ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 140
- กุมภาพันธ์ 3, 2020
- ตอน ธรรมะรอบกองไฟ 3

เรื่องที่ประสบมาเป็นเรื่องของพลังจิตจากครูผู้สอนสมาธิ ที่ไม่มีครูผู้สอนที่ไหนสามารถเข้าได้ถึง แต่จะเก่งกันมากเรื่องภาพลักษณ์ และพุทธพานิช เอาครูบาอาจารย์มาเป็นเครื่องมือหากิน ทำกันอย่างอลังการณ์ เห็นปริมาณนักเรียนมากมาย แต่หาคุณภาพใดๆไม่ได้เลย ที่กล้าพูดเพราะไปเจอนักเรียนของคลาสนั้น คนหนึ่งมาแล้ว เธอมาเข้าคลาสเรา แค่เรานั่งเบื้องหน้าเธอ เห็นสภาวะจิตเธอร้อนไปหมดดำมืดด้วยวิบาก ยังไม่ได้ถามวันเดือนปีเกิดเธอเลยด้วยซ้ำ เธอบอกเธอเรียนของจิตตานุภาพจบเป็นขั้นๆๆๆ ซึ่งเธอผ่านมาหมดทุกขั้น หา…ผ่านเหรอ นี่ขนาดผ่านนะแล้วไอ้ที่ไม่ผ่านจะเป็นอย่างไร จิตเอ็งร้อนไปหมดเอ็งไปทำรัยมา ถามจริงๆเถอะ เอ็ง ชอบทะเลาะกับแม่หรือเปล่า ชีสะดุ้ง ยอมรับ ถามอีกว่า สมัยก่อน เคยเอาลูกออก 3-4 คนด้วยหรือเปล่าเนี๊ยะ จิตเธอไม่สงบเลย แถมให้นั่งสมาธิ แค่ 2-3 นาทีเหมือนจะขาดใจตาย นี่ได้ โยคจันทราแมนกาลาโยค มาด้วยนี่ (เห็นทางจิตยังไม่ผูกดวงเลย) “หนูยอมรับ ที่หนูไปเรียนไม่มีใครได้ ทางสมาธิเลยสักคน กับหนูเคยเอาลูก ออก 3 คนจริง กับแม่ที่หนูทะเลาะด้วยเป็นแม่เลี้ยงหนูเอง” เธอสุดจะตกใจที่เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอหมด หากครูที่สอนดีจริงจะต้องดับร้อนให้เด็กคนนี้ได้ วันต่อไปเธอไม่มาเข้าคลาส เราอีกเลย หาก ใครติดใจอยากรู้ชื่อหญิงผู้นี้ มาถามเราได้
เราเดินตามก้อง กลับเข้ามายังห้องพระ ภาพหงส์ นั่งอยู่กลางห้อง เยื้องจากหิ้งพระมาเล็กน้อย เราทรุดลงนั่งเบื้องหน้าหงส์ ค่อนข้างจะเยื้องมาทางซ้าย ก้องทรุด ลงนั่งเบื้องหน้าหงส์ด้วย แต่ก้องไม่ได้เข้าสมาธิ แต่จับตาดูอยู่ที่เรา เราเพียงแค่กำหนดจิตไปที่จิตของหงส์เพียงแค่ ช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น เราได้เห็นแสงสีดำเป็น ลำลอยขึ้นเบื้องบนศรีษะของหงส์ พร้อมกับตัวอักษรขนาดใหญ่ สะกดรวมตัวกันอ่านออกมาว่า “อวิชชา” ซึ่งเป็นอักษรสีดำตัวใหญ่มาก เต็มจอของเราเลย แล้วอีกคำหนึ่งตามมา ว่า “ตีตรา ของกู” ชั่ววินาทีต่อมา มีพลังอะไรหนักๆ ส่งออกมากระทบอกเรา แต่เพียงเบาๆ พอรู้สึกได้ เพราะพลังของเราที่มากกว่าต้านไว้ จึงแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เราจึงลุกขึ้นเรียกก้องออกมา เข้าไปในห้องนอนเรากับ ซุบซิบอะไรกับก้อง 2-3 คำ ว่า ที่เราเห็น คือ คำว่า อวิชชา กับตีตรา ของกูใครอย่ามายุ่ง หมายถึงปู่ฤษี ของเจ้าหงส์ได้ตีตราหงส์ลงไปแล้วด้วยอักขระ ก้องบอกว่า “ลำแสงสีดำพุ่งมาที่ตัวผมเลยอาจารย์ เป็นกำลังปะทะหวังทำร้ายกันเลย ถ้าใครมายุ่งกับของๆเขา” มันตรงกันทั้งของก้อง กับของเรา เราจึงกลับไปเรียก นักเรียนทุกคนกลับมายังห้องพระหมด เพราะฟ้า บิ้น ผึ้ง คุณ อนงค์ เป็นชาวหาดใหญ่กลุ่มเดียวกับหงส์ ทั้งหมด ให้มาฟังก้องพูด เราประกาศเลยว่า เราขอไม่ยุ่ง อย่ามายุ่งกับเรา โดยเฉพาะของฟ้า เข้ากระดูกแล้วแก้ไม่ได้ ก้องยืนยัน อาการจิตของหงส์ ได้แม่นยำมาก ถามหงส์ ว่า “ระยะหลังๆที่หงส์นั่ง จิตจะเหมือน อะไรมากระทบ จึกๆ ทำให้สะดุ้งนั่งไม่ได้เลยใช่ไหม” หงส์ตกใจมากเพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ “นั่นละครับ เวลา หงส์จะนั่ง เขาจะส่งพลังมา ถ้าจิตมีช่องโหว่เพียงนิดเดียว เขาจะดึงจิตหงส์กลับทันที เราหันไปถามบิ้นว่า บิ้นอยากเป็นอย่างนี้ไหม จะเอาครูคนนั้นอีกไหม หนู บิ้น รีบ เข้ามากอดขาเราตอบ “ไม่เอา หนูจะเอาอาจารย์ หนูกลัว” เพราะสามีของหนูบิ้นอยู่กลุ่มเดียวกัน กับมีครูคนเดียวกันกับถูกดูดทุกอย่างมานานแรมปี งานนี้เจ้าหงส์เครียส แต่ก้อง ได้สอนไปมาก แถม จะไปสอนหงส์ต่อที่วัดในคลาสกางเต็นท์ อีกด้วย ก้องเอง ก็ช่วยหงส์ได้ไม่มากนอกจากแนะนำ ถ้าตราบใดหงส์ตัดใจจากทางนั้นไม่ได้เด็ดขาดแล้ว เขาก็จะปฏิบัติ ธรรม ทำใจให้สงบไม่ได้เลย เรื่องนี้ เราประกาศแล้ว เราไม่ยุ่งให้ก้องจัดการ คืนนั้นคณะของหงส์ที่มาจากหาดใหญ่ ต่างแยกย้ายกันไปนอนที่โรงแรม ที่เรากับนิชาจองไว้ให้ ที่เดียวกับของคุณ อนงค์ กับผึ้งที่พักอยู่ หงส์คงต้องคิดหนัก แต่เพราะเขาขับรถมาจากหาดใหญ่ กับบิ้น แวะรับฟ้าที่กรุงเทพ กับค้างหนึ่งคืนที่กรุงเทพ เขาอาจจะหลับไปอย่างง่ายดายก็ได้…จากความเหน็ดเหนื่อย
เรื่องนี้ ให้เห็นกันว่า ครูบาอาจารย์ของแท้นั้นที่หวังดีต่อศิษย์ จะมีแต่จิตที่คิดแต่จะให้ กับจะช่วยศิษย์ทุกคนในทุกทางที่ทำได้ ครูแบบนี้ ทุกวันนี้หายากมาก ยิ่งไปเจอศิษย์ที่รวยๆฐานะดีเป็นเจ้าของธุรกิจ เงินร้อยเงินล้านอย่างกลุ่มของเจ้าหงส์ มันจะเกาะกับหวงแหนยิ่งกว่า สิ่งใด จะดูดเลือด สูบเลือด สูบพลัง ยิ่งกว่าปลิง แล้วเรียกตนเองว่า ครู มันมีอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้เมื่ออ่านแล้วให้ ระวังกันอย่าประมาท ให้ใช้ปัญญากัน ให้ดี เราคิดในใจเลยว่าคลาสนี้ หงส์กับเจ้าฟ้า มีพลังไม่สู้ดี รวม คุณ นงค์ด้วย ก็มีปู่ฤษี รวมแกงค์ไว้แกงค์เดียวกับของเจ้าหงส์แล้ว เพราะคุณ นงค์ เธอก็เป็นนักธุรกิจเงินล้าน ของหาดใหญ่ กลุ่มเดียวกันกับเจ้าหงส์ เจ้าบิ้น เราจะต้องแยกเต็นท์ ไม่ให้พวกหาดใหญ่ มาใกล้เต็นท์เด็กของตู คิดได้เสร็จสรรพ จึงหลับตานอนลงได้
เช้าวันที่ 20 รถทั้ง 4 คัน คือ สีหมอก เราขับเจ้าแพม กับเจ้าเป้ นั่งมา รถของนิชา มีเจ้า หน่อย รถ เจ้าหงส์ มีเจ้า ฟ้าเจ้า บิ้น คุณ นงค์ เจ้า ผึ้ง รถกระบะของเจ้าปุ้ม มีเจ้ามุก เจ้าบี เต็มไปด้วยสัมภาระเต็มพร้อมกระติกน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่ท้ายรถ งานนี้คงไม่ต้องเติมน้ำแข็ง รอบสองเพราะอากาส 11-14 องศา ได้ขับตามกันออกมาโดยเรานำขบวนจะตรงไปดูสะพานแขวน กันที่เขื่อนแม่กวง ดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า กับแวะรับ เจ้าอู ที่ปากทางเข้าเขื่อนแม่กวง ด้วย รถทุกคันไปจอดที่เขื่อนแม่กวง แม้เจ้าปุ้มจะล่าช้าให้ทุกคนคอย จนเธอคอตกกลัวจะโดนเราดุ ผลปรากฏว่าเรากลับกอดให้กำลังใจเพราะทุกอย่างก็ตามหมายกำหนดแม้เธอจะล่าช้าไปมากก็ตาม หลังจากเก็บรูป ชมบรรยายกาศ ของเขื่อนอ่างเก็บน้ำ กันจนสะใจแล้ว จากนั้นคณะเราทั้งหมด จึงเดินทางไปแม่โจ้ จนถึงน้ำพุ 7 สี เอาตอน 10 โมงเช้า เราได้เข้าไปนั่งกันในวนอุทยาน เริ่มแจกข้าวกล่อง ที่ทางเราเตรียมจัดหามาพร้อมของว่าง ผลไม้ จัดเป็นมื้อ หนักมื้อสุดท้ายที่ได้ทานข้าวก่อนจะล่อกันแต่ กล้วยย่าง มันเผา ในป่า ข้าวกล่องมื้อนี้จากร้านเจ ของเจ๊นา มีหมูเจทอด กับ ลาภเจ คณะเราใช้เวลาทานกันอย่างเพลิดเพลิน แล้วพากันเปลี่ยนชุดขาว เดินเข้าไปชมน้ำพุ 7 สี กับตำนาน ของธิดาบัวแก้วบัวตอง ให้เข้าใจตำนานของสถานที่ที่จะมาปฏิบัติ ธรรมเสียก่อน จึงพากันเคลื่อนขบวน เข้าวัดถ้ำบัวตอง เพื่อถวายต้นผ้าป่ากับปัจจัยให้พระอาจารย์ชำนาญ กันตามหมายกำหนด ซึ่งได้ยอดประมาณ 36000 บาท มอบให้ทางวัดถ้ำบัวตอง ครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งไปวัดต้นเลียบ ของหลวงปู่ทวดที่หาดใหญ่ซึ่งผู้ร่วมมีจิตศรัทธาครั้งนี้จะได้บุญ 2 เด้ง
เมื่อมาถึงวัด หลังเพล คณะเราทั้ง 15 คนพากัน นำนกยูงต้นผ้าป่าที่ขอยืมมาจากทางวัด ซึ่งบัดนี้ นกยูงตัวนี้ ถูกประดับไปด้วยธนบัตร ใบสีแดง สี น้ำตาล เต็มไปหมดงดงามมาก เจ้าอาวาสหวังไว้แค่ 1500 แต่กลับเป็นยอด หมื่นกว่า ท่านขอไปจ่ายค่ารถเกรดดิน ถางหญ้าให้คณะเราทันที กับเราตกลงกับท่านไว้ว่า ตอนกลางวัน ท่านจะเทศให้เด็กเราฟังได้ ตามสะดวก แต่กลางคืนเราจะแสดงธรรมให้เด็กเราฟังรอบกองไฟ ท่านโอเค เลย แต่ภายหลังคือเย็นวันนั้นขณะที่คณะเรากางเต็นท์ส่วนที่เหลือกันหมด พระอาจารย์ท่านมาดู เผื่อขาดเหลืออะไร ยังให้กุญแจกุฐิ พระที่ว่าง 2 กุฐิ ที่อยู่ติดเชิงเขาเราไว้ 2 กุฐิ เผื่อจะใช้ห้องน้ำ ท่านบอกเราว่า โยมตามสบายนะ คือท่านไม่ยุ่งเรื่องแสดงธรรมอะไรให้ศิษย์เราฟังเลยให้เรา แสดงเองทั้งหมด เพราะ
เมื่อวันที่ 18 ตอนที่เรามากางเต็นท์ กับเอาเสบียงบางส่วนมาลงกันก่อน ได้ มอบหนังสือ “พลิกตำนานหลวงปู่ทวด”ทิ้งไว้ให้ท่านหนึ่งชุด กับบอกท่านว่า “พระอรหันต์ธาตุ ของหลวงปู่มั่นเสด็จมาหาเราเยอะมาก เมื่อจบงานนี้จะมอบให้พระคุณเจ้า หนึ่งองค์” พระอาจารย์ชำนาญ ตอบว่า “อาตมาเป็นคนอิสาน หลวงปู่มั่นอยู่ในใจของอาตมา มาตลอดเวลา” ท่านคงดีใจมาก ซึ่งเราก็มอบให้พระคุณเจ้าจริงๆ “วันที่ 22 ตอนเย็น อาตมาจะเดินทางไปฮ่องกง” “โยมทราบว่ามีปัญหาที่นั่นมิใช่หรือพระคุณเจ้า” “เกี่ยวกับการสงฆ์ ไม่ยุ่งกับด้านการเมืองนะโยม พรุ่งนี้วันที่ 21 หลังจากคณะของโยม ทานอาหารกันแล้ว อาตมาจะพาไปเดินธุดงธ์ไปดูน้ำตกแห่งหนึ่งที่ยังไม่เปิดเผย มีนักท่องเที่ยวบางส่วน ที่จำนวนน้อยพามาดูโดยไกต์นำทาง” พูดพลางพระคุณเจ้าเอาโทรศัพท์มาเปิดรูปน้ำตกให้ดู “ไกลมากไหมพระคุณเจ้า โยมกลัวโยมจะเดินไม่ไหว” “ประมาณ กิโลครึ่ง”
ตามตอนต่อไป

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย ( ส่งต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนา เราจะจัดส่งให้ทางเรือ ) หากท่านใดสนใจ

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน
หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ
