จิตที่ผ่านเจโตสมถะมาอย่างดีแล้วจะเหมือนเรดาร์ นอกจากสามารถจัดวางแผนการที่จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จ ความเป็นจริง ความร่ำรวย ความสงบสุขของจิตได้แล้ว ยังสามารถควานหาอุปกรณ์ที่เราจำเป็นต้องใช้ ต้องมีปรากฏขึ้นมาให้เราเห็นในจินตนาการแล้ว ยังเป็นเสมือนเรดาร์นำทางเราพาเราไปจนได้มันมา จิตจะจัดการต่อเติมเหมือนช่วยเราประกอบจิ๊กซอว์ แม้จะใช้เวลานานเพียงใดภาระกิจนั้นๆ จะเสร็จอย่างสมบูรณ์
จินตนาการที่ให้ผลบวกนั้นคือ ต้องเป็นจินตนาการที่เป็นกุศล ไม่เบียดเบียนเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ทำลายโลก ไม่ทำลายผู้ร่วมโลก หรือระบบนิเวศ ส่วนมากจะเป็นจินตนการของผู้ทรงศีล หรือผู้ปฏิบัติธรรมจนได้ตัวปัญญาวิมุตติมาแล้ว สูงสุดของจินตนาการของท่านเหล่านี้คือ เขาไม่ต้องมานั่งวางแผนให้เสียเวลา แผนงานต่างๆ จะผุดขึ้นมาเองในมโน กับเป็นแผนงานที่ดี แม่นยำถูกต้อง แน่นอนต้องบริสุทธ์ ปราศจากอกุศลกรรมที่จะนำพาชีวิตเขาให้ดำเนินชีวิตไปตามแนวทางที่จินตนาการผุดขึ้นมา หรือพูดง่ายๆ มันคืออาการของจิตอันเกิดจากการปฏิบัติธรรมของคนปฏิบัติ จนได้อาการปฏิเวธของจิตมาแล้วนั่นเอง ( อาการปฏิเว จะเกิดขึ้นได้จากปริยัติ ปฏิบัตินำหน้ามาก่อนเท่านั้นจึงจะเกิดอาการปฏิเวธตามมาได้ คือต้องศึกษาธรรม ทั้งภาคทฤษฏี กับภาคปฏิบัติกันให้เคร่งเสียก่อนอาการต่างๆ ทางจิตที่เรียกว่า ของแถม เช่นหูทิพย์ ตาทิพย์ อ่านใจคนออก ฯลฯ จึงจะตามมาได้ ) เอาให้ชัดจากประสบการณ์ของตนเอง หลวงปู่หลวงตาจากต่างภพต่างภูมิ จะสื่อข่าวสารลงมาบอกเราว่า ให้ทำอะไร ไปทางไหน จินตนาการแบบนี้ เราใช้มาเปิดคลาสสมาธิ มาหลายคลาสแล้ว มันมองเห็นภาพคลาส ภาพนักเรียน จำนวนนักเรียนที่จะมาในคลาสได้อย่างถูกต้อง ทุกคลาส เรียบร้อยราบรื่นทุกงาน เพราะจิตของคนเราเมื่อไปชะล้างมันบ่อยๆ มันจะทำงานไม่ต่างจากเรดาร์ สามารถรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากหลวงปู่หลวงตาทุกพระองค์ได้ จะได้สิ่งวิเศษเหล่านี้มาเป็นของแถม จะได้มาจากการปฏิบัติธรรม ศึกษาเล่าเรียนธรรมของพระตถาคตอย่างจริงจังเท่านั้น ซึ่งย้อนกลับไปในอดีต เราศึกษาธรรมมะของพระองค์โดยไม่รู้ว่าจะมีของแถมเหล่านี้ตามมา เพราะขณะที่ปฏิบัติธรรมเราอยู่ต่างประเทศ ครูบาอาจารย์ไม่มี ทำผิดๆ ถูกๆ ตามลำพังอยู่คนเดียว จนพระเดชพระคุณเจ้าหลวงปู่มั่นจับตามองดูอยู่ คงสมเพชเวทนา เข้ามาสอนทางนิมิต
การสื่อกันทางจิตนี้ เราทำมาบ่อยมาก ทั้งกับหลวงปู่ทวด ปู่กวนอู เช่นกับหลวงปู่ทวด กราบขออารธนาหลวงปู่ไปดูแลลูกศิษย์ลูกหาที่กำลังอยู่ในวิบาก 4 คน หลวงปู่มีเมตตามาก หลวงปู่ไปช่วยจริงๆ ทุกคนบอกเราว่า จาน หลวงปู่มาปลุกหนูให้ลุกมาสวดมนต์ เตือนให้หนูสวดมนต์ อีกคนบอกว่าขณะหนูนั่งสมาธิเห็นหลุมดำกำลังจะดูดหนู เข้าไปเห็นเป็นลำแสงสีทองมาช้อนหนูขึ้นมา เพราะเราส่งพระหลวงปู่ทวดไปให้บูชาหนึ่งองค์ก่อนหน้านี้ คนนี้โดนคุณไสยเอาเกือบตาย เราช่วยออกมาได้ทันโดยอารธณาหลวงปู่ทวดให้ไปช่วย อีกคนโดนคุณไสยเหมือนกัน เรากราบอารธณาหลวงปู่ทวดไปช่วย เธอบอกเห็นหลวงปู่เดินเข้ามาในบ้าน ผีเผ่นกันกระจาย กับทำชีนอนไม่หลับมาแรมเดือน เราจึงกราบอาราธนาปู่กวนอูให้ไปปิดทวารทั้งหมด ขอให้ชีนอนหลับ ได้เต็มอิ่มสักหนึ่งคืน ปู่ก็ไปทำให้ เพราะชีบอกมาในวันถัดไปว่า เมื่อคืนนอนหลับยาวรวดไปถึงเช้า ตื่นมาสดชื่นมาก ทั้งหมดนี้สำเร็จได้ด้วยจิตทั้งนั้น
จากจินตนาการสู่ความสำเร็จนั้น นอกจากความลังเลแล้วยังมีอุปสรรคอีกหนึ่งตัวที่ทำให้ฝันนั้นสลายลงได้ คือหยุดเร็วเกินไป หรือความอดทนมีไม่เพียงพอ มันร้ายแรงพอๆ กับความลังเลเลยทีเดียว การหยุดเร็ว หรือเลิกล้ม ดังภาษิตที่ว่า The winner never quits The quitter never wins ผู้ชนะ ไม่เคยหยุด ผู้หยุดไม่เคยชนะ ขอยกตัวอย่าง จินตนาการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่ออย่างมากมายจนกลายเป็นแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าที่แทบจะย้อนกลับเข้ามาเผาผลาญตนเองทำให้นั่งอยู่ไม่ติดที่ต้องออกไปต่อสู้ไขว่คว้ามาให้ได้ตามแรงปรารรถนานั้น
ย้อนหลังไปกว่า 32 ปีมาแล้ว ในวงการมวยตั้งแต่สมัยที่ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ยังเป็นแชมป์โลกรุ่นกลาง ได้แขวนนวมไปแล้ว 3 ปี ตอนอายุ 33 จากปัญหาสุขภาพที่หมอได้เตือนว่า หากกลับลงสังเวียนอีก ตะเกียงสองข้างของเรย์อาจมืดดับลงไปได้ วันหนึ่งเรย์ได้นั่งชมมาร์วิน แฮกเล่อร์ แชมป์โลกรุ่นมิดเดอร์ เวท ต่อย แฮกเล่อร์เป็นมวยที่มาแรงที่สุดขณะนั้น ต่อย 62 ครั้งแพ้เพียงครั้งเดียว อายุ 32 ปี เรย์มีจินตนาการขึ้นมาว่า วิธีการต่อยของ แฮกเล่อร์ เขาน่าจะเอาชนะแฮกเล่อร์ได้ไม่ยาก ขณะนั้นค่าตัวของแฮกเล่อร์อยู่ที่ 12 ล้านอเมริกันดอลล่าร์ ส่วน เรย์ อยู่ที่ 11ล้านอเมริกันดอลล่าร์ ซึ่งในสมัยนั้นนับว่ามากไม่ใช่น้อย จัดว่าแพงกว่านักชกทุกคนในประวัติศาสตร์ของวงการมวย ความเชื่อค่อยๆ ทวีคูณเพิ่มขึ้นในจินตนาการของเรย์ จนกลายเป็นแรงปรารถนาอยากจะเอาชนะแฮกเล่อร์ผู้ที่ได้ชื่อว่า ไม่เคยแพ้ผู้ใด ทั้งคู่เป็นคนสีผิว เรย์จึงดำเนินการ ท้าแฮกเล่อร์บนผืนผ้าใบ มวยคู่นี้ไม่เคยเจอกันมาก่อน เพราะเรย์แขวนนวมไปก่อน แฟนมวยได้เรียกร้องให้คนทั้งคู่มาชกกันก่อนเรย์แขวนนวมเสียอีก แต่ไม่เคยสมหวังที่จะได้เห็นกระทิงกับแรดต่อกรกันบนผืนผ้าใบ เมื่อข่าวได้กระพือพัดไปในวงการมวยทั่วโลก ว่าคนทั้งคู่จะขึ้นชกกันแล้วโดยแฮกเล่อร์ ให้เรย์เป็นผู้เลือกเลยว่าจะชกเวทีไหน ขนาดนวมเบอร์อะไร เอากี่ยก การชกนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา จนปัจจุบันนี้วงการมวย ยังไม่มีการชกของคู่ใดจะล้มล้างสถิติความยิ่งใหญ่ของการชกของ เรย์ กับแฮกเล่อร์ลงได้ ตั๋วที่นั่งแถวหน้าสุด ใบละ700$ มูลค่าการชกครั้งนั้น พวกเกจิอาจารย์ในวงการมวย เผยออกมาสูงถึง 78 ล้านดอลล่าร์ เมื่อจบสิ้นการชก แฮกเล่อร์ตัดไปเลย 50 % เซียนวงการพนันมวย ต่อ แฮกเล่อร์ กับ เรย์ 4/1 กันทีเดียวเพราะเรย์ แขวนนวมมา 3 ปี 75% ของเซียนมวยทั่วโลก จึงฟันธง กันให้แฮกเล่อร์ชนะ เพราะปัญหาสุขภาพของเรย์ กับเพราะห่างเวทีไปถึง 3 ปี คนทั้งโลกต่างจับจ้องอยู่หน้าจอทีวีเพื่อเป็นพยานสายตา กับมวยระดับโลกของคนคู่นี้ เรย์ เลือกชกเพียง 12 ยก แทน 15 ยก จากแรงปรารถนาของเรย์ ทุกหมัดที่เขาส่งออกไปเป็นชุด มันเปี่ยมไปด้วยความแม่นยำ ไฟปรารถนา ความเชื่อมั่น ที่ว่าเขาจะต้องชนะแฮกล์อย่างแน่นอน ภาพนั้นมันขึ้นมาในจินตนาการของเขาเรียบร้อยก่อนขึ้นเวทีเสียอีก ที่เหลือเพียงแต่เขาออกไปจัดการกับแฮกเล่อร์เท่านั้น 12 ยก ทุกยกมันเป็นความมันส์ ที่ทั้งคู่มีแต่เดินหน้าหากัน ถอยไม่เป็น ซึ่งเรย์จัดเป็นมวยชั้นเชิงชกแล้วหนี ยั่วแล้วถอย ต่อยแล้วหลบฉาก เวลาได้จังหวะ เรย์รัวใส่เป็นชุดมันเข้าเป้าอย่างจังโดนใจกรรมการ จึงชนะคะแนนจากกรรมการ 2 คน ให้เรย์ชนะไปในท้ายสุด จากวันนั้นมาแฮกเล่อร์แขวนนวมไม่กลับลงเวทีอีกเลย แฟนมวยทั่วโลกกระเป๋าฉีก