ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 86
- มกราคม 30, 2019
- ตอน มารศาสนา 2

ที่ร้านเจ๊นา หลังจากไปเปิดร้านให้สว่างไสวยิ่งกว่าเดิม เธอบอกขายดี ดีกว่าเก่าเลยอาจาน ขอบคุณมากๆ วันนี้อยากกินอะไรหนูจัดฟรี เจ๊นาเลยโดนเราเทศน์ไปอีกหลายตลบ ว่าจำเอาไว้ของซื้อของขายอย่าให้ฟรีเด็ดขาด มื้อนั้นเราจ่ายเธอ 200 บาท แต่เพราะเธออยากทำบุญ เราจึงบอก งั้นเอากับข้าวมาฟรีหนึ่งถุงพอ เรากับนิชาวัลย์จะทานพรุ่งนี้ เราว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว
ขณะนั้นตรงกับวันที่ 24 มกราคม 2019 เราอยู่ระหว่างพักฟื้นจากการเหนื่อยสะสมยาวที่บ้านบุญรักษา จำได้ว่า มันเป็นครั้งแรกที่ได้เสวยสุขพักอยู่ที่บ้านช่วงฤดูฝนชนฤดูหนาวเลยทีเดียว เรียกว่ายาว เพราะคุณแม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว หมดภาระบ้านที่กรุงเทพฯแล้ว จึงให้เวลาในการพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จะมีนิชาวัลย์ บินมาจากกรุงเทพฯทุกเดือน เธอรักบ้านนี้มากเพราะเงียบสงบ มีเสียงนกเสียงกา ไม่มีมลภาวะจากอะไรทั้งสิ้นอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนชนหนาว เราจึงลากยาวอย่างสาสมสะใจ แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่เฉยๆ เพราะจัดบ้าน เก็บบ้าน พิมพ์บทความ เตรียมการสอน เดือนพฤษภาคมก็ต้องเตรียมตัวเดินทางไปหาดใหญ่ เขาเชิญไปเปิดคลาสสมาธิที่นั่น ค่าตั๋วค่าที่พักทุกอย่างออกให้หมด 2 ที่
เดือนเมษายนที่จะถึง เรากับคณะศิษย์เตรียมตัวไปกางเต้นท์ปฏิบัติธรรมกันในป่า ที่ดอยผาแดง เชียงดาว ปลายเดือนพฤษภาคม เรากับนิชาวัลย์มีหมายกำหนดการณ์เดินทางไปซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ขณะที่พิมพ์งานอยู่นี้ เจ้าปุ้ม เขียนไลน์มาว่า “ จาน หนูขอเบอร์โทร หนูอยู่ร้านเจ๊นา ชีอยากคุยกะจาน” “เออ… ตูรู้ ชีอยากพบตูนานแล้วนี่ แต่ตูไม่ว่างเลยกับบอกเจ๊ว่า …ตูไปหา เจ๊ 2 หน เจ๊ไม่อยู่ เอางี้ปุ้ม พาเจ๊นามาหาเราที่บ้านบุญรักษาเลย” “จานอยู่บ้านนะ” “เออ …พิมพ์งานอยู่ อยู่ทั้งวันมาเถอะ” นัยว่าวาระเวลาเจ๊นามาถึงแล้ว จิตจับได้ว่า เธอทุกข์มาก ร้อนมาก” ปุ้มพาเจ๊นามาหาเราตอนบ่ายโมงแก่ๆ สีหน้า ท่าทางอิดโรยท้อแท้กับชีวิต จิตเราจับได้นานแล้วว่า ร้านเธอมืดเหมือนอะไรบังอยู่

(อาฉาง เป็นมังกรตัวที่พระโพธิ์สัตว์กวนอิมใช้เป็นพาหะ พระองค์ทรงมีเมตตาต่อเรามาก เป็นข้อตกลงที่จะรู้กันระหว่างเรากับพระองค์เท่านั้น เรามอบอาฉางให้เจ๊นาไปหนึ่งตัว พร้อมอธิษฐานจิตให้ หางของอาฉางจะเป็นสีแดง แล้วใช้ปัดปกป้อง สิ่งสารพันชั่วร้ายต่างๆ)
อันเกิดจากการเล่นของ ทำของเพราะเรายังไม่รู้สาเหตุที่มาที่ไป จึงเงียบไม่พูด คิดว่าเธอโดนหนัก หลายด้านด้วย ปุ้มตรงเข้าไปกราบพระ ให้เจ๊นามานั่งคุยกับเรา “จาน หนูขายของไม่ได้เลย เด็กที่ช่วยขายของก็หายหน้าหมด หนูเหนื่อยมาก หนูว่ามีคนแกล้งร้านหนู กับครูบาอาจารย์หนูก็วุ่นวาย หนูนึกไม่ถึงเลยว่าครูบาอาจารย์หนูแต่ละคนจะมีปัญหาอะไรบ้าๆ อย่างนี้ เรียกใช้แต่หนู ให้หนูไปถอนหญ้ามั่ง มีงานอะไรที่ไหนก็ให้หนูทำอาหารไปให้มั่ง หนูเหนื่อยเด็กที่ร้านก็หายหมด ไม่มีใครเข้าร้าน มีแต่เดินมาดูของ จับของ แต่ไม่ซื้อเดินเลยไปร้านอื่น”
เรื่องร้านก่อน ข้าเห็นดำไปหมดมีคนแกล้งเอง “ใช่จานหนูไปนั่งกินทีไร หายใจไม่ออกเหมือนจะอ๊วกกับเหมือนมีคนเอาข้อศอกมากดไหล่หนูไว้ยอกไปหมด” สาวปุ้มเป็นขุนพลอยพยัก พูดเสริมขึ้นมา แต่ที่ปุ้มพูดเธอโดนจริงๆ เพราะตามพื้นดวงเธอเธอจะสื่อกับพวกนี้ได้ กับโดนผีเข้าผีหลอกประจำ บางทีขับรถกลับบ้านก็จะเห็นยืนดักยืนรอเธออยู่ มาทั้งตัว ไม่ครบตัวบ้าง เอาเป็นว่าสาวปุ้มเห็นตรงกับเรา “เนี๊ยะ จานหนูเบื่อครูบาอาจารย์หนูกลุ่มนี้แล้ว พอดีเมื่อคืนหนูฝันเห็นครูบาอาจารย์อีกคนใส่ชุดขาว บอกให้หนูไปหา” “พอ ไม่ต้องไปหาใคร เอ็งหาตัวเองให้เจอก่อน หาตัวเองเจอแล้วค่อยไปหาคนโน้นคนนี้ กับจะบอกให้นะครูบาอาจารย์ที่ดีที่สุดอยู่ในตัวเราเอง กับครูบาอาจารย์กลุ่มเดิมของเอ็งน่ะนะ นา ข้าจะบอกให้นะแต่ละคนนรกทั้งนั้น มารศาสนา มีแต่จะเอา ศีลก็ไม่บริสุทธิ์สักคน กับข้าอยากรู้เอ็งไปยุ่งกับพวกมันทำไม ลูกผัวเอ็งก็มี ทำไม่ไม่ดูแลลูกดูแลผัว กับครูบาอาจารย์เอ็งกลุ่มนั้นนะ คบมา 14 ปีแล้ว เอ็งได้อะไรจากพวกมันบ้าง ทำไมไม่ทำมาหากินอยู่กับร้าน อยู่กับบ้าน ไปยอมให้เขาหลอกเอ็งหมด กับเสียเงินไปกับมารศาสนาพวกนั้นเท่าไหร่แล้ว” เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “ใช่อาจารย์ หนูรู้จักครูบาอาจารย์พวกนั้นมาสิบกว่าปี ธรรมะสักคำไม่เคยสอนหนูเลย มีแต่เรียกหนูไปใช้งานบ้าง ทำอาหารเจส่งฟรีๆ บ้าง” “เอ็งมาบ้านบุญรักษา นั่งคุยกับข้า ให้ข้าอบรมแค่หนึ่งชั่วโมง เอ็งยังได้มากกว่าไปคบพวกเปรตพวกปลิงมารศาสนานั้นสิบกว่าปี” “ใช่อาจารย์ หนูทุกข์มาก” “แล้วทุกข์ของพวกมันเอ็งเอามาแบกไว้ทำหอก ทำไม มันใช่ธุระของเอ็งเหรอ ภาระหน้าที่เอ็งต่อครอบครัวเอ็งทำไมไม่ใส่ใจ เอ็งรู้ไหม เงินแต่ละบาทที่เอ็งจะทำมาหามาได้ เหนื่อยแค่ไหน กับนำไปทำบุญกับพวกมารศาสนานั้น เอ็งได้เท่าไหร่ แถมโดนเศษกรรมอีก จำได้ไหม พระพุทธองค์สอนว่าไง ทำบุญกับคนธรรมดาได้บุญแค่ไหน ทำบุญกับคนทุศีลได้บุญแค่ไหน ทำบุญกับพระอริยะบุคคลได้บุญแค่ไหน ควรหรือไม่? เพราะเงินทุกวันนี้หาง่ายหรือยาก แล้วเอ็งเอาไปให้พวกมารศาสนา แทนที่จะได้บุญ แถมติดเศษกรรมมา” “นี่ๆๆ แหละอาจารย์ ทำไมครูบาอาจารย์พวกนั้นของหนู ทำไมไม่สอนหนูอย่างนี้มั่ง”
“แล้วเอ็งตื่นหรือยัง สว่างหรือยัง” “นี่ๆๆ หนูอยากได้อย่างนี้มั่ง อย่างปุ้ม จะได้ไปแคมป์กับอาจารย์ อยากไปกับอาจารย์มั่ง เมื่อไหร่หนูจะได้” “ก็แล้วใครไปมัดมือมัดตีนเอ็งไว้ล่ะ เอ็งอยากไปก็ไปสิ ข้าไม่ได้ห้ามจิตใจเอ็งดี ไม่เช่นนั้นไม่มาพบข้าหรอก” “หนูติดภาระอีก 2 ปี รอให้หนูมีอิสระ ลูกหนูอายุ 16-17 ปี ขับรถเองได้ก่อน นี่พ่อเด็กมันไม่ยอมให้ลูกหนูขับรถ หนูเลยต้องดูลูก เปิดร้านไปก่อน” “เอาป็นว่าวาระเอ็งยังมาไม่ถึง แล้วไม่ต้องไปหาใครมาเป็นครูบาอาจารย์จนกว่าเอ็งจะหาตัวเองให้เจอก่อนรู้ไหม แล้วที่ร้านเอ็งนะ นี่พวกมันก็ฟังอยู่ด้วย ( ขณะพูด เราส่งจิตไปที่ร้านเลย ) อย่าให้ข้าต้องไปถึงร้านนะ ไม่ได้มีเวรมีกรรมต่อเจ๊นาเขา เขาเป็นลูกศิษย์ข้า วิบากกรรมของพวกเอ็งก็สาหัสอยู่แล้ว อยากจะต่ำลงไปกว่านี้อีกหรือ ข้าสงสารในชะตากรรมของพวกเจ้านะ เลิกราเลิกแล้วกันไปซะ มาทางไหนพวกเอ็งกลับไปทางนั้นเลยนะ เดี๋ยวข้าจะให้อาฉางไปเฝ้าที่ร้าน ขอบารมีของพระโพธิ์สัตว์กวนอิมไปช่วยเอ็ง “เอ้า ของฝาก ที่เอามาให้เอ็ง เงินที่เองทำบุญไปช่วยพระโพธิ์สัตว์ ท่านอนุโมทนามา ทุกอย่างจะเรียบร้อย”

(อาฉาง เป็นมังกรตัวที่พระโพธิ์สัตว์กวนอิมใช้เป็นพาหะ พระองค์ทรงมีเมตตาต่อเรามาก เป็นข้อตกลงที่จะรู้กันระหว่างเรากับพระองค์เท่านั้น เรามอบอาฉางให้เจ๊นาไปหนึ่งตัว พร้อมอธิษฐานจิตให้ หางของอาฉางจะเป็นสีแดง แล้วใช้ปัดปกป้อง สิ่งสารพันชั่วร้ายต่างๆ)
“ โล่งเลยอาจารย์ จานไม่ต้องไปที่ร้านแค่โปรดจากบ้านบุญรักษา ” เรากับ เจ้าปุ้ม ใช้จิตมองตามไปดูที่ร้านเห็นวิญญาณวิ่งกันล้มลุกคลุกคลาน ทันทีที่รู้ว่าอาฉางจะมาประจำที่ร้าน ต่างหอบเสื่อสาดหนีกันกระเจิง “ ตื่นแล้วนะนา ล้างแล้วนะ ออกจากบ้านข้าไปเป็นคนใหม่ อย่าไปให้ใครมาหลอกกินหลอกใช้อีก ” “ หนูสว่างเลยอาจารย์ เรื่องร้าน หนูก็รู้ว่าร้านไหนทำ บางทีหนูเปิดเพลงสวดมนต์ดังๆ เขามาแกล้งกรีดร้านหนู ยกเครื่องเสียงหนูไป 2 ตัวละ ” “ แต่นี้ไปเปิดดังเพียงพอฟังกันในร้าน ไม่ต้องดังมาก จงดังแต่อย่าเด่น จะเป็นภัยรู้ไหม ยิ่งเราขึ้นสูงแค่ไหนเรายิ่งต้องทำตัวให้ต่ำลงๆมากแค่นั้น ” เจ๊นาก้มลงกราบเราที่ตัก อีก 2วันต่อมา เราโทรไปหาเจ๊นา “ เอ็งดีขึ้นไหม ” “ จานดีมากพรุ่งนี้หนูจะมีเด็กมาช่วยละ หนูไม่อยากเชื่อเลย ” “ บารมีท่าน ” เราพูดแล้วชี้ไปที่หิ้งพระที่มีพระแม่กับอาฉางประดิษฐานอยู่
จากนั้นอีก 2 วันเราไปรับนิชาวัลย์ที่สนามบิน แล้วพาไปกินข้าวที่ร้านเธอ ไปกรวดน้ำให้ หลังร้านเธอมีจานเล็กๆใส่อาหารให้หนูจรจัดกับนกมากินทุกวัน ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่หลังร้านสุดไม่เกี่ยวกับหน้าร้าน หนูพวกนี้เชื่อง อยู่เป็นที่ จะกินเฉพาะอาหารที่วางให้ในจาน
สาเหตุเพราะร้านเธอขายดีกว่าทุกร้าน เพราะเธอทำบุญตักอาหารมือหนัก ให้มากแถม มีแถมพิเศษอีก พวกครูบาอาจารย์ของเธอ พอรู้ว่าร้านเธอโดนทำของ ดวงเธอตก นรกพวกนั้นหายหน้าไปหมด ไม่โผล่มาเลย ซึ่งอีกไม่นาน เมื่อรู้ว่าร้านเธอกลับมาขายดีกว่าเก่า เปรตปลิงพวกนี้จะแห่กันมาอีก ซึ่งเราได้กำชับไว้แล้ว ว่า “อย่าให้ข้ารู้นะ ว่าให้พวกมันกินฟรีใช้ฟรีอีก ถ้าข้ารู้ ข้าจะไม่กลับมาหาเองอีก หมายถึงเอ็งก็จะกลับไปเป็นอย่างเดิม ให้พวกมารศาสนาจิกหัวใช้ฟรี กินฟรีอีก ธรรมสักข้อใน 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยสอนเอ็ง อย่าให้รู้นะ กับไม่ต้องให้ใครบอกข้ารู้ของข้าเอ็ง เข็ดไหม เข้าใจไหม” “หนูไม่เอาแล้ว” แต่เราคิดว่ามันยังไม่จบ แม้บทนี้จะจบแล้วก็ตาม
