ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 62
- กันยายน 24, 2018
- ตอน ปราสาทมืด

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดมานานเกือบ 15 ปีแล้ว ก่อนที่เราจะย้ายถิ่นฐานมาอยู่เชียงใหม่ ก่อนจะซื้อบ้านบุญรักษา ขณะนั้นเราอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นช่วงของชีวิตที่ประสพความสำเร็จไปแล้วถึง 75% เพราะผลงานเข้าตากรรมการ แม้จะยังไม่ได้ยกระดับตนเองขึ้นมาเป็นครูสอนสมาธิจนสามารถปลดวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรของผู้ที่มาเข้าคลาสได้ แล้วมีโอกาสได้ไปเผยแพร่พุทธศาสนาถึงอเมริกาด้วยการเปิดคลาสใหญ่ๆ ได้ถึง 2 คลาส แม้จะเป็นเพียงผลงานชิ้นเล็กๆ ในสายตาของคนทั่วไป …แต่ มันกลับยิ่งใหญ่มากสำหรับชีวิตของเรา
วันนั้นขณะที่เรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน80 กรุงเทพฯ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “จาน หนูชื่อ ท.นะ ติดตามผลงานของจานมาเป็นสิบปีแล้ว …ตั้งแต่จานอยู่อเมริกา หนูกับครอบครัวอยู่ศรีสะเกษ มีปัญหาใหญ่มากเกิดขึ้นทางครอบครัว อยากเชิญจานมาช่วยดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน” หลังจากคุยกันอยู่พักหนึ่งเราตกลงไปเพราะเธอเป็นศิษย์เก่าออกมาจากก้นกรุนับสิบปี กับเพราะไม่เคยไปเที่ยวอีสานแถบนั้น ก่อนวางหู เธอได้เตือนมาว่า “จาน ครอบครัวหนูเล่นของ ทำของกัน กับต้องคำสาบ จานกลัวไหม จานจะเปลี่ยนใจไหม?” คำเตือนของเธอทำเราชา วาบ ขนลุกซู่ชูชันขึ้นมาชั่วขณะ แต่เราก็ยังยืนยันคำเดิมเพราะถอยไม่เป็น เมื่อเราตกลงนัดแนะกันแล้วโดยเราจะโดยสารรถบัส ไปลงที่สถานีขนส่งในตัวเมืองศรีสะเกษ เธอจะส่งรถมารับ เราตกลงจะค้างที่บ้านเธอ 2 คืน ในตอนแรก เธอเล่าต่ออีกว่า “ครอบครัวหนูอยู่ใจกลางตัวเมืองในเนื้อที่ 7 ไร่ ทางครอบครัว บรรพบุรุษของพ่อมีแก้วแหวนเงินทอง รวมทรัพย์สมบัติอย่างอื่นที่มีค่าอีกมากมาย แต่เกิดการแย่งชิงกันระหว่างพี่น้อง แต่พ่อของคุณ ท. เป็นพี่ชายคนโต จึงเป็นผู้เก็บอัญมณีทั้งหมดไว้เพื่อจะแบ่งให้น้องๆ โดยผู้เป็นพ่อนำลังสมบัติ ขนาดย่อมๆ ไปเก็บไว้ในห้องพระขนาดใหญ่ แล้วปิดประตูซึ่งเป็นไม้หนาทั้งแผ่นต่อกันอย่างแข็งแรง แบบปิดตายคล้องกุญแจดอกใหญ่ ห้องนี้โดนปิดตายมาเป็น 10 ปี จนผู้เป็นพ่อละขันธ์ไปแล้ว หายไปพร้อมกับลูกกุญแจ พวกพี่น้องพยายามหาลูกกุญแจอยู่หลายปีก็ไม่เจอ ครั้นจะแงะงัดห้องออกมา ก็กลัวปัญหาว่าถ้าเจอลังสมบัติอาถรรพ์นั้นแล้ว จะฆ่ากันตาย จึงลงมติกันว่าปิดตายมันไว้อย่างนั้นแหละ แต่แน่นอนญาติบางส่วนที่ขัดแย้งอย่างรุนแรง ตกลงกันไม่ได้จึงมีการงัดเวทย์มนต์คาถานาๆ ชนิด คุณไสยศาสตร์ดำออกมาสาดใส่กันอย่างไม่มีการเกรงใจ มีเท่าไหร่งัดไส้งัดพุงกันออกมาใช้กันอย่างไม่อั้น เป็นที่รู้ๆกันว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ เป็นดินแดนของชาวเขมรอพยพอยู่กันเป็นส่วนมาก พวกอวิชชาหรือศาสตร์ดำแทบจะเป็นวิชาบังคับของชุมชนแถวนั้นไม่ได้ถือเป็นเรื่องแปลก จนบ้านหลังนี้ มีผีเดินกันยั้วเยี้ย ไม่มีใครกล้าเข้าไปอาศัยอยู่ คุณ ท. ยังกล้าจะบอกเรามาล่วงหน้าอย่างไม่เกรงใจอีกว่า “บ้านแรงมากเลยจาน จานมาดูเอาเองก็แล้วกัน ล่าสุด มีคนขับรถขนของ ที่รู้จักมักคุ้นกันมานานแรมปี เขาจึงยอมให้มาค้างแรมด้วยโดยให้ไปนอนในบ้านหลังสวน ที่เปลี่ยว รกร้างมานานถูกปกคลุมไปด้วยเถาไม้เลื้อย ต้นไม้ใบหญ้ามืดครึ้มจนแทบจะหาเนื้อไม้ตัวฝาบ้านของบ้านหลังนั้นไม่เจอ คนขับรถ ถูกลากแขนลากขาไม่ยอมให้นอน จากวิญญาณของนางตานี ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งของเจ้าที่ ที่มีอยู่มากมายในรั้วบ้านแห่งนั้น” จากคำบอกเล่าของคุณ ท. ทำให้เราเกือบจะถอนตัวแล้ว แต่ด้วยความอยากรู้ อยากลอง อยากเห็น กับนิสัยสันดานที่ถอยไม่เป็น แต่ที่ไม่แน่ใจอยู่อย่างหนึ่งคือเราจะอยู่ที่นั่นครบ 2 คืนหรือเปล่าเท่านั้น อาจจะเผ่นตั้งแต่คืนแรกทีเดียว

เมื่อวันนัดมาถึง รถบัสพาเรามาลงที่สถานีขนส่ง จ.ศรีสะเกษ ตรงตามเวลา โดยคุณ ท. ส่งพี่ชายอายุไร่เรี่ยกับเรา ขับรถกระบะ มารับ เมื่อต่างฝ่ายต่างแนะนำตนเอง แล้วเขาเหวี่ยงกระเป๋าใบเดียวของเราไปทางท้ายรถ ชั่วระยะเวลาบุหรี่ไม่ทันหมดมวน เขาก็พาเรามาถึงจุดมุ่งหมาย เพียงแค่รถจอดหน้าประตูบ้านที่เป็นซุ้มไม้ หนาทึบจนบดบังตัวตึกที่อยู่ภายในไม่เจอ
เขาลงไปเปิดประตูรั้วบ้านแล้วพารถกระบะคันนั้นเข้ามาจอดระหว่างตึก 2 หลัง ตึกหลังซ้ายมือ มันไม่ใช่บ้าน แต่เป็นตัวตึกขนาดสามชั้น เหมือนโรงแรมขนาดย่อมๆ เพียงแต่มันเก่าคร่ำคร่า ด้านข้างตึกตรงที่จอดรถฝั่งซ้ายมือนั้น ผนังตึกด้านนั้นถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ สูงเป็นแนว 5-6 ต้นยืนตัวทะมึนเบียดตัวตึกไปตลอดแนว โดยฝาตึกด้านนี้เต็มไปด้วยหน้าต่างกระจก ไปทั้งแถบอย่างเกินความจำเป็น ถ้าตกดึกมาใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในห้องนั้นได้ จิตจะต้องแข็งอย่างมากมิฉะนั้นอาจไม่รอดชีวิตมาจนถึงรุ่งเช้าได้ ด้วยอาการหัวใจวายตายซะก่อน กับเราภาวนาอยู่ในใจเงียบๆ ว่า “ อย่าให้ตูต้องเข้าไปซุกหัวค้างคืนอยู่ในห้องนั้นเลย …. สาธุๆๆ ” ฝั่งด้านขวามือที่เขาจอดรถ เป็นตึก ที่ยังสร้างไม่เสร็จค้างเติ่งอยู่ โดยตึกชั้นแรกที่ติดพื้นดินถูกแบ่งเป็นคูหา หรือห้อง 5 ห้อง ที่กลวงว่างเปล่าเข้าไปข้างใน พื้นเพดานด้านบนเหมือนกำลังจะต่อขึ้นชั้นสอง ที่เห็นเพียงเสาปูชี้ขึ้นไปในอากาศเบื้องบน พร้อมเหล็กลวด รกรุงรังติดอยู่กับเสา ค้างอยู่กว่า 10 เสา จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ขัดต่อหลักของ ฮวงจุ้ย อย่างแก้ไขใดๆ ไม่ได้ …. ต่อตอน 2