เราไปถึงวัดป่าปางกึ๊ด ตอน 10 โมงเช้ากว่าๆ ญาติโยมกำลังทานข้าวอยู่ในศาลาขนาดใหญ่  ชวนพวกเราทานด้วย แล้วบอกว่าหลวงพ่ออยู่ ท่านฉันข้าวอยู่ กับถามเราว่านัดหลวงพ่อหรือเปล่า มาจากไหนกัน  พอบอกไม่นัด เขาตกใจมาก

“ คุณรู้ไหม บางคนบินมาจากกรุงเทพฯ  มา 3 – 4 เที่ยวยังไม่พบหลวงพ่อ คุณมาได้อย่างไร ” “ นี่เป็นหนที่ 2 แล้วที่มาโดยไม่ได้นัดหมาย มาแบบดุ่ยๆ แต่อธิษฐานขอพบหลวงพ่อ ทำบ่อยกับหลายๆ วัด ” เขาทำหน้าแปลกใจ …. “ เพราะปกติ หลวงพ่อจะติดกิจคนโน้นนี้นิมนต์ออกจากวัดแต่เช้าทุกวันไม่เคยอยู่วัด คิวยาว กว่าจะกลับวัดก็บ่ายๆ คุณโชคดีมากเลย ” สักพักใหญ่ เด็กวัดได้ยกอาหารก้นบาตรหลวงพ่อบัวเกตุออกมาวางบนโต๊ะอาหาร ชาวบ้านที่รอกันอยู่แล้วต่างรุมกันเข้าไปคว้าอาหารก้นบาตรของท่านมาทานกันเป็นสิริมงคล คณะเราได้กันมาอย่างถ้วนทั่ว เด็กมากระซิบบอกเราว่า เข้าพบหลวงพ่อได้ แต่อย่าคุยนาน ท่านเจ็บเท้า ปวดขา พวกเราจึงเข้าไปกันอย่างสำรวม ก้มลงกราบท่าน เราจึงเริ่มทวนความเดิม เรื่องคุณแม่ ดอกไม้เงินดอลล่าร์ จนถึงพระธาตุพระอัฐิของหลวงปู่มั่น ซึ่งเราอัญเชิญไป 2 องค์ องค์หนึ่งจะถวายท่าน อีกองค์ ให้ท่านชมเฉยๆ ว่า เป็นองค์ที่เรา กราบขอให้หลวงปู่ตกลงมาใส่ตัวเราเลย ปรากฏว่าพระอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่นองค์นี้ตกลงมาที่ไหล่ข้างซ้ายของเราขณะที่เราสวดมนต์อยู่ที่บ้านบุญรักษา หลวงพ่อบัวเกตุหัวเราะ กับถามเราว่า “ โยมปฏิบัติที่วัดไหน ” “ โยมเอาบ้านเป็นวัด โดยโยมสอนลูกศิษย์ลูกหาว่า  พระอยู่ที่ใจเอาโลกทั้งใบเป็นวัดเจ้าค่ะ ” จากนั้นหลวงพ่อก็เริ่มเล่าอะไรอันเกี่ยวกับพระอัฐิธาตุ พระบรมสารีริกธาตุบ้าง ตั้งแต่สมัยท่านยังเป็นเด็กๆ มีพวกโจรมาลักลอบขุดกรุ ขุดเจดีย์ เอาแก้วแหวนเงินทองไป เจอผอบพระธาตุ มันไม่สนใจ เมื่อท่านยังเป็นเด็กน้อยไม่รู้ความไปเก็บเอาพระธาตุเหล่านั้นมาให้พ่อแม่ดู พอพ่อแม่ชาวบ้านเห็นต่างพากันไปดู จึงรู้ว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ กับเล่าอีกหลายๆ เรื่องอันเกี่ยวพระบรมสารีริกธาตุ แล้วจบลงด้วยคำว่า “ อาตมาสิ้นสงสัย ” เราอยากคุยกับท่านนานๆ ท่านก็อยากคุยด้วยต่อ แต่เราเบรคก่อนอยากให้ท่านพักผ่อน จึงชวนกันกลับ ขออนุญาตท่านเก็บภาพหมู่ ซึ่งท่านยอม กับยังถือโอกาสเล่าเรื่องหลวงปู่ทวดที่ถอนจากพุทธภูมิให้ท่านฟัง กับขออนุญาตท่านจะส่งหนังสือพลิกตำนานหลวงปู่ทวดมาให้ท่าน 3 ชุดเลย ”

ทุกครั้งที่ปิดคลาส เราขออะไรเบื้องบนไม่เคยขัด เพราะคลาสของเรา 3 ภพ 3 ภูมิเขามาฟัง หลวงปู่หลวงตา เทพไท้เทวาทุกชั้นมาฟังทุกคลาส มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน  ท่านยินดี พอใจในการเทศน์ อยากได้อะไรขอท่าน ท่านให้หมด ทริปนี้ ลูกศิษย์วงในเรา 3 คน ยิ่งกว่าส้มหล่น คือ เจ้าเปิ้ล เจ้าเป้ เจ้าหน่อย อีกสองคน คือคุณ เล็ก กับเจ้ารัตน์ ซึ่งคนหลังมาจากชุมพรบินมาเข้าคลาสที่เชียงใหม่เนื่องจากศรัทธาเราแก่กล้า ยิ่งกว่าถูกหวย การจะไปสนทนา กราบไหว้พระอรหันต์ตนเป็นๆ สายพระป่านั้น ทำได้ยากมาก กับทางเข้าวัดของหลวงพ่อบัวเกตุโหดมาก โค้งหักศอกสูงชันพอๆ กับทางไปแม่ฮ่องสอน แต่ถนนแคบกว่ากันมาก โชคดีที่ฝนไม่ตกหนักแค่พรำๆ กลางทางยังใจหายใจคว่ำไปเจอรถบรรทุกขวางกลางถนน เนื่องจากถนนแคบ เขาหลบให้เราเต็มที่ คิดว่าเขาจะให้รถตู้เราแซงขึ้นไปกลับกลายเป็นมีรถจะสวนทางลงมา  คณะเราคิดว่าจะไม่รอด แต่ทุกอย่างกลับราบรื่น

ว่างๆ ลองค้นหาเข้ากูเกิล ฟังธรรมจากหลวงพ่อบัวเกตุ เสียงท่านเย็นสบายมาก หากกลับมาเมืองไทยคิดจะไปกราบท่าน แนะนำให้โทรนัดท่านอย่างเป็นทางการ อย่าคิดทำอย่างเรา ระดับหลวงพ่อบัวเกตุจะใช้ลูกฟลุ๊กไม่ได้ หากบารมีไม่ถึงท่านไม่ได้กราบท่านหรอก