที่ที่จะได้ลงมาเกิดใหม่ เพื่อต่อยอดนั้นต้องดีแน่ ศิษย์คนไหนที่มองเห็นทุกข์ ไม่อยากมาเกิดให้ทุกข์อีก หวังเอากันชาตินี้สุดท้าย เราก็จะแนะให้ เข้าศีล 8 เพราะอานิสงส์ จากการเข้าศีล 8 และเนกขัมมะ หากข้ามได้สูงมาก หมายถึงไปครึ่งทางเลย ได้พระอนาคามี ก็ไม่ต้องมาเกิดอีก

พระพุทธรูปองค์นี้ พระอาจารย์ฝั้น เป็นผู้ปั้นทิ้งไว้เป็นมรดกล้ำค่าที่ภูวัว
การที่ลดเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ได้ตัว เมตตาเจโตวิมุตติ เพื่อนำไปใช้ธุดงค์ในป่าอย่างเดียว แต่สำหรับฆ่าแม่ทัพกิเลสที่ชื่อโทสะอีกด้วย
แล้วเมตตาเจโตวิมุตติ ได้อย่างไร ดีอย่างไร ก่อนที่จะได้ เมตตาเจโตวิมุตติ มา คนนั้นต้องเจริญธรรมข้อ พรหมวิหาร 4 ก่อน เริ่มด้วยหัดรักและสงสารตนเองก่อนให้มากๆ ตระหนักว่าการได้มาเกิดเป็นมนุษย์นี้ แสนจะทุกข์แค่ไหน เกิดเป็นสัตว์มันยังไม่ทุกข์เท่าเกิดเป็นคน กับหัดรักสงสาร คนอีก 4 เหล่า เช่น คนที่เราไม่ชอบ ศัตรูของเรา คนที่เราชอบ เหล่านี้ไปหาอ่านเอง แล้วต้องละเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพื่อให้ได้อานิสงส์จากการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติ รวมถึงกายเราสะอาดแล้ว ที่เหลือก็ลงกับจิตกันอย่างเดียว ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง กับฐานสมาธิของคนนั้นต้องแน่น แล้วกำหนดจิตได้ทุกเมื่อ กับสามารถเข้าสมาธิได้ถึงฌาน 4 เพราะคนที่จะได้ เมตตาเจโตวิมุตติ พลังจิตต้องมาก อำนาจจิตต้องคงที่ ซึ่งจะได้มาจากฐานของสมาธิ ที่มั่นคง เพราะเมื่อเข้าสมาธิ ถึง ฌาน 4 หรืออัปปนาสมาธิแล้ว กายกับจิตแยกจากกัน จิตตอนนั้นจะเข้าสมาธิลึก พร้อมกระแสเมตตาที่สั่งสมมา จะแผ่ซ่านไปในปริมณฑลที่ไม่มีขอบเขต ใครที่พลังจิตมาก สามารถไปถึงสามภพสามภูมิ อย่างไม่มีขอบเขต เพราะเมื่อเข้าสมาธิ ถึงฌาน 4 จิตขณะนั้นจะปราศจากกิเลสทุกตัว ด้วยอำนาจแห่งฌาน 4 จะกด บดบังกิเลสทุกตัวได้ทั้งหมด ไปชั่วขณะ จะมีสภาพเหมือนจิตของผู้ เข้าสู่พระนิพพานในชั่วขณะ กระแสของเมตตาเด่นที่สุด เพราะการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน ที่สุดแล้วจะเหลือธรรมข้อเมตตา ที่เด่นที่สุดทุกคน ขึ้นอยู่กับใคร จะมากน้อยกว่ากันแค่ไหน ด้วยจิตตานุภาพแห่งพลังความเมตตา ของคนผู้นั้น ในยามนั้น พลังแห่งเมตตาเจโตวิมุตติ ที่ทรงพลังมากมีกระแสที่ชุ่มชื่นเยือกเย็น เป็นพลังเย็นโดยตรง ยิ่งของใครเย็นสบายมาก ยิ่งเป็นใบเบิกทาง สู่ป่าดงดิบ ป่าอาถรรพ์ ทุกป่าว่ามาเถอะ แม้แต่ป่าช้า เป็นเรื่องจิ๊บๆ ยังบดบังความกลัวให้มลายหายไปจากจิตได้อย่างมหัศจรรย์ ยังจะทำให้ทุกสรรพสัตว์ ทุกภพทุกภูมิ สิงสาราสัตว์ ยักษ์ เปรต บังบด ลับแล นาค ทุกดวงจิตวิญญาณ เมื่อได้กระทบสัมผัสกับพลังแห่งเมตตาเจโตวิมุตติของผู้นั้นแล้ว ต่างจะโดนมนต์ บทนะจังงัง คือต่างจะมีอาการอิ่มเอิบ ปีติ ชุ่มชื่น สงบ เยือกเย็น ฉงนฉงาย ต่างจะเย็นกายเย็นใจเหมือนได้ เสวยความสุขอันยิ่งกว่าทิพย์วิเศษ ไม่เคยสุขเท่า สัมผัสเท่ามาก่อน จะเกิดไมตรีจิตมิตรภาพ รักใคร่ผู้ทรงศีลผู้นั้น จะไม่กล้ำกรายเข้ามาทำร้าย ต่างจะพากันเปิดทางให้หลีกหนี กันให้พ้นทางทั้งหมด ส่วนวิญญาณพระป่ารูปก่อนๆ ที่ไปตายติดอยู่ก่อนนั้น ก็จะมาอนุโมทนาบ้าง ขอส่วนบุญบ้าง บอกทางออกป่าให้บ้าง ให้ความช่วยเหลือ ยังมีลับแล บังบดพากันมาใส่บาตร เพราะอยากได้บุญ มีแต่ได้กับได้ ทีนี้เห็นความสำคัญของการทำกายให้สะอาด จากเนื้อสัตว์ละนะ จึงเอวังมาด้วยประการฉะนี้ว่า ใครใคร่ เลิก ใครใคร่ กิน เลือกทางเดินกันเอาเถิด ชีวิตใคร ใครก็รัก กายไม่สะอาด ก็คงเอาจิตให้สะอาดได้ยาก …จริงไหมโยม
ป.ล. พลิกตำนาน…ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ กำลังจะออกเป็นรูปเล่ม จากปากคำบอกเล่าของหลวงปู่ทวด ที่เมตตา เราอย่างสูง หลวงปู่…เปิดเผยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามเณร คนที่ถือดอกมนทาสวรรค์ มาหาหลวงปู่ ร่างกายขันธ์ของทั้ง 2 อยู่ที่ไหน และพระองค์ที่ไปปรากฏที่มาเลเซีย นั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่ ที่ว่าหามร่างท่านไป น้ำเลือดน้ำหนองหยดที่ไหนให้ปักหมุดตรงนั้น ร่างนั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่? หลวงปู่ถอนแล้ววิธีถอนทำอย่างไร? คือไม่อยู่แล้วไม่ปรารถนาพุทธภูมิแล้ว…จะถูกนำมาถ่ายทอด ทุกคำสนทนา กับเรา โดยแบ่งเล่มนี้เป็น 3 หมวด หมวดแรก พลิกตำนานหลวงปู่ทวด หมวดที่ 2 ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว หมวดที่ 3 อาถรรพ์จันทร์โดดเดี่ยว 2 ในเล่มเดียวกัน ผลงานของอ. วารุณี พิทักษ์สินากร ล้วนๆ วางรูปเล่มเมื่อไหร่ จะแจ้งให้แฟนๆได้สั่งจองเพราะจะพิมพ์จำนวนจำกัด