ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 199

ความลังเลสงสัยมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนจะน้อยหรือมากแตกต่างกันไปสุดแท้แต่วาสนาบารมีกับกรรมเก่า หากใครได้เรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ พร้อมทั้งมีความชำนาญที่จะอ่านดาวได้หมด หรือเข้าถึงศาสตร์แห่งการตีดาวแตกได้ มันจะผุดนิสัยใจคอทุกอย่างของคนผู้นั้นขึ้นมาในดวงให้รู้หมด ลืมบอกไปจากบทก่อนว่า บัดนี้แม้เราจะอายุมากตามกาลเวลา เปลี่ยนมาเป็นครูสอนสมาธิแล้วก็ตาม ผู้ที่เคยได้ตรวจดวงชะตากับเรามานานๆ ยังตามใช้บริการโดยจากทาง Line บ้าง Messenger บ้าง ทั้งจากออสเตรเลีย และอเมริกา รวมถึงเมืองไทย บางคนตามหาเราอยู่ 7 ปี ที่มากที่สุดคือ 16 ปีกว่าจะหาตัวเราเจอ แล้วบอกว่าทุกอย่างที่จานทัก ได้เกิดขึ้นหมด บางคนดูกับเราตอนอายุ 38 จน อายุ 64 ให้ลูกสาวตามหาตัวเราจนเจอ ทุกวันนี้ยังไปมาหาเราอยู่ที่เชียงใหม่ เพราะการอ่านดวงดาวแบบตีดาวแตกของเรามีผิดพลาดน้อยมาก ดวงของคนจะบอกความลังเลสงสัยให้เรารู้ได้ไม่ยาก จะมีมนุษย์เพียงไม่กี่คนที่เกิดมาโดยปราศจากมารตัวนี้ หรือมีก็อาจมีน้อยมาก คนพวกนี้มักอาศัยบารมีเก่า ได้โชคดีเกิดมาเป็นเจ้าคนนายคน ผู้นำได้ชี้นิ้ว เพราะปัญญาจากทางโลกที่เขาได้ร่ำเรียนมา ซึ่งส่วนมากมักจะนำมันมาใช้คู่กับตัวความโลภ ไม่รู้จักพอ คนพวกนี้จะกล้าตัดสินใจไม่ว่าผิดหรือถูกโดยไม่มีการลังเล ถ้าตัดสินใจผิดสามารถปัดความรับผิดชอบไปได้อย่างหน้าด้านๆ เพราะอำนาจหน้าที่ ที่เราเห็นๆ กันอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ สุดท้ายจบลงอย่างร้อนกันทุกคนหาความสงบสุขไม่ได้ นอนหลับตาได้เพียงข้างเดียว เพราะความหวาดผวาต้องหลบๆ ซ่อนๆ เรื่องการลังเลของมนุษย์ที่เกี่ยวกับตัวเลขกับดวงดาวพิสูจน์ให้เห็นได้ง่ายมาก ลองมองดูรอบๆ ตัวเราเอง คนที่เรารู้จักอาจในที่ทำงาน ที่โรงเรียน ทำไมพอถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างในวงสนทนากับเรา เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ถึงกับตัดสินใจไม่ได้ ไม่พูดถึงเฉยเลย คนบางคนพอถึงเวลาต้องตัดสินใจ เลิกล้มแผนนั้นไปเลยอย่างไม่ให้เหตุผล โดยยังไม่ลงมือทำอะไรด้วยซ้ำ จะมีคนบางราศีที่ขัดแย้งกันเอง คนหนึ่งจะไปซ้ายอีกคนจะไปขวา เหมือนสองคนในร่างเดียวกัน คนอีกบางราศีจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหญ่ๆ ชอบทำอะไรแบบซ้ำซากจำเจ เกิดที่ไหนตายที่นั่น ให้ย้ายเมือง ย้ายจังหวัดย้ายประเทศ อุต๊ะ หยาบคายอย่ามาพูดกะชั้น ชั้นจะอยู่ของชั้นตรงนี้จนวันสุดท้าย มันไม่อย่างนั้นสิ ตายไปแล้ววิญญาณยังไม่ไปไหนวนเวียนอยู่ตรงนั้นเพราะความยึด ต้องเกิดมาเป็นจิ้งจกตุ๊กแกอยู่กี่ภพกี่ชาติ …. เวรจริงๆ เพราะไม่กล้าตัดสินใจจึงได้ปล่อยให้โอกาสที่ดีๆ ในชีวิตหลุดลอยไปกี่หน คนรุ่นลูกรุ่นหลานแซงหน้าไป ตัวเองหยุดอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน แล้วบางทีมานั่งเสียดายโอกาสนั้นภายหลัง มันกินใจเจ็บปวดทุกทีที่คิดถึง เพราะไม่เคยได้ให้โอกาสแก่ตนเองเลยสักครั้งในชีวิต ชีวิตจึงอยู่กับที่ สาเหตุเพราะความลังเลสับสน คนบางคนจะมีนิสัยแบบไปไหนไปกัน เจ๊กลากไปไทยลากมา ตามเขาตลอด จนเขาลากไปจบเอาป้ายสุดท้ายในคุกในตารางในนรกก็ยังคิดไม่ได้ คนบางคนมีปัญญาไหวพริบขึ้นมาหน่อย หาวิธีจะขจัดความลังเลสงสัย เขาไปซุ่มซ้อมปฏิบัติธรรมเสาะหาครูบาอาจารย์ที่ถูกกับจริต เพราะเขาเชื่อว่า พระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น คือทางแก้ ทางออก สามารถตอบโจทย์ของทุกคำถาม เป็นทางออกของทุกปัญหา เขามีความเชื่อที่ถูกต้องแล้ว ( อันนี้จากประสบการณ์ของตัวเราเองที่ลองมาหมดทุกแบบ มาจบลงด้วยธรรมมะของพระตถาคต ที่นำเรามาสู่จุดนี้ได้ ขอยืนยันมันสุขมันสงบจริงๆ ทุกๆ วันยังได้สอนธรรมมะทางหน้าเฟสบุ๊ค คนรออ่านกันอย่างหิวกระหาย ) เขาได้พบครูบาอาจารย์ แล้วเขาเข้าใจนำกลับมาปฏิบัติต่อที่บ้านเพราะมันถูกกับจริตเขาทุกคำสอน เขาปฏิบัติมาถูกทางจากฐานเก่าของเขา แต่แล้วทำไม ยิ่งปฏิบัติความลังเลสงสัยนั้นกลับเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า จบลงด้วยมารมันได้ยัดเยียดความสับสนปนลงมาให้เขาอีกหนึ่งดอก มันยิ่งสร้างความสับสนลังเลให้เขางง จนไปต่อไม่เป็น ว่าเป็นนิมิต เป็นอาการปีติ หรือเป็นอะไรกันแน่ คำตอบ มี 2 ข้อคือ
1) มันเป็นมารเข้ามาขวางทางบุญเราให้เราไปต่อไม่ได้ ทำให้ชีวิตเราต้องวิบัติ ซึ่งเราว่ามันเป็นอาการที่ดี ว่าเราได้เดินทางมาถูกทางถูกทิศแล้ว มารจึงต้องเข้าขวางให้เราไปต่อไม่ได้ คนส่วนมากพอมาถึงขั้นนี้ ถึงขั้นหยุดเลย สติแตก หันไปใช้ชีวิตอย่างเดิมๆ แต่ถ้าใครได้เจอครูบาอาจารย์แบบของแท้ ครูจะแก้ให้
2) เกิดจากเป็นอาการปฏิเวธ อันเกิดจากเราไปชะล้างจิตซักฟอกจิตด้วยรสแห่งพระธรรม เป็นอำนาจของพระธรรมที่ทำให้มารหรือกิเลสได้แสดงตัวของมันออกมาทีละตัว ทีละตัวให้เราได้เห็นเพื่อได้ต่อสู้กับมันกันทีละตัว คนที่ปฏิบัติธรรมจนได้กรรมฐานชั้นสูง จะรู้ว่าของเล่นในจิตนั้นมากมายแค่ไหน บางคนก็เรียกว่าของแถม ทางแก้คือ ปฏิบัติต่อไปโดยใช้ตัววิริยะ กับขันติ เคยทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น หรือจัดหนักติวเข้มไปเลย ให้รู้แดงรู้ดำกันไป แล้วจะเข้าถึงตัวสติ กับปัญญาเมื่อไหร่เมื่อนั้น อาการลังเลสงสัยจะค่อยๆ เบาบางลงไปจนถึงขั้นมลายหายไป หมดตั้งแต่เมื่อไหร่เราไม่รู้ได้ เพราะยิ่งปฏิบัติๆ ไป จินตนาการยิ่งแจ่มชัด ภาพพจน์ต่างๆ ผุดขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนกับยาวนาน
คำตอบของการปฏิบัติมีอยู่ ว่าเมื่อมารมันรู้ว่า เขาคนนั้นจะเดินหน้าปฏิบัติ เพื่อใช้ธรรมมะของพระตถาคตขจัดความลังเลสงสัย ความลังเลสงสัยจะมากขึ้น ถ้ามารมันรู้ว่า เขาคนนั้นจะปฏิบัติเพื่อขจัด กำหนัดราคะ มารมันจะระดมกำหนัดราคะ กับจัดฉากให้ได้พบถ่านไฟเก่า หรือคนที่เขาใฝ่ฝันมานาน มันจัดให้เลย หากคนๆ นั้นจะปฏิบัติเพื่อตัดตัวโทสะ ที่ทุบตีพ่อแม่ทุกวันอยู่แล้วเป็นปกติ มารจะจัดให้กลับไปฆ่าพ่อแม่ทำอนันตริยกรรมกันเลยทีเดียว เพราะเราเคยบอกกับลูกศิษย์เราเสมอว่า เจ้ากรรมนายเวรเรานั้น มันแอบแฝงอยู่ในจิต อยากได้อะไรทำอะไร มันเข้าขวางหมด พระตถาคตจึงสอนให้เราปล่อยวาง ไม่อยากได้ ไม่อยากหวังไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่อะไรทั้งนั้นเพื่อไม่ให้มันรู้ว่าเราคิดอย่างไร จะทำอะไร จะไปทางไหน เพราะถ้ามันรู้ มันขวางเราหมด จัดฉากได้เก่ง ดลจิตดลใจให้เราออกนอกลู่นอกทาง บางคนจงใจปีนรั้วแหกคอกออกนอกลู่ไปเลย วิ่งกู่ไม่กลับ การปล่อยวางคือคำตอบ หากอยากทำอะไร ทำไปเลย อย่าให้มันรู้
ตอนต่อไปจะพูดถึง สูงสุดของจินตนาการ จินตนาการที่ให้ผลบวก กับถูกต้องนั้นทำได้อย่างไร มันให้ผลสูงสุดถึงขั้นไหน เมื่อเราอ่านกันมาถึงขั้นนี้ เราจะรู้ว่า การปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ไหว้พระเป็นส่วนประกอบ กับตัวยาที่สำคัญที่สุดจะช่วยรักษา กับตอบโจทย์ของมนุษย์ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ เราได้เอาชีวิตเราทั้งชีวิตเข้าพิสูจน์แล้วใครจะไม่เชื่อ หรือไม่ชอบ มันทางเลือกของใครของมันใครทำใครได้ ไม่บังคับ

อมิตาพุทธ

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ และหนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หนังสือชุดนี้จัดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย  หากท่านใดสนใจติดต่อเราได้ที่

E-mail varunee5@yahoo.com หรือ
เบอร์โทร 085-660-2475 หรือ
Facebook -วารุณี พิทักษ์สินากร
 

ธรรมมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ทุกชาติทุกศาสนาที่นำมาศึกษาปฏิบัติ ต่างพบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่เคยเน้นว่า ธรรมะเป็นของพระองค์ หรือของพระพุทธศาสนา แต่เป็นของมวลมนุษย์ชาติที่มองหา ความสุข สงบ ทางใจ นำไปใช้ได้ทุกคน

หนังสือจากศูนย์สู่ดับสูญ รวบรวมคำสอนขององค์พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกของชาว พุทธแท้ พุทธะ ของท่านพุทโธ