ต่างภพต่างภูมิกับดวงดาว 96
- มีนาคม 17, 2019
- ตอน เติมพลัง

เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องเรา นามสมมุติว่า ป. เราโตมาด้วยกัน รู้จักกันมาตั้งแต่อายุ 15 – 16 ปี ป.เป็นลูกของน้า หรือน้องแท้ๆ ของแม่ ป. มีพี่น้องด้วยกันอีก 5 คน ซึ่งถิ่นกำเนิดพวกเขาอยู่ จ.อุดร เพราะแม่เราเป็นชาวอุดร เมื่อแม่ย้ายถิ่นฐานตามพ่อมาอยู่ที่กรุงเทพฯ น้าจึงส่งลูกทุกคนมาเรียนที่กรุงเทพฯ พักอยู่ที่บ้านเราได้ชั่วระยะเวลา พวกเขาจึงย้ายไปเช่าหอพักรวมกันอยู่ ไม่นานเราได้ไปทำงานเมืองนอก จึงห่างเหินกันไปโดยปริยาย ภายหลังทราบว่าน้องทั้งหมด เมื่อเรียนจบต่างก็กลับถิ่นเกิดที่อุดรกันหมด จากนั้น ป.ได้ย้ายไปทำมาหากินที่เชียงใหม่ น้องๆของป.ย้ายตาม ป. สิ่งที่ป.ถนัดและดังมาก คือการออกแบบผ้าบูติค ใยกัญชา ออกแบบเสื้อ เสื้อคลุม เสื้อสูท วาดภาพบนผ้า ผลงานบูติคของ ป. ดังมากในยุคนั้น
ถึงกับส่งขายห้างเซ็ลทรัลในกรุงเทพฯ น้องอีกสองคนของ ป. คือ ใจ กับแอ้ ยิ่งออกแบบได้แหลมคม ทั้งกระเป๋า พวกกุญแจ พวกเขาทั้งสามคนเป็นหนึ่งในเชียงใหม่ พ่อค้าแม่ขายทุกคนต่างชะเง้อชะแง้ คอยดูผลงานใหม่ๆ แล้วพากันก๊อปเรียนแบบพี่น้องสามคนนี้เป็นว่าเล่น เมื่อเรากลับจากอเมริกา เราก็ตามน้องๆขึ้นไปเชียงใหม่ พอดีคุณพ่อได้ย้ายครอบครัวของท่านไปอยู่เชียงใหม่ เราจึงไปเยี่ยมหาพ่อบ้าง เยี่ยมหาน้องๆบ้าง ตามประสานกไร้รัง นานๆ ทีก็ย้อนกลับไปดูแลบ้านที่กรุงเทพฯเสียที จำได้เคยไปอยู่กับแอ้ แล้วช่วยวาดลายกุหลาบลงบนผ้าใยกัญชา ซึ่งเราจะวาดลายกุหลาบแบบเถาไม้เลื้อยได้สวยงามมาก แอ้นำไปตัดเสื้อสูตรขายในราคาแพง ตอนนั้นไม่มีเงิน อยากซื้อไว้เองใจจะขาด
ทุกครั้งที่เรากลับจากอเมริกา เราจะสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของ ป. ว่าแรกเลยเธอค่อนข้างธรรมะธรรมโม พอความรู้ด้านปฏิบัติธรรมเธอก้าวหน้าขึ้นเธอหันไปเล่นด้านอวิชชา เลี้ยงผี กุมาร ถึงขั้นเสกผีลุกปลุกผีนั่ง กับพลังจิตด้านลบเธอมีมากจริงๆ ของเธอของจริง เธอเคยเรียกทรงกลดของพระจันทร์ กับพระอาทิตย์ให้เราดูจังๆเลย ทั้งๆ ที่เราเห็นกับตาว่ามันไม่มีทรงกลมก่อนหน้านี้ เธอรู้ในสิ่งที่หลายๆ คนไม่รู้ เราได้ขอร้องเธอเตือนเธอ ครั้งที่ 3 ที่เรากลับจากอเมริกามาหาน้องๆ ที่เชียงใหม่เยี่ยมคุณพ่อตามปกติทุกเที่ยว เที่ยวนี้เราตกใจมากที่เราเห็นใบหน้าของ ป. ซึกหนึ่งเป็นผี อีกซีกหนึ่งเป็นคน เราได้กล่าวคำเตือนเธออย่างซีเรียสเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนกลับไปอเมริกาอีก เมื่อกลับมาครั้งล่าสุด ทุกคนอายุจวนเข้าเลข 6 กันหมดแล้ว ทราบว่า ป.กระโดดเข้าวงการ เจ้าเข้าทรง ทำคุณไสย เล่นของปล่อยของ เสกผีลุกปลุกผีนั่ง กับเคยทำคนตายเพราะเวทมนตร์คาถาของเธอมาหลายคนแล้ว เราเสียใจมากแต่ที่มากที่สุดคือ พ่อแท้ๆ ของเธอเสียชีวิต เธอรักพ่อเธอมาก เธอจึงทำพิธีจะเก็บเอาวิญญาณของพ่อเธอมาไว้ใช้เป็นบริวาร ครั้นน้องสาวคนเล็กของเธอรู้เพราะพ่อไปเข้าฝันให้เอากระดูกพ่อไปซ่อนหรือลอยน้ำให้หมด มันวุ่นวายกันไปหมด แล้วเธอยังส่งวิญญาณ หรือบริวารของเธอมารังแกเรา กับอากรรณ แต่เพราะเราได้ปฏิบัติถึงขั้นศีลบริสุทธิ์แล้ว อะไรทำเราไม่ได้ แม้แต่คุณไสย เธอบอกเราว่า ช่วงนั้นพลังเราตก เราสับสน ต้องมาพักอยู่ที่บ้านเธออาทิตย์ละ 5 วัน เพื่อเธอจะทำพิธีเติมพลังให้ ช่วงนั้นเรากลับมาใหม่ๆ สับสน เชื่อเธอเพราะเธอคือลูกพี่ลูกน้อง เราโตมาด้วยกันเธอรักเคารพเรามาก บทเรียนครั้งนี้มันสูงค่ามาก ภายหลังเธอมาบอกเราว่า เห็นพระศิวะ รูปร่างใหญ่ สูงกว่าหลังคาบ้านเดินตามพี่เข้ามาในบ้าน ป. เธอพูด ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่า พระศิวะท่านเป็นห่วง จึงตามเราตลอด เพราะอดีตชาติ ชาติหนึ่งเราเคยเป็นลูกท่านมาก่อน กับท่านคงสมเพชกับความโง่ ความซื่อของเรา บ้านเช่าของเธออยู่แม่คือ ถ้ามาจากทางดอยสะเก็ดจะทะลุออกบ่อสร้างสันกำแพงได้ บริเวณนั้นตอนนั้นเต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี อากาศดีมาก บ้านเช้าเธออยู่กลางดงต้นลำใยในเนื้อที่เกือบไร่ เป็นบ้านไม้ทรงไทยเก่าๆ มีระเบียงเกือบรอบบ้าน เธอเอาของอะไรบ้างไม่รู้มากองไว้เต็มบ้าน ห้องพระ หิ้งพระมีหลายหิ้ง ในห้องนอนก็เต็มไปด้วยเครื่องรางของขลัง ของเก่า ไม้เขี่ยศพ ดาบเก่าพระเจ้าตากบาตรเก่าหลวงปู่โต จิปาถะ ไม่รู้ของจริงหรือเปล่า เราได้ปฏิบัติธรรมมาหลายปีแล้ว ป. คงจับถึงความบริสุทธิ์กับพลังบางอย่างในตัวเราที่เราไม่เคยรู้ บอกแล้วงัยเพราะซื่อ และเซ่อ แต่ ป. รู้ เธอจัดให้เรานอนในห้องหนึ่งบนตั่งไม้ลักษณะเหมือนเตียงแคบๆ มีมุ้งกางให้เสร็จเพราะรู้ว่าเราแพ้ยุง นอนที่ไหนต้องมีมุ้ง ลืมบอกว่าเป็นบ้านสองชั้น จะมีเสื้อผ้าของเธอ มีราวแขวนผ้า โต๊ะตัดผ้าตามสั่งของลูกค้า อยู่ทุกมุมบ้าน ความเป็นระเบียบไม่ค่อยมี แต่สมัยเด็กแล้วพี่น้องเราทุกคน เราจัดว่าเรามีระเบียบวินัย ความสะอาดเรียบร้อยมากกว่าพี่น้องทุกคน เพราะเรามีความเชื่อว่า บ้านเป็นอย่างไร ใจเป็นอย่างนั้น บ้านเราจึงจะรกไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นที่เป็นทางไม่งั้นเรานั่งไม่ติดที่ คืนแรกที่นอนเพื่อให้เธอทำพิธี ก่อนนอนเธอเรียกเข้าไปในห้องพระ ห้องพระเธอดูน่ากลัวมากกว่าจะเย็นสบายแม้จะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปเก่าๆ แต่มันมีอย่างอื่นด้วย ความเป็นพุทธคุณไม่มีเหลืออยู่เลย แล้วนำเราไปที่ระเบียงตอนกลางคืน เธอเรียกทรงกลดของพระจันทร์ให้เราชม แล้วปล่อยเราเข้าไปนอน เชื่อสิแม้จะซื่อ จะโง่ขนาดไหน ก็ปฏิเสธความรู้สึก การสัมผัส กับพลังลบรอบๆมุ้งไปไม่ได้ มันทำเรานอนไม่หลับจึงเปลี่ยนหัวนอนหมุนไปหมุนมา ก็ตาค้างนอนไม่หลับ อึดอัดเหมือนมีสายตาหลายคู่มองอยู่รอบมุ้ง มาเผลอหลับเอาตอนจะใกล้รุ่ง พอเช้ามาเธอมาบอกว่า เมื่อคืนตอนตีสาม ป.นั่งสมาธิในห้องพระ แล้วย่องมาดูเรา ( เพราะคงสงสัยว่าทำไมบริวารของเธอจึงทำอะไรเราไม่ได้ ) เห็นเท้าพี่โผล่ออกมานอกมุ้ง เลยดึงมุ้งมาปิดขาพี่ กับขณะที่นั่งสมาธิอยู่ได้ยินเสียง “ ฉับๆๆ ” เป็นเสียงทหารของพี่ เขามาตั้งแถวสวนสนามอารักขาพี่ในท้องนาตรงข้ามบ้าน เพราะพี่เคยเป็นกษัตริย์มาก่อน หลายชาติมาก ทหารของพี่เขารักพี่มากนะ ทีหลังพี่จะทานอาหารเรียกพวกเขาด้วยนะ เราจะกลับหอพักเราวันนี้ละ เราไม่นอนละ เรานอนไม่หลับ “ ไม่ได้พี่จะต้องอยู่ที่นี่ ป. จะเติมพลังให้พี่งัย ”
เราไม่ฟังคว้าเป้ได้ โยนขึ้นเบาะหลังของสีหมอกแล้วเผ่นออกมาเลย ไม่ย้อนกลับไปอีกเลยเพราะบ้านเธอมีวิญญาณเดินกันยั้วเยี้ย ภายหลังทราบข่าวจากน้องอีกคนว่าเธอล้มเจ็บ เพราะวิญญาณที่เธอเลี้ยงย้อนกลับมารุมเธอ กับอาการที่เรานอนไม่หลับคืนนั้น เพราะสมุนของเธอพยายามจะเข้าร่างเรา แต่บางอย่างในตัวเราอาจเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กับพลังของปู่ศิวะผลักกันอยู่ ยื้อกันไปยื้อกันมา ไอ้คนที่นอนอยู่ตรงกลางเลยตาค้าง มันน่ากลัวมาก มันเป็นประสบการณ์ที่เกิดกับตนเอง อดคิดไม่ได้ว่า คืนนั้นถ้าครูบาอาจารย์ไม่ช่วย เราจะออกมาในสภาพไหน จากนั้นเราไม่กลับไปยุ่งกับเธออีกเลย เตือนก็แล้ว แต่เธอได้เลือกทางชีวิตของตนเองแล้ว จะคุยอยู่กับน้องอีกเพียงสองคนเท่านั้น อีกสามคนก็ตัดทิ้งหมด บัวใต้ตมโปรดไม่ได้แล้ว จนเรามาได้บ้านบุญรักษา เราไม่ยอมบอก ป. ให้รู้ว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน เพราะเธอสามารถเอากระดูกผีมาโยนใส่บ้านได้ มีตัวอย่างมาแล้วเธอทำมาแล้ว จนทุกวันนี้บ้านบุญรักษา สร้างมาเข้าปีที่ 8 และจนเธอจากไปแล้ว เธอก็ไม่เคยได้มาสัมผัสกับพลังของฝ่ายขาวที่แรงที่สุดของบ้านบุญรักษา 4 ปีก่อนเธอจะดับ เธอโทรมาหาเราและพูดว่า “ พี่ช่วยน้องช่วยนุ่งด้วย ”
“ อย่า พี่ยังเอาตัวไม่รอด เธอไปตามทางของเธอ พี่ได้เตือนเธอมานานแล้ว ตอนนี้มันเข้ากระดูกเธอแล้ว ไม่มีใครช่วยเธอได้แล้วพี่เสียใจ ” แล้วเราวางหูไป ถัดมาอีก 3 ปี ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอพยายามโทรหาเราอีกหลายครั้ง บอกเธอไปบวชชีแล้วนะโกนหัวเลยปฏิบัติธรรม อยู่ที่ดอยสะเก็ด ความใจเด็ดของเรา เราตอบไปว่า “ ขอตัวนะพี่ไม่คุย ” เธอพยายามจะโทรหาเราอีก ก่อนเธอเสียชีวิต พยายามจะคุยกับเราถึง 3 – 4 ครั้งแต่เราไม่คุยด้วย เบื้องบนไม่ให้คุยด้วย ท้ายสุดเธอได้บอกกับน้องคนรองจากเธอไปว่า “ ครั้งนี้มันกะเอาพี่ถึงตาย ” กับพยายามถามน้องๆถึงเรา เธอเชื่อสุดขั้วหัวใจว่าเราคนเดียวที่จะช่วยเธอได้ จากนั้น 3 วันเธอก็ตายเพราะคุณไสยที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาเพราะเธอสร้างศัตรูไว้มาก ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ตอนที่คุณแม่เสียชีวิตเราปิดเงียบไม่บอกน้องๆ ทุกคน เพราะน้องทุกคนรักแม่เรามาก แต่ถ้าน้องมางานศพ ป. ต้องมาด้วยแน่นอน กับ ป. ต้องเรียกเอาวิญญาณคุณแม่ไปเป็นบริวาร ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากเพราะตอนนี้ คุณแม่ขึ้นไปปฏิบัติรับใช้หลวงปู่หลวงตารอเราอยู่ข้างบน
ละครจากเรื่องจริงบทนี้แสดงให้เห็นว่า ธรรมมะย่อมชนะอธรรม และธรรมย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม แม้ว่าผู้ปฏิบัติคนนั้นจะโง่ จะซื่อขนาดไหน กับใครทำอะไรย่อมได้ในสิ่งนั้น
เรื่องมันยังไม่จบ เพราะพอ ป. ตายไป วิญญาณอันชั่วร้ายของเธอยังตามรังควาญน้องคนที่สามของเธอคือใจ ใจเป็นคนจิตอ่อน ที่น่าสงสารมาก เวลา ป. ไปเรียนคุณไสยได้วิชาอะไรใหม่ๆมา จะนำมาลองกับใจ เป็นเวลาถึง 12 ปี ใจตกอยู่ในฝันร้ายทำมาค้าขายผ้าไม่ได้ เพราะถูกพี่สาวของตนเองปัดแข้งปัดขา ตอนนี้เราไปถอนล้างอาถรรพ์ต่างๆ ที่บ้านใจให้หมดแล้ว เชิญแม่พระโพธิ์สัตว์ช่วยไปปดเป่า คลีนบ้านให้น้องด้วย เพราะน้องคนนี้เป็นคนดีน่าสงสาร คืนนั้นที่เรียกเราไปเพื่อเติมพลังให้เรา กลับกลายเป็นว่ามีเจตนาจะดูดพลังของเรานั่นเอง ถ้าไม่โดนกับตัวเราคงไม่กล้านำมาบอกเล่าให้เป็นวิทยาทาน

พลิกตำนาน …ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ฉบับสมบูรณ์ กำลังจะออกเป็นรูปเล่ม จากปากคำบอกเล่าของหลวงปู่ทวดที่เมตตาเราอย่างสูง หลวงปู่ …เปิดเผยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามเณร คนที่ถือดอกมณฑาสวรรค์มาหาหลวงปู่ ร่างกายขันธ์ของทั้ง 2 อยู่ที่ไหน และพระองค์ที่ไปปรากฏที่มาเลเซียนั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่ ที่ว่าหามร่างท่านไปน้ำเลือดน้ำหนองหยดที่ไหนให้ปักหมุดตรงนั้น ร่างนั้นใช่หลวงปู่ทวดหรือไม่? หลวงปู่ถอนแล้ววิธีถอนทำอย่างไร? คือไม่อยู่แล้วไม่ปรารถนาพุทธภูมิแล้ว …จะถูกนำมาถ่ายทอด ทุกคำสนทนากับเรา โดยแบ่งเล่มนี้เป็น 3 หมวด